ฉบับที่ ๓๕ ประจำเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๔๘

" เชื้อสายธรรมกาย "

 

 

           อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันที่พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) เข้าถึงธรรม เป็นครั้งแรก ซึ่งหลวงพ่อ จะขยายความ ให้พวกเราฟัง สักนิดหนึ่งก็แล้วกัน

             คนในโลกนี้ทั้งโลก ล้วนมีพระธรรมกาย อยู่ในตัวด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครที่จะไม่มีธรรมกาย ไม่มีกาย อรูปพรหม กายพรหม กายทิพย์ กายมนุษย์ละเอียด และดวงปฐมมรรคอยู่ในตัว

 

             เพียงแต่ว่าเขาไม่สนใจที่จะศึกษาหาความรู้ ไม่สนใจ ที่จะปฏิบัติให้เข้าถึง เนื่องจากบุคคลเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็น พระภิกษุ หรือเป็นฆราวาสก็ตาม เกิดมาข้ามภพ ข้ามชาติ ไม่เคยมีใครมา เคี่ยวเข็ญให้สนใจ ให้ศึกษาหา ความรู้ในเรื่อง เหล่านี้เลย

             เพราะฉะนั้น ต่างคนก็ต่างไปทำอะไร ตามที่ตัวเอง ชอบใจ จนกระทั่งเวลาผ่านไปเป็นกัปๆ พอมาถึงชาตินี้ แม้ได้ยินเรื่องราว ที่เกี่ยวกับ ธรรมกาย ก็ยังมีความรู้สึกเฉยๆ

             ตรงกันข้ามกับพวกเรา ที่เพียงแค่ได้ยินคำว่า “ ธรรมกาย” เท่านั้น ก็หูผึ่งขึ้นมาทีเดียว ทั้งที่ยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องสักเท่าไหร่ แล้วก็ดั้นด้นกันมาจน กระทั่งถึงวัดพระธรรมกาย

             ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่า พวกเรามีเชื้อสายธรรมกาย คือ เคยสนใจ เคยศึกษา เคยค้นคว้า เคยติดตาม และเคยปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย มาข้ามภพข้ามชาตินั่นเอง

             ยิ่งพอได้อ่านประวัติของ พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำว่า กว่าท่านจะ ค้นวิชชาธรรมกายมาให้เราได้ ท่านต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ก็เกิดอาการขนลุกซู่ซ่า บางคนถึงกับน้ำหูน้ำตาไหลก็มี อยากจะทำให้ได้อย่าง กับท่านบ้าง เสียดายที่ไม่ได้ ปฏิบัติธรรม กับท่านบ้าง เสียดายว่าเกิดมาช้าไปบ้าง

             แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตา ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรม ตามอย่างท่าน ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะเข้าถึงพระธรรมกาย เหมือนอย่างกับท่านได้เมื่อไหร่ แต่ก็มีความเชื่อมั่นว่า สักวันหนึ่งต้อง เข้าถึงธรรมกาย จนได้นั่นแหละ

             ไม่เฉพาะแต่พวกเราที่นั่งกันอยู่ตรงนี้เท่านั้น แม้ญาติโยมที่อยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ถ้าได้เคยศึกษาค้นคว้า ข้ามภพข้ามชาติ มาในเส้นทางเดียวกัน เขาก็จะมีอาการ อย่างนี้เหมือนกัน

             เพราะฉะนั้น คนที่มีเชื้อสายธรรมกายเหมือนอย่างกับพวกเรา จึงมีอยู่ทั่วไป และเขากำลังรอคอยเราอยู่ หลวงพ่อก็หวังว่า จะช้า จะเร็ว วิชชาธรรมกาย คงได้แผ่ขยายไปทั่วแผ่นดิน แผ่ขยายไปทั่วโลก อย่างแน่นอน

             อีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะให้เป็นข้อสังเกตก็คือ เมื่อสมัยที่หลวงพ่อเข้าวัดใหม่ๆ ตอนนั้นยังไม่ได้บวช พอถึงวันคล้ายวันเกิดของ คุณยายอาจารย์ของเรา ก็จะมีการทำบุญกันเป็นพิเศษ ที่บ้านธรรมประสิทธิ์ ซึ่งบางปีก็ตรงกับวันอาทิตย์ บางปีก็ไม่ตรง

             มีอยู่ปีหนึ่ง วันคล้ายวันเกิดของ คุณยายอาจารย์ไม่ตรงกับ วันอาทิตย์ หลวงพ่อไปเที่ยวแวะเกะกะ อยู่ข้างทางสักพักหนึ่ง กว่าจะมาถึงวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ก็ประมาณ ๖ โมงเย็น พอไปถึงหลวงพ่อธัมมชโย ซึ่งตอนนั้นท่านก็ยังไม่ได้บวช ถามว่า

             “ พี่เด็จทำไมเมื่อเช้าไม่มาล่ะ วันสำคัญๆ อย่างนี้ อย่าให้ขาดสิ เพราะเป็นวันรวมบุญใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นวันเกิด หรือว่าเป็นวันเข้าถึงธรรม ของท่านผู้มีบุญก็ตาม ไม่ใช่ธรรมดาหรอกนะ เพราะเป็นผังสำเร็จจาก พระนิพพานทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านยังแข็งแรง ยังมีชีวิตอยู่อย่างนี้ ถ้าใครได้ทำบุญร่วมกับท่านล่ะก็ เหมือนได้เข้าไปอยู่ผังสำเร็จเดียวกับท่าน วันหลังพี่เด็จอย่าขาดอีกนะ”

             ในเวลาต่อมาหลวงพ่อสังเกตพบว่า สำหรับผู้ที่มีบารมีแก่กล้า ผังสำเร็จของท่านพิเศษๆ ทั้งนั้นเลย คือมักจะตรงกับวันเพ็ญ

             ยกตัวอย่าง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราก็ ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ในวันเพ็ญ

             วันที่ทรงแสดงธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ซึ่งเป็นปฐมเทศนา ก็เป็นวันเพ็ญ

             ถึงคราวที่จะปักหลักพระพุทธศาสนา ต้องให้หลักการ ให้อุดมการณ์ ให้วิธีการ ที่สมบูรณ์ ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา แก่พระสาวก พระพุทธองค์ก็ทรงเลือก เอาวันมาฆบูชา ซึ่งเป็นวันเพ็ญเช่นกัน

             ยิ่งกว่านั้น หลังจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศพุทธธรรม ให้แพร่ขยายคลุมไปทั่วชมพูทวีปแล้ว ก็ทรงบัญญัติให้เอาวันเพ็ญที่มีพระจันทร์เต็มดวง และวันเดือนดับ เป็นวันสวดปาฏิโมกข์อีกด้วย

             เพราะว่าในวันเพ็ญที่มีพระจันทร์เต็มดวงนั้น บรรยากาศช่างเหมาะ เสียเหลือเกิน คือเอาความสว่างไสว ภายนอก มาเป็นสื่อให้ตรึก ให้ระลึก ถึงธรรมะภายใน ความสว่างภายในจะได้สว่างยิ่งๆ ขึ้นไป

             ครั้นในวันเดือนดับ แม้บรรยากาศภายนอกจะมืดมิด แต่ก็มาร่วมประชุมกัน เพื่อให้ใจตรึกระลึกถึงธรรม และสำรวจตรวจสอบตัวเองให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ความมืดจากภายนอก จะได้ไม่รั่วไหลเข้ามารดใจ ให้มีความมืดมิดไปด้วย

             ส่วนความมืดที่มีค้างอยู่ในใจมาบ้างแล้วตั้งแต่เกิด ก็จะถูกเตือนด้วยพระปาฏิโมกข์ เลยไม่กล้ากำเริบ ไม่กล้าแผ่ขยาย จึงเป็นการควบคุมความมืด ทั้งภายนอก ทั้งภายใน ไม่ให้รุกคืบเข้ามาในจิตใจได้

             พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ท่านตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมเรื่อยมา นับอสงไขยภพ อสงไขยชาติ ไม่ถ้วน ครั้นพอถึงวันเพ็ญกลางเดือน ๑๐ บารมีที่สั่งสมมาเต็มที่ แล้วอาศัยบรรยากาศภายนอก ที่เอื้อความสว่าง จากพระจันทร์เต็มดวง ช่วยเสริมให้ท่านเข้าถึง ความสว่างภายในได้อย่างน่าอัศจรรย์

             ปรากฏการณ์ตามธรรมชาติอย่างนี้ ไม่ใช่ว่าจะมีแต่พระเดช พระคุณหลวงปู่เท่านั้นหรอก แม้พวกเราก็อาจจะมีได้ ถ้าหากเราได้ตั้งใจเพาะนิสัยรัก การประพฤติปฏิบัติธรรม อย่างที่ท่านทำเป็น ต้นแบบเอาไว้ให้ดู

             เพราะฉะนั้น วันเพ็ญกลางเดือน ๑๐ ที่จะถึงนี้ ต้องถือว่าเป็นวันฤกษ์งามยามดี ที่สุดประจำปี เป็นวันที่เราสามารถ ทำความเพียร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

             และเนื่องจากฤดูนี้เป็นฤดูเข้าพรรษา อากาศไม่ร้อนไป ไม่หนาวไป เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมอย่างยิ่ง ซึ่งปีหนึ่งจะมีฤดูกาล อย่างนี้อยู่เพียงครั้งเดียว ก็อยากจะเตือนพวกเราว่า ว่างจากการงานแล้ว รีบปลีกเวลามา นั่งสมาธิกันเถอะ นั่งให้เยอะๆ เลย

             ถึงแม้ว่าเราจะเกิดมาไม่ทันพระเดชพระคุณหลวงปู่ แต่ว่ายังทันคำสอนของท่าน ก็แสดงว่าเรากับท่านมี ความผูกพันข้ามภพ ข้ามชาติกันมาไม่น้อย เราจึงได้พอใจที่จะเป็นลูกศิษย์ พอใจที่จะปฏิบัติธรรมตามท่าน บุญกุศลที่เราได้สั่งสมมา ในเส้นทางนี้ คงมีไม่น้อยทีเดียว

             เพราะฉะนั้น จากวันนี้เป็นต้นไปจนกระทั่งถึงวันที่พระเดชพระคุณหลวงปู่เข้าถึงธรรม เตรียมใจกันให้ดี ตั้งใจนั่งสมาธิคอยท่าเอาไว้ รักษาใจให้ผ่องใสเข้าไว้ เพื่อให้ผังของเรากับผังของท่าน เป็นผังเดียวกันให้ได้

             ถึงคราวบุญกุศลที่สะสมไว้เต็มที่ วันเพ็ญกลางเดือน ๑๐ นี้ เราอาจจะเข้าถึงพระธรรมกาย ภายในตัว เหมือนอย่างกับท่านบ้าง หรือว่าภพชาติต่อไป เราจะได้ตามติดท่านไป ไม่ตก ไม่หล่น ท่านเข้าถึงธรรม เมื่อไหร่เราก็เข้าถึงธรรม ได้เมื่อนั้นเหมือนกัน

             ส่วนคุณพ่อคุณแม่ และญาติพี่น้องของเรา แม้ตอนนี้เขาจะยัง ไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่ แต่ถ้าสามารถชวนให้ มาร่วมงานในวันนั้น หรือว่าชวนให้ร่วมทำบุญ ทำทานในวันนั้นได้ ก็จะเป็นเชื้อเป็นสายผูกพัน กันต่อไปในเบื้องหน้า

             แล้ววันใดวันหนึ่ง เดือนใดเดือนหนึ่ง ปีใดปีหนึ่ง ชาติใดชาติหนึ่ง บุญเต็มที่เข้าเขาก็จะติดเข้าไปในผังสำเร็จ เดียวกันอีกนั่นแหละ ซึ่งจะเป็นการตอบแทน พระคุณของท่านเหล่านั้น อย่างยิ่งทีเดียว

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล