ครั้งล่าสุดที่ผมได้เข้าไปในห้องปั้น ขณะนั้นหลวงพ่อกำลังปั้น รูปเหมือนหลวงปู่ที่จะนำมาเป็นแบบหล่อด้วยทองคำ หลวงพ่อ กำลังปรับแต่งและเก็บรายละเอียดส่วนที่เป็นเศียรของหลวงปู่ เมื่อท่านหันมาเห็นจึงเอ่ยถามผมว่า
"ลองดูซิเหมือนไหม?"
"เหมือนครับผม"
"เหมือนใคร?"
"เหมือนหลวงปู่ครับ"
หลวงพ่อมักจะพักสายตาจากการปั้น แล้วหันมาชวนคุยด้วยคำถาม "ลองดูซิ ดูรู้ไหมว่าเป็นหลวงปู่"
บางทีก็ถามว่า "ดูซิเหมือนหลวงปู่หรือยัง"
แม้ผมจะยืนยันว่าเหมือนมากๆ เหมือนขนาดว่าองค์จริงๆ ของหลวงปู่มานั่งอยู่ต่อหน้า หลวงพ่อก็ยังยืนยันว่า "นี่เพิ่งปั้นได้แค่ ๕๐ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น"
ก็หมายความว่า หลวงพ่อจะต้องปั้นให้เหมือนมากกว่านี้อีก ๕๐ เปอร์เซ็นต์ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ต้องปั้นต่อไปอีกให้ถึงที่สุดของความเหมือน
ทำไมหลวงพ่อต้องปั้นและเก็บรายละเอียดยิบขนาดนั้น ท่านบอกว่า เวลาที่มองมาแล้วหลวงพ่อไม่อยากให้มีความรู้สึกสะดุดจุดใด สักจุดเลย เพราะว่าหลวงปู่ท่านเป็นบุคคลสำคัญ
บ่อยครั้งที่ผมสงสัยเมื่อเห็นหลวงพ่อเก็บรายละเอียดชนิดที่ไม่ยอมปล่อยให้ผ่านง่ายๆ อย่างภาพพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลวงพ่อปรับขยับบางจุดให้สูงขึ้นหรือต่ำลงอีกแค่หนึ่งหรือสองมิลลิเมตร เป็นเราคงพอไม่ปรับแล้ว เพราะคงไม่มีใครมองออกถึงความแตกต่าง แต่ สำหรับหลวงพ่อนอกจากจะมองออกแล้ว ยังปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ ต้องรีบแก้ไข เพราะคำนี้คำเดียว “มองแล้วไม่อยากให้รู้สึกสะดุด”
เวลาที่เห็นหลวงพ่อทำงานปั้นแล้วรู้สึกประทับใจ ดูหลวงพ่อมีความสุขในการปั้นองค์หลวงปู่มากๆ บ่อยครั้งที่หลวงพ่อต้อง ถอยห่างออกมา เพื่อให้ได้ระยะในการดู และเมื่อเห็นว่ามีจุดไหน ที่ยังสะดุดอยู่ หลวงพ่อก็จะจัดการแก้ไข ปรับแต่งขูดๆ พอกๆ ทันที ทำให้บรรยากาศในห้องปั้นมีมนต์ขลัง มีพลัง ทั้งน่าเคารพ และน่าศรัทธา
เคยไหมครับเวลาที่เราตั้งใจทำอะไรสักอย่าง เราจะมีสมาธิ จิตใจของเราจะมุ่งมั่นจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้น
ถ้าเราปั้นพระ ใจเราก็อยู่กับพระ
ถ้าเราปั้นหลวงปู่ ใจเราก็วนเวียนเกาะเกี่ยวกับหลวงปู่
ถ้าเราปั้นเส้นทางสร้างบารมี ใจเราก็อยู่กับบุญกุศล
ถ้าเราปั้นยอดขุนพล เราก็ต้องเริ่มปั้นหัวใจให้เป็นทองคำ
หลวงพ่อบอกหลักการปั้นว่ามีแค่ 2 อย่างคือ
การขูดกับการพอก
การขูด คือ เอาออก
การพอก คือ เอาเพิ่มเข้าไป
ง่ายๆ แค่นี้เอง หลวงพ่อยังย้ำว่าใครๆ ก็สามารถปั้นได้
ถ้าใครๆ ก็ปั้นได้ ผมเลยคิดอยากถามหลวงพ่อว่าต้องการ ผู้ช่วยปั้นบ้างไหมครับ งานจะได้เสร็จเร็วๆ?
...แต่ไม่กล้าถาม เพราะลึกๆ แล้ว ผมมั่นใจว่าอยางไรหลวงพ่อ ก็ต้องการผู้ช่วยปั้น
โดยไม่ต้องไปปั้นสิ่งอื่นใดเลย แค่ปั้นชีวิตของตัวเราเองให้สมบูรณ์ ให้เป็นชีวิตที่สูงส่งขึ้น มีคุณค่าขึ้น สมกับที่ได้เกิดมาในครั้งนี้
ลองถอยห่างออกมาให้ได้ระยะ แล้วมองชีวิตที่ผ่านมา มีจุดไหน บ้างที่การสร้างบารมีของเรายังไม่สมบูรณ์ มองดูแล้วรู้สึกสะดุด ถ้าดูแล้วยังมีจุดที่สะดุดอยู่ อย่าทิ้งไว้หรือยอมปล่อยผ่านไป รีบจัดการปรับแต่ง ตามหลักขูดๆ พอกๆ ที่ท่านบอกไว้ได้เลย
ขูดเอาความกลัว เอาปัญหา เอาอุปสรรค ออกไปจากใจให้หมด
แล้วพอกความสำเร็จ พอกเอาแต่บุญกุศล เข้ามาใส่ไว้ในชีวิตให้มากๆ
ขูดๆ พอกๆ เราปั้นเราปรับแต่งของเราได้ตลอด ปรับแต่งให้ได้อย่างหลวงพ่อ ที่มองดูแล้วไม่ให้มีจุดไหนสะดุดสักจุดเลย ถ้า ปั้นแบบนี้ ก็คงไม่ต้องถามแล้วว่า "หลวงพ่อต้องการผู้ช่วยปั้นไหมครับ"
อย่างไรเสียหลวงพ่อก็คงไม่ให้เราอยู่เฉยเป็นแน่ ต้องมาช่วยกันปั้น ให้เราเป็นผู้หนึ่งในความสำเร็จ
เราได้ทั้งหมดเมื่อเราช่วยท่านปั้น
ทุกครั้งที่เห็นรูปปั้นแล้ว ทำให้นึกถึง...
ใครคนหนึ่งปั้นดินให้มีชีวิต
เป็นพระปฏิมาสูงค่า
ปั้นพระ ปั้นเณร ปั้นให้เป็นกำลัง
ของพระพุทธศาสนา
ปั้นเยาวชน ปั้นเด็กดี V-Star
ให้รักการสร้างบารมี
ทุกวันนี้ใครคนนั้นยังมุ่งมั่นปั้นต่อไป
งานยิ่งใหญ่รอคิวปั้นอยู่ข้างหน้า
รวมถึงงานที่ต้องปั้นทุกๆ ชีวา
ให้หลับตาถึงที่พึ่งอยู่ภายใน
ปั้นให้สุดฝีมือ ปั้นให้ได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์นะ