พีซเรฟโวลูชั่นอินฟิลิปปินส์

ตอน : คอนนี เอ็มบอรอง...ครูไอดอลแห่งศตวรรษนี้

กับเรื่องราวที่น่าอัศจรรย์ในพีซวิลเลจ

          เธอสามารถสอนลูกศิษย์ จนประจักษ์แจ้งในเรื่องราวต่าง ๆ แต่ไม่สามารถช่วยให้เขาเป็นคนดีได้ เธอก็ไม่อาจพูดได้เต็มปากว่า เธอเป็น " ครู "

          เรื่องราวของผู้หญิงคนนี้ได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลกผ่านรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาเมื่อไม่นานที่ผ่านมา ถึงแม้สมาธิจะไม่ใช่หลักสูตรในโรงเรียน แต่เธอก็ได้นำมาเป็นสูตรหลักที่จะช่วยให้นักเรียนของเธอได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ที่สำคัญคือ เธอได้แนะนำแก่คนกันเอง นั่นก็คือคุณครู เพื่อนร่วมวิชาชีพสายพระโพธิสัตว์ได้อีกกว่า ๒๐๐ ชีวิต

          เรื่องราวเหล่านี้ มิได้เกิดขึ้นในเมืองไทย แต่เกิดขึ้นหลังจากที่คุณครูชาวฟิลิปปินส์ท่านหนึ่ง ได้มาร่วมปฏิบัติธรรมกับพีซเรฟโวลูชัน ซึ่งพีซ เรฟโวลูชันนั้นก็คือ การฝึกฝนตนเองผ่านเว็บไซต์ www.peacerevolution.net มีการนำหลักทาน ศีล ภาวนา มาประยุกต์ให้เป็นสากล เพื่อให้คน ทั้งโลกปฏิบัติได้ทุกที่ทุกเวลา และยังจัดนั่งสมาธิออนไลน์ระหว่างพระอาจารย์ที่เมืองไทยกับผู้สนใจทั่วโลก สามารถกระตุ้นให้คนหันมาสร้างความดี สร้างสันติภาพโลกจากสันติสุขภายใน

          ครูคอนนีเล่าว่า เธอไม่เคยรู้สึกเชื่อมั่นว่า เธอจะสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้ได้ แต่หลังจากที่เธอฝึกสมาธิกับพีซเรฟโวลูชัน ผ่านทางเว็บไซต์ และได้รับเลือกมาปฏิบัติธรรมที่เมืองไทยเป็นเวลา ๒ สัปดาห์ เธอก็เกิดกำลังใจอย่าง ล้นเหลือ ที่จะนำสันติสุขภายในไปเผยแผ่ที่ เกาะมินดาเนาของเธอ ซึ่งที่ผ่านมาคอนนีเป็น ผู้ประสานงานกิจกรรมสันติภาพของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำจังหวัดลาเนา เดล นอร์เต ประเทศฟิลิปปินส์อยู่แล้ว ในเมื่อเธอต้องเดินทางไปตามที่ต่าง ๆ เพื่อจัดอบรมแนวทางการสร้างสันติภาพให้กับครูที่จะต้องประสานความเข้มแข็งให้กับนักเรียนซึ่งมาจากต่างความเชื่อ เธอจึงปิ๊ง ไอเดียที่จะใช้การนั่งสมาธิออนไลน์กับพวกเขา เธอเชื่อว่า “ครูมีอิทธิพลต่อนักเรียนอย่างสูง ครูทุกคนจึงต้องเป็นต้นแบบที่ดี ซึ่งมันต้องเริ่มจากสันติสุขในใจของครูเองก่อน”

          ที่ผ่านมาคอนนีจัดนั่งสมาธิออนไลน์ให้กับ ทั้งครูและนักเรียนไปแล้ว ๖ ครั้ง บางครั้งระบบ อินเทอร์เน็ตเกิดความขัดข้อง ทำให้คอนนีต้องแนะนำสมาธิด้วยตัวเอง แต่เด็ก ๆ จะเรียกร้องเสมอว่า วี วอนท์ มังค์ (We want monk.) พวกเราต้องการพระ ดังนั้นเมื่อไรก็ตามที่เธอไปจัดอบรมยังสถานที่ที่มีอินเทอร์เน็ตเร็วพอ เธอจะรีบติดต่อขอจัดนั่งสมาธิออนไลน์ทันที ครูหลายคนได้นำสมาธิกลับไปแนะนำให้กับนักเรียนในโรงเรียนของตัวเอง โดยจะให้นักเรียนนั่งสมาธิก่อนเริ่มเรียน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นความเชื่อใดก็จะมานั่งสมาธิร่วมกัน

          จากเสียงตอบรับที่ดีนี้เอง ทำให้คอนนี ตัดสินใจเชิญทีมงานพีซเรฟโวลูชัน ไปจัดแนะนำสมาธิให้กับคุณครูและนักเรียนในงานหมู่บ้านสันติภาพ (Peace Village) ครั้งที่ ๗ โดยผู้ริเริ่มโครงการนี้เป็นศึกษาธิการจังหวัด ชื่อมาเรีย ลุยซา มูเทีย เซโซ เดอะฟิฟธ์ หรือมามาลู ซึ่งเป็นเจ้านายของคอนนีเอง เด็ก ๆ จำนวนเป็นพันคนในจังหวัด ลาเนา เดล นอร์เต จะมารวมกันทำความดีเป็นจำนวน ๓ วัน เพื่อแสวงหาวิธีการสร้างสันติภาพ ซึ่งคอนนีพยายามอย่างหนัก ให้มีการเพิ่มสมาธิเข้าไปในกิจกรรมของหมู่บ้านสันติภาพ จนมามาลูเปิดไฟเขียวทำให้ทีมงานพีซเรฟโวลูชัน สามารถเข้าไปจัดอบรมสมาธิให้กับครูใหญ่ จำนวน ๓๐ ท่าน คุณครู ๒๐๐ ท่าน และนักเรียนอีกกว่า ๓๕๐ คน พอเด็ก ๆ ที่เคยนั่งสมาธิออนไลน์มาก่อน เห็นพระสงฆ์ตัวจริงเสียงจริงก็ตื่นเต้นกันใหญ่

          ครูคามาโรดินจากโรงเรียนมัธยมพันทาร์ กล่าวว่า “ฉันนึกถึงพระจันทร์ในท้องของฉัน เมื่อนั่งหลับตาไปเรื่อย ๆ พระจันทร์ก็สว่างขึ้นเรื่อย ๆ ฉันรู้สึกลอยได้ เหมือนฉันได้เกิดใหม่ ด้วยความสุขที่สุดตั้งแต่เกิดมา” ครูคริสตีนา จากโรงเรียน แซดมิส กล่าวว่า “พระจันทร์ของฉันเปลี่ยนไป เป็นพระอาทิตย์ และเปลี่ยนไปเป็นอะไรอีกอย่างที่ ส่องสว่างมากกว่าพระอาทิตย์ ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าฉันนั่งอยู่คนเดียวในโลก ฉันมีความสุขมาก สมาธิเหมือนยาที่เยียวยาปัญหา ความขัดแย้ง และสงคราม และปัญหาในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้” ครูกลาดิส จากโรงเรียนอนุบาลคีดารอส กล่าวว่า “เมื่อฉันหลับตา ฉันเหมือนล่องลอยไปอยู่ในดินแดนที่ห่างไกล เหมือนฉันอยู่คนเดียวในสถานที่ที่มีแต่แสงสว่างอยู่นานมาก ซึ่งเมื่อ พระอาจารย์บอกให้ลืมตา ฉันกลับรู้สึกว่าเวลา บนโลกนี้ผ่านไปแค่นิดเดียว ฉันอยากขอบคุณ กับประสบการณ์ดี ๆ ที่เกิดขึ้น” มามาลูเองก็มีประสบการณ์ที่เธอประหลาดใจ เธอกล่าวว่า “ฉันไม่คิดว่าฉันจะทำได้ แต่เมื่อฉันนั่งไปเรื่อย ๆ ฉันกลับไม่รู้สึกถึงเวลา เมื่อพระอาจารย์บอกให้ลืมตา ฉันไม่อยากลืมตาเลย แม้ว่าใกล้เวลาเที่ยงฉันก็ไม่รู้สึกหิว ซึ่งปกติฉันจะหิวตรงเวลามาก ฉันจะส่งเสริมให้ทุกโรงเรียนมีการนั่งสมาธิอย่างน้อย ๑๕ นาที ในตอนเช้า เพื่อปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งสันติสุขภายในให้กับนักเรียนของเรา”

          หากค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน ผลงานของครูก็คงจะเป็นการปั้นแต่งให้ลูกศิษย์มีความรู้ คู่ความดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศตวรรษที่ ภัยธรรมชาติกำลังโหมกระหน่ำ ภัยจากวิบากกรรมกำลังส่งผล ภัยจากกิเลสคนกำลังเต็มบ้านเต็มเมือง ครูคอนนีเป็นเสมือนไอดอลหรือต้นบุญต้นแบบของครูผู้ทวนกระแส ไม่ยอมให้ความชั่วร้ายเป็นใหญ่ในสังคม เธอหาวิธีที่จะทำให้ดวงใจของตนบริสุทธิ์ มีแสงสว่างในตัวเอง เพื่อส่องนำทางชีวิตที่ถูกต้องให้แก่ศิษย์ เป็นแบบแห่งความประพฤติให้แก่เยาวชน และเป็นแม่พิมพ์ตัวอย่างให้แก่ปูชนียบุคคลที่ต้องยืนอยู่หน้าชั้นทั้งหลาย

          พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) ปรารถนาให้ครูทุกคนมีจุดเริ่มต้นที่น่าอัศจรรย์ เฉกเช่นเรื่องนี้ อันเกิดจากผลพวงของสมาธิ เพราะท่านเคยกล่าวไว้ว่า “มนุษย์เกิดใหม่ทุกวัน และต้องเรียนรู้กันใหม่ทุกคน มนุษย์ที่มาเกิดนี้ต่างก็ปรารถนาที่จะเรียนรู้สิ่งที่ถูกต้องและดีงามจากผู้ที่เกิดก่อน ซึ่งการเรียนรู้จากครูนั้นถือเป็นหลัก ครูจึงต้องทั้งแนะและนำว่า สิ่งใดควรทำ สิ่งใด ไม่ควรทำ คอยชี้โทษ ชี้ภัย ทั้งในปัจจุบันและ ในสังสารวัฏ ดังนั้นครูจึงต้องศึกษาหาความรู้ เพิ่มเติมในสิ่งดีงาม นำมาถ่ายทอดแก่ลูกศิษย์ด้วยความรัก และกระทำตนให้เป็นแบบอย่างที่ถูกต้อง เพราะศิษย์จะต้องดูครู ครูทำอะไรศิษย์ก็ทำอย่างนั้น ครูจึงเป็นต้นบุญต้นแบบที่สำคัญของโลก เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับนักเรียน โลกไม่อาจขาดแคลนต้นบุญต้นแบบได้ ถ้าขาดต้นบุญต้นแบบแล้วโลกก็คงพังพินาศ” (จากหนังสือ “ฉันจะเป็นแสงสว่างให้กับเธอ” หน้า ๗๘-๗๙ )