ฉบับที่ ๓๕ ประจำเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๔๘

" SUPER MONK " วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย "

 

 

           เรียบเรียงโดยนักข่าวหัวเพชรฯและทีมงาน SUPER MONK [email protected] โทร.๐- ๑๔๘๑- ๗๗๗๘

 
             เพลงชาติที่ดังขึ้นทุกเช้า และในยามเย็น ของทุกวัน บ่งบอกถึงความรัก และหวงแหนแผ่นดินไทย ของเหล่าบรรพชน ที่ได้ฝ่าฟันอุปสรรค นานัปการ ได้เสียเลือดเนื้อ ทุกอย่างยาก ที่ใครจะบ่งบอกได้ถึง ความสูญเสีย จนได้มาเป็นแผ่นดินไทย อย่างภาคภูมิใจ ในปัจจุบัน สัญลักษณ์ที่บ่งบอก ว่านี่คือดินแดนสยามนั้น

             มีอยู่แต่จะมีสัญลักษณ์ใดเล่า ที่สามารถกล่าวได้อย่างองอาจ และเป็นเอกลักษณ์ของความ เป็นไทยแท้เท่า กับสัญลักษณ์ ในพระพุทธศาสนา ดังเช่นมีเหตุการณ์ ที่น่าสนใจใน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ดินแดนไทยพุทธ ที่ใหญ่ที่สุดใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีบุญสถานซึ่งธำรง ไว้ในความเป็นไทย มีส่วนในการปกป้อง ผืนแผ่นดิน นี้ให้เป็นรูปขวานทอง ที่สมบูรณ์นั่นคือ วัดชลธาราสิงเห พระอารามหลวง หรือชาวบ้านต่างกล่าว ขานในนามว่าวัดพิทักษ์แผ่นดินไทย

             ครั้งสมัยจักรวรรดินิยม ชาวตะวันตก ล่าอาณานิคม พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงตระหนักดีว่า อังกฤษ พยายามยึด มาลายูตอนเหนือ ซึ่งขณะนั้นยัง อยู่ภายใต้การปกครอง ของสยามให้จง ได้อำเภอตากใบ ตอนนั้น ขึ้นอยู่กับ รัฐกลันตันจึง ถูกอังกฤษผนวกไปด้วย แต่ด้วยพระปรีชา ของพระบาทสมเด็จ พระพุทธเจ้าหลวง ที่ได้ยกเหตุผล ทางศิลปะแบบ ปักษ์ใต้อันงดงาม ของของโบสถ์ ในวัดแห่งนี้ว่า “ ศิลปะในวัด และวัดเป็นสถานที่ ของพระพุทธศาสนาอัน เป็นศาสนา ประจำชาติชาวสยาม แผ่นดินนี้ก็ควร เป็นสยามประเทศ ” อังกฤษจึงยอมรับ ด้วยเหตุผล การลงนามในครั้งนั้น ทำให้ตากใบเป็นไทยมากระทั่งทุกวันนี้ วัดชลธาราสิงเห จึงได้รับสมญานามว่า วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา...

             วัดแห่งนี้โดยมีพระไพศาลประชานาถ เป็นเจ้าอาวาส และเจ้าคณะอำเภอตากใบ ท่านเป็นบุคคลหนึ่งใน การได้รับรู้และรู้เห็นความ เป็นมาของวัด อีกทั้งได้พัฒนาวัดแห่งนี้ ให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป หลวงพ่อท่านได้เล่า ให้ฟังถึงประวัติ ความเป็นมาของวัดแห่งนี้ว่า “ ...เคยได้ยินได้ฟังจาก คนยุคแบ่งดินแดน เล่าว่าโบสถ์หลังนี้แหละ ที่มีศิลปกรรมแบบพุทธ จึงทำให้รักษาดินแดนตากใบ ให้กับเมืองไทยไว้ได้ วัดนี้จึงได้ชื่อว่า วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย ในปี ๒๔๐๓ เริ่มสร้างวัด เป็นป่าเป็นดง สร้างโบสถ์ในปีพ.ศ. ๒๔๑๖ เป็นโบสถ์ที่สวยสด งดงาม หลังหนึ่งใน แหลมมาลายู คนบริเวณแถวนี้หรือใคร ที่ได้เห็นแล้วเขาบอกว่า หลวงพ่อพุด ( พระครูโอภาสพุทธคุณ ) สร้างโบสถ์ได้วิจิตรมาก แม้นว่าอยู่ในดงในป่า ท่านสร้างได้ขนาดนี้นับว่าเยี่ยมจริง ”

             ปัจจุบันพระเดชพระคุณพระไพศาลประชานาถ ได้เป็นเจ้าอาวาสอันดับที่ ๙ ของวัดแห่งนี้ แม้นว่าตากใบในยามนี้ไม่สงบ เช่นเคยแต่ด้วยความเมตตา ของหลวงพ่อ ทำให้ท่านอยู่ร่วม กับต่างศาสนิก ด้วยความสงบ คุณครูอนันต์ สุขเพชร์ โรงเรียนตากใบ กล่าวว่า “ หลวงพ่อท่านมีวัตรปฏิบัติที่น่าเคารพยกย่องอย่างสูง เพราะว่าเป็นพระนักพัฒนา เวลาทำอะไรท่านตั้งใจ ทำจริงตลอดเวลา เป็นผู้ที่มีความเมตตากรุณา ต่อศาสนิกชน ไม่ว่าจะเป็นศาสนาอิสลาม ศาสนาพุทธ ทุกศาสนามาหาท่าน ท่านก็ให้ความช่วยเหลือ ทุกโอกาสครับ” คุณสมพงษ์ แซ่ลี้ มัคนายกวัด “ ท่านเป็น คนที่ดีมากๆบวชมา ได้หลายพรรษาแล้ว ชาวบ้านชอบท่านทุกคน ท่านสร้างคุณงามความดีไว้เยอะ”

             หลวงพ่อท่านได้เปิดเผยถึงความในใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ว่า “ เวลาที่พระออกบิณฑบาต จะต้องมีทหารติดตาม โดยสะพายย่าม สะพายปืนเหมือน ศิษย์วัดเดินคุ้มครอง มีทั้งทางซ้ายทางขวา เพื่ออะไรก็เพื่อความปลอดภัย ดูแล้วมันพูดไม่ออก เศร้าใจ ทุกๆรูปที่อยู่กันทุกวันนี้ มีรูป สองรูปที่เฝ้าวัด ตายก็ขอตายตรงนี้ ญาติโยมก็มีอยู่ถ้าเรา ไปเสียเท่ากับเราทิ้งเขา ดังนั้นถ้าเราอยู่ วัดไหนก็อยู่กันไป สิ่งไหนที่ช่วยกันได้เรา ก็ช่วยกันไป แต่จะให้สมภารหนีวัดเนี๊ย ไม่หนี”

             ตามปกติหลวงพ่อท่านมีอุปนิสัย ไม่ดูรายการโทรทัศน์แต่เมื่อมีรายการช่อง DMC ในจานดาวธรรม ท่านเป็นผู้หนึ่งที่ติดตามชม อย่างต่อเนื่อง “ รายการในดาวธรรม มันดูได้หลายอย่าง เช่นรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝัน ได้ทราบประวัติของพระพุทธเจ้า พระองค์นั้นพระองค์นี้ ในแง่มุมต่างๆ หลวงพ่อธัมมชโย ท่านได้นำมาให้ดูดีมาก ทำให้เราได้รู้ว่า หลวงพ่อธัมมชโย และหลวงพ่อทัตตชีโว ท่านมีความสามารถมาก ทำให้คนเปลี่ยนจากมิจฉาทิฐิ มาเป็นสัมมาทิฐิ มันไม่ใช่ของง่ายนะ การที่ท่านสามารถ ทำได้อย่างนี้ ทำให้คนเข้ามานับถือพระรัตนตรัย ทำได้ถึงขนาดนี้อาตมาขอ อนุโมทนาสาธุอย่างยิ่ง ว่ามันหาพระแบบนี้ หายากไม่ใช่หาได้ง่ายๆ”

             แม้นว่าดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้าไป แต่ภาพของวัดชลธาราสิงเห ก็ยังสง่างามในความทรงจำ คล้ายกับประกาศ ถึงความองอาจ ที่ได้เป็นตัวแทน ธำรงวัดรักษา แผ่นดินไว้ได้อย่างสันติ เราในฐานะพุทธบริษัท ๔ ก็สามารถพิทักษ์ ชาติได้ด้วย การนำแสงสว่าง จากพระธรรมคำสั่งสอน ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธจ้า ไปสู่เพื่อนมนุษย์ ให้พบกับสันติสุข อันจะเกิดจากการเข้าถึง ความสุขภายใน เมื่อนั้นสันติภาพ อันแท้จริงก็จะบังเกิดขึ้น โดยไม่ต้องสละเลือด ของผู้ใดแม้เพียงหยดเดียว

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล