ฉบับที่ 40 กุมภาพันธ์ ปี 2549

หมู่เกาะโซโลมอน ดินแดนแห่งตำนานมนุษย์กินคน



             โดย...มาตา

             ประเทศหมู่เกาะโซโลมอน (Solomon Islands) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ มหาสมุทรแปซิฟิก เป็นหมู่เกาะที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ จึงได้ชื่อว่าไข่มุกแห่งแปซิฟิค “Pearl of Pacific” ประชากรทั้งประเทศมีเพียง ๕๒๔,๐๐๐ คน ส่วนใหญ่มีเชื้อชาติเมลานีเซียน (Melanesian) นับถือศาสนาคริสต์ มีภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ แต่ชาวพื้นเมืองนิยมพูดภาษาพิดจิน ( Pidgin ) ที่แผลงมาจากภาษาอังกฤษ อาชีพหลักคือ การกสิกรรม ป่าไม้ และประมง อาหารหลักคือ ข้าว เผือก มัน ปกติชาวพื้นเมืองกินอาหารวันละ ๑ มื้อ เพราะอาหารแพงมาก และต้องดื่มน้ำมะพร้าวแทนน้ำเปล่า เพราะน้ำมีคุณภาพต่ำ ที่โซโลมอนมีฤดู   ๒ ฤดูเท่านั้นคือ ฤดูร้อนและฤดูฝน ในหนึ่งวันมีครบทั้ง ๒ ฤดู เช่น เช้าอากาศร้อน เย็นฝนตก หมู่เกาะโซโลมอนตกเป็นเมืองขึ้น ของอังกฤษมา ๘๕ ปี ได้รับเอกราชเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๑

             ในอดีตโซโลมอนเป็นดินแดน ของมนุษย์กินคนหลายเผ่า พวกเขามีความเป็นอยู่เรียบง่าย ไม่มีที่อยู่ที่แน่นอน อพยพไปเรื่อยๆ เพื่อความปลอดภัยจากศัตรูต่างเผ่า พวกเขามีอุปนิสัยก้าวร้าว ไม่รู้จักการให้อภัย หากมีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างเผ่า หรือระหว่างบุคคลก็ตาม ก็จะแก้ปัญหาด้วยการต่อสู้ฆ่าฟันกัน ใครแพ้ก็ต้องตกเป็นอาหารของผู้ชนะ นอกจากศัตรูแล้วพวกเขายังกินคนแปลกหน้าอีกด้วย

             การกินเนื้อคน เป็นเรื่องปกติของพวกเขา เหมือนที่คนทั่วๆไปกินเนื้อหมู เป็ด ไก่ ฯลฯ กินได้ทั้งแบบดิบๆ และปรุงสุก อาหารอร่อยชนิดหนึ่งที่นิยมกินกันคือ เนื้ออัดกระบอกไม้ไผ่ ซึ่งมีวิธีทำดังนี้ เริ่มจากฆ่าคนให้ตายเสียก่อน แล้วแล่เนื้อออกจากกระดูก ล้างให้สะอาด นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่น้ำทะเลเล็กน้อยพอเค็มๆ จากนั้นอัดใส่กระบอกไม้ไผ่ ปิดผา แล้วนำไปเผาคล้ายข้าวหลามประมาณ ๑ ชั่วโมงเนื้อก็จะสุกหอมน่ากิน

             แม้ชาวโซโลมอนจะกินคน แต่พวกเขาก็มีคุณธรรมที่เห็นได้เด่นชัดคือ มีความกตัญญูต่อบิดามารดา คอยดูแลเมื่อท่านแก่เฒ่า ถ้าตายก็นำมาฝังไว้ใกล้ๆ บ้านให้ลูกหลานได้บูชา นอกจากนี้พวกเขายังซื่อสัตย์ต่อคู่ครอง อีกด้วย ถ้าใครนอกใจคู่ครอง จะถูกฆ่ากินเพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างแก่คนรุ่นหลัง

             การกินเนื้อคนเริ่มลดน้อยลง เมื่อมิชชันนารีเข้ามาเผยแผ่ศาสนาราว ๆ ค.ศ. ๑๘๐๐ และในช่วงต่อๆ มาก็มีกฎหมายห้ามกินคนออกมา พวกเขาจึงไม่สามารถ ที่จะฆ่าใครกินได้ตามใจชอบอีกต่อไป

             บัดนี้ยุคมืดแห่งดินแดนคนกินคน ได้ผ่านพ้นไปแล้วอย่างแท้จริง เมื่อความสว่างไสว ด้วยแสงธรรมได้สาดส่องเข้าไปสู่ดวงใจของผู้คนในดินแดนแห่งนี้แล้ว โดยมี กัลฯสังเวียน ขั้นชัยภูมิ (เปเล่) เป็นกัลยาณมิตรให้กับชาวโซโลมอนในกรุงโฮนีอารา ( Honiara ) ด้วยการชักชวนพวกเขามาดู DMC ทางอินเทอร์เน็ต จากเว็บไซต์ www.dmc.tv ทำให้พวกเขามีโอกาสทราบ เรื่องกฎแห่งกรรม และเรื่องราวในปรโลก พวกเขารู้สึกตื่นเต้นมาก เมื่อรู้ว่ามีผู้ที่สามารถบอก ได้ว่าบรรพบุรุษ ของพวกเขาที่ตายแล้วไปอยู่ที่ไหน

             หลังจากดู DMC แล้ว เปเล่ก็ชวนให้พวกเขาลองนั่งสมาธิ โดยสอนให้นึกถึงดวงแก้วกลมๆ ใสๆ ไว้ที่ศูนย์กลางกาย พร้อมกับภาวนา “ สัมมาอะระหัง ” โดยไม่ต้องคิดอะไร ให้ทำตัวเหมือน อยู่คนเดียวในโลก ในช่วงแรกๆ พวกเขานั่งกันวันละครึ่งชั่วโมง ทุกวันในเวลาพักเที่ยง ครั้งแรกมีคนมานั่งเพียง ๒ คน เวลาผ่านไปเพียง ๔๐ วัน ตอนนี้มีคนมานั่งสมาธิแล้วถึง ๑๐๐ คน แลจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเขาไปบอกญาติพี่น้องต่อๆ กันไป และที่สำคัญสถานีวิทยุที่โซโลมอน ก็ได้ประชาสัมพันธ์ถึงกิจกรรม การนั่งสมาธิของกลุ่มนี้ด้วย

             ขณะนี้การนั่งสมาธิปฏิบัติธรรม เป็นเรื่องที่กำลัง in trend ในกลุ่มชาวโซโลมอนกลุ่มนี้ และนับวันจะยิ่งแพร่หลายไปสู่คนกลุ่มใหญ่ยิ่งๆขึ้น เพราะเมื่อพวกเขาได้พบกับ ความสุขอย่าง ที่ไม่เคยพบมาก่อน พวกเขาก็ไปชักชวนญาติมิตร มานั่งสมาธิกัน เพราะอยากให้ผู้อื่น มีความสุขบ้าง โดยที่เขายังไม่รู้อานิสงส์ของ การทำหน้าที่กัลยาณมิตรเลยด้วยซ้ำ

             เมื่อมีคนใหม่มามากขึ้น ห้องที่เคยนั่งอยู่เดิมก็แคบเกินไป จึงต้องหาที่ใหม่ ที่แห่งใหม่เป็นลานซีเมนต์ มีท้องฟ้าใสๆ เป็นหลังคา มีต้นไม้ให้ร่มเงา เจ้าของสถานที่ดีใจมาก ที่มีคนมารวมกันทำความดี ในที่ของเขา ตัวเขาเองก็มาร่วมนั่งสมาธิด้วย วันหนึ่งเขาใช้สีสเปรย์พ่นคำว่า “Buddha Hall” (อาคารของชาวพุทธ) ลงไปบนลานซีเมนต์ เขาไม่เคยรู้จักศาสนาพุทธมาก่อน และไม่รู้จักคำว่าวัด จึงใช้คำว่า Buddha Hall แทน ชาวพุทธคนแรกที่เขารู้จักก็คือ เปเล่ พระรูปแรกที่เขาเห็นก็คือ คุณครูไม่ใหญ่ใน DMC

กัลฯ สังเวียน ขั้นชัยภูมิ (เปเล่)


             พวกเขาติดอกติดใจการนั่งสมาธิมาก เพราะทำให้ผ่อนคลาย มีความสุข อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ใจปลอดโปร่งเป็นอิสระ บางคนเห็นดวงอาทิตย์สว่างไสวภายในตัว สว่างกว่าพระอาทิตย์ ยามเที่ยงวัน มีแสงเจิดจ้ารอบๆ ตัวและเป็นแสงสว่างที่เย็น ขานั่งสมาธิกันเป็นประจำทุกวัน และฝึกทำสมาธิไปด้วยในขณะทำงาน

             หลังจากได้นั่งสมาธิและได้ดู DMC แล้ว พวกเขาก็มีพฤติกรรมที่ดีขึ้น บางคนที่เคยหน้าตาเคร่งเครียด ก็ยิ้มแย้มมากขึ้น บางคนเคยทำงานผิดๆ พลาดๆ ต้องมีผู้ควบคุมอย่างใกล้ชิด ก็เริ่มทำงานได้ดีขึ้น บางคนก็หักดิบเลิกเหล้า บุหรี่และเลิกกินหมาก บางคนเลิกฆ่าสัตว์

 

             หนึ่งในจำนวนผู้มีบุญที่มานั่งสมาธิกันนี้ คือ เบน ฟรานซ์ ผู้มีประสบการณ์ เห็นดวงอาทิตย์ภายในตัวสว่างกว่าดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน เบนเป็นบุคคลคนแรก ในประวัติศาสตร์ของโซโลมอน ที่ขอสมัครเป็นชาวพุทธ เพราะอยากฝึกสมาธิซึ่งไม่มีในศาสนาอื่น อยากเรียนรู้คำสอน ในพระพุทธศาสนา และอยากเป็นพระ เขาอยากทราบว่าชีวิตพระเป็นอย่างไร เมื่อได้เห็นคุณครูไม่ใหญ่ เขาก็คิดว่า ชาวพุทธคือบุคคลที่มีความสุขที่สุดในโลก เขาอยากให้มีพระภิกษุ ไปที่โซโลมอนบ้าง และอยากให้มีประเพณีการบวชเกิดขึ้นในโซโลมอน

             เมื่อคุณครูไม่ใหญ่ทราบว่าเขาอยากเป็นชาวพุทธ ท่านได้เมตตาให้บททดสอบ ในการเป็นชาวพุทธแก่เขา ให้ทดลองปฏิบัติดู ๑ เดือนก่อน ถ้าทำได้ครบทุกข้อก็จะอนุญาต ให้เป็นชาวพุทธได้ บททดสอบมีดังนี้คือ ๑ . ไม่ฆ่ามนุษย์และสัตว์ ๒ . ไม่ลักขโมย ๓ . ไม่เจ้าชู้ ๔ . ไม่โกหก ๕.ไม่ดื่มของมึนเมา รวมทั้งไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข กตัญญูต่อผู้มีพระคุณ นั่งสมาธิทุกวัน แผ่เมตตาให้ผู้อื่น และให้อภัยกับทุกๆ คน

             คุณเบนและเพื่อนๆ ตื่นเต้นกันมาก พวกเขาคิดว่าบททดสอบนี้เป็นสิ่งที่เขาสามารถทำได้ เป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์ต่อทุกคน และจะทำให้โลกนี้ดีขึ้นด้วยถ้าทุกคนปฏิบัติตาม พวกเขาจึงขอเข้าร่วม บททดสอบนี้ด้วยอีก ๘ คน และในวันต่อๆ มา มีผู้ขอเข้าร่วมบททดสอบ เพื่อเป็นชาวพุทธเพิ่มขึ้นอีกหลายคน

             คุณโทมัส กิวเซียเป็นคนหนึ่งที่เข้าร่วมการทดสอบ เขาแสดงความรู้สึก ที่มีต่อพระพุทธศาสนา ไว้อย่างน่าประทับใจว่า “ ผมอยากบอกชาวโลกทุกคนว่า ผมมีความสุขมาก ที่ได้เริ่มชีวิตใหม่กับพระพุทธศาสนา ผมมีชีวิตที่ดีขึ้นเมื่อได้มารู้จักพระพุทธศาสนา ผมจะรักษาพระพุทธศาสนา ข้อปฏิบัติทั้งหลาย และการนั่งสมาธิ ไว้กับตัวผมตลอดเวลา ไม่ว่าผมจะไปที่ใดก็ตาม ”

             ผลการปฏิบัติธรรมของชาวโซโลมอน เป็นเครื่องยืนยันว่า ถ้าปฏิบัติถูกต้อง ตามหลักวิชชาแล้ว ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใคร เชื้อชาติ ศาสนาอะไรก็ตาม ทุกคนมีโอกาสที่จะได้รับความสุข และมีความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมทั้งนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆ คน อยากนั่งสมาธิมากขึ้น ส่วนเรื่องที่พวกเขากระตือรือร้นอยากเป็นชาวพุทธ และอยากเรียนรู้คำสอนของพระ สัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ก็ทำให้หลายๆ คนตระหนักว่า พวกเรามีบุญมากจริงๆ ที่ได้เกิดมาเป็นชาวพุทธ อยู่ในแผ่นดินที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง สร้างบารมีได้อย่างสะดวกสบาย ในเมื่อเรามีปัจจัยทุกอย่างพร้อมเช่นนี้แล้ว ก็เชื่อว่าคงไม่มีลูกพระธัมฯ คนใดยอมล้าหลังกว่าชาวโซโลมอนในการทำความดีอย่างแน่นอน


บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล