ฉบับที่ 97 พฤศจิกายน ปี2553

สูตรสำเร็จ สร้างผังสำเร็จก่อนใคร

ปกิณกธรรม

เรื่อง : พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต ป.ธ. ๙ / พระมหาวิริยะ ธมฺมสารี ป.ธ. ๙

 


สูตรสำเร็จ

สร้างผังสำเร็จก่อนใคร

.............................

สุโข ปุณฺญสฺส อุจฺจโย การสั่งสมบุญทำให้เกิดสุข





          ความหล่อ รวย สวย ฉลาด ต่างเป็นที่ปรารถนาของปุถุชนทั้งหลาย ยกเว้นพระอรหันต์ ผู้หลุดพ้นจากกิเลสแล้ว นอกนั้นไม่มีใครไม่ถวิลหา จึงมีการทุ่มเททุกวิถีทางให้ได้มาซึ่งโลกิยสมบัติเหล่านี้ มีหลายคนที่รวยเร็วโดยไม่ต้องรอ แต่หลายคนรอ คอยมายาวนานความรวยก็ไม่เคยปรากฏ บางคนถูก กิเลสบังตาตัณหาบังใจถึงขนาดกู้ยืมเงินไปซื้อหวย เพื่อหวังรวยทางลัด ที่หนักยิ่งไปกว่านั้น คือ จี้ ปล้น ฉก ชิง วิ่งราว สุดท้ายก็ร่อแร่ไปนอนท้อแท้อยู่ในเรือนจำ

          การจะประสบผลสำเร็จตามหลักพุทธศาสนา นั้น พระพุทธองค์ทรงสอนว่า ต้องสั่งสมบุญ เพราะ บุญเป็นสิ่งที่อยู่เบื้องหลังความสุขและความสำเร็จทุกอย่าง จะร่ำรวยเป็นเศรษฐีก็ต้องอาศัยบุญ ถ้าอยากเกิดมาหล่อ รวย สวย ฉลาด ชีวิตต้องไม่ขาด บุญ ในขณะเดียวกัน ถ้าอยากรวยเร็ว รวยก่อน และรวยกว่าใคร เวลาจะทำบุญก็ต้องตุริตะตุริตัง รีบทำทันทีโดยไม่ต้องรีรอ รีบตัดสินใจทำก่อนที่จะกลายเป็นคนทำบุญทีหลัง แม้ยามเข้าถึงธรรมก็จะ เข้าถึงธรรมก่อน และถ้าอยากรวยกว่าใคร ก็ต้องทำ มากกว่า คือทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ และแรงปัจจัย อานิสงส์แรงที่ไม่มีใครแข่งได้จึงจะบังเกิดขึ้น



ไม้ต่างปล้อง พี่น้องต่างใจ

          เหมือนในสมัยพระวิปัสสีพุทธเจ้า มีกุลบุตรสองพี่น้อง คนพี่ชื่อมหากาล คนน้องชื่อจุลกาล พักอาศัยอยู่บริเวณใกล้กับประตูเมืองพันธุมดี ทั้งสองมีที่นาปลูกข้าวสาลีมากมาย มหากาลคนพี่ เมื่อทราบข่าวว่าจะมีการถวายมหาสังฆทานแด่คณะ สงฆ์ ๖,๘๐๐,๐๐๐ รูป เขาอยากหาอาหารพิเศษไปถวายพระ พอไปตรวจดูไร่นาจึงเห็นข้าวกำลังตั้งท้อง ทดลองแกะรวงท้องข้าวสาลีชิมน้ำเหลวในเปลือกดู ก็เกิดติดใจในรสชาติ นึกอยากนำไปถวายภิกษุสงฆ์ จึงมาปรึกษากับน้องจุลกาลว่า "เราจะได้โอกาสเลี้ยงพระกันแล้ว พวกเราควรมาช่วยกันแกะเมล็ดข้าวกล้า แล้วทำเป็นน้ำนมข้าวถวายภิกษุสงฆ์กันเถิด"

          จุลกาลไม่เห็นด้วย เพราะจะทำให้เสียข้าว ในนาจำนวนไม่น้อย จึงแย้งขึ้นว่า "พี่ไม่รู้หรือว่าข้าวยังอ่อนตัวไม่สุกดี แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีใครเขาเก็บข้าวตอนตั้งท้องกันหรอก ทำอย่างนี้จะทำให้ผลิตผลของเราเสียหายมากนะ" พี่ชายรู้ว่าน้องไม่ยินยอมจึงตัดบทว่า "งั้นเรามาแบ่งนากันคนละครึ่งเลยดีกว่า เจ้าอย่าได้แตะต้องส่วนของฉันเด็ดขาด" ว่าแล้วก็แบ่งส่วนพื้นที่นาแยกกันดูแล มหากาลได้ระดมกำลังคนมากมายมาช่วยเก็บเกี่ยวรวงข้าวสาลี อ่อนสกัดเป็นน้ำข้าว แล้วนำมาเคี่ยวกับน้ำนม ผสม เข้ากับเนยใส น้ำผึ้ง และน้ำตาลกรวด มหากาล และชาวบ้านทำสุดฝีมือจนเป็นเครื่องดื่มน้ำนมข้าวที่เข้มข้นหวานหอมหวนอบอวลยิ่งนัก

          เมื่อทำเสร็จก็เป็นผู้นำชาวบ้านพร้อมใจกันนำน้ำนมข้าวเลิศรสถวายแด่ภิกษุสงฆ์ มหากาลทูลขอพรจากพระบรมศาสดาว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ทานอันเลิศของข้าพระองค์นี้ ขอจงเป็นไปเพื่อการบรรลุธรรมก่อนกว่าสาวกทั้งปวงในอนาคตกาลด้วย พระเจ้าข้า" พระพุทธองค์ก็ตรัสอนุโมทนาแก่เขาด้วยพระสุรเสียงอันไพเราะว่า "ขอพรจงสำเร็จทุกประการเถิด" เมื่อได้รับพรจากบุคคลผู้ประเสริฐเช่นนี้ เขามีความปีติยินดีซาบซ่านเกินเปรียบปานในมหาทาน ที่ทำ

          เมื่อกลับจากการถวายทาน เขาก็ไปตรวจตรา ดูที่นาของตนตามปกติ จึงเห็นเหตุมหัศจรรย์ รวงข้าว สาลีที่เก็บเกี่ยวไปแล้วกลับงอกงามเกิดขึ้นเต็มหนาแน่นอุดมสมบูรณ์ทุกตารางพื้นที่ ยิ่งทำให้เขาเกิดปีติ อย่างแรงกล้าในผลบุญทันตาเห็นเพราะทำถูกเนื้อนา บุญ จนอดอุทานไม่ได้ว่า "โอ! ช่างเป็นบุญของเราแท้ ๆ"

          ต่อมาเมื่อเขาทำนาเสร็จในแต่ละขั้นตอน ก็ปรารภเหตุทำบุญก่อนเสมอ โดยเป็นผู้นำชาวบ้านทำ การคัดผลิตผลที่เลิศที่สุดไปทำบุญกับพระสงฆ์ก่อน ที่จะนำไปทำอย่างอื่น และได้ทำต่อมาอีกหลาย ๆ ครั้ง คือ หากยังไถนาหว่านข้าวอยู่ก็ปรารภเหตุทำบุญ เมื่อข้าวแข็งตัวเป็นข้าวเม่า..ก็ทำข้าวเม่าถวาย เมื่อ ข้าวตั้งท้องเป็นน้ำเหลว..ก็เคี่ยวเป็นน้ำนมข้าวถวาย เมื่อเก็บเกี่ยว เมื่อมัดกำเขน็ด (เขน็ด = ฟางที่ทำเป็นเชือกมัดฟ่อนข้าว) เมื่อมัดฟ่อนข้าว เมื่อขนข้าว เข้าลาน เมื่อนวดข้าว เมื่อขนข้าวขึ้นฉาง สรุปคือ ...ในฤดูข้าวครั้งหนึ่งกุลบุตรมหากาลได้ปรารภเหตุทำบุญถึง ๙ ครั้ง





ทำก่อนรวยก่อน เข้าถึงธรรมก่อน

          ในแต่ละขั้นตอนที่นำผลิตผลข้าวไปถวายทาน ผลิตผลนั้น ๆ ก็จะเจริญงอกเงยทดแทนของเดิมไม่มีพร่องไปอย่างอัศจรรย์ จึงทำให้มหากาลมีวัตถุทานถวายพระสงฆ์อย่างไม่ขาดสาย เขาได้หมั่น ทำบุญอย่างนี้ไปจนตลอดชีวิต เมื่อละโลกก็ไปบังเกิด ในเทวโลก แม้ในชาติต่อ ๆ มา เขาก็ได้อธิษฐานจิต ตอกย้ำผังสำเร็จว่า..ขอให้บรรลุธรรมก่อนใครทั้งปวง ในชาติสุดท้ายนี้มหากาลได้มาเกิดเป็นพระอัญญา-โกณฑัญญะ..ปฐมสาวก อุปนิสัยนี้ติดตัวมาจนถึงชาติ สุดท้าย ขณะที่พระพุทธเจ้าดำริจะแสดงธรรมก็ทรง เห็นด้วยพุทธญาณอันบริสุทธิ์ว่า "เขาเคยถวายทาน อันเลิศ ชอบทำบุญก่อนคนอื่นเสมอ และตั้งความปรารถนาเพื่อจะเป็นปฐมสาวกมาโดยตลอดทุกชาติ" จึงเสด็จไปแสดงธรรมโปรดก่อนคนอื่นทั้งหมด ทำให้ พระอัญญาโกณฑัญญะบรรลุธรรม เป็นพยานในการ ตรัสรู้ธรรมก่อนพระสาวกรูปอื่นทั้งหมด

          กล่าวถึงจุลกาลผู้เป็นน้องชาย เพราะมัวแต่คิดว่าให้ทำนาเสร็จทุกขั้นตอนแล้วทำบุญทีหลังก็ได้ ทำให้เขาได้ทำบุญช้าและทำได้น้อยครั้งกว่าพี่ชาย เพราะคิดล่าช้าอย่างนี้จึงติดเป็นอุปนิสัยที่เขามักจะสั่งสมบุญทีหลังคนอื่นเสมอ ๆ ในชาติสุดท้ายได้มา เป็นพระสุภัททะ ปัจฉิมสาวกที่มาเข้าเฝ้าและฟังธรรม จากพระพุทธองค์ในวันสุดท้ายก่อนที่จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน

          ท่านสาธุชนทั้งหลาย....การทำธุรกิจควบคู่กับการทำบุญเป็นสิ่งที่ขาดกันไม่ได้ ผู้ฉลาดในการดำเนินชีวิตจะสอนตนเองเสมอว่า แม้จะตกระกำลำบากเพียงใด ก็จะไม่ยอมตกบุญ แม้ชีวิตยังห่างไกลจากความรวยแต่จะไม่เหินห่างจากบุญ ด้วยตระหนักดีว่าที่ยังไม่รวย ยังไม่สำเร็จ เพราะยังมีบุญน้อยอยู่ เมื่อมีบุญมีบารมีมาก ความหล่อ รวย สวย ฉลาดจะมารอเราเอง

          ไม่มีใครหมดตัวเพราะให้ทาน มันเป็นเพียงเครื่องทดสอบจิตใจเราเท่านั้นที่เห็นทรัพย์พร่องลงไป ว่ารู้สึกอย่างไร เสียดายไหม ถ้าไม่เสียดาย มีแต่ปลื้ม ปีติใจที่นึกถึง พอบุญได้ช่องส่งผลจะดลบันดาลให้มีสมบัติตักไม่พร่อง เหมือนยามที่เราบริจาคโลหิตช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ อาจอ่อนล้าหมดแรงไปบ้าง แต่ไม่ช้าเราจะได้เลือดใหม่ สุขภาพก็แข็งแรง มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม เหมือนผลิตผลข้าวของมหากาลที่งอกเงยทุกครั้งที่ถวายทาน ซึ่งแตกต่างจากผู้ไม่รู้ ที่ยิ่งกลัวอดก็ยิ่งอด ยิ่งกลัวยากจนก็ยิ่งจน ร่ำไป แต่ถ้าไม่กลัวอด ไม่กลัวหมด ทรัพย์สมบัติ ที่ให้ไปก็จะไม่มีวันหมด ถ้าไม่กลัวยากจน ผังของ ความเป็นคนจนยากก็จะบังเกิดขึ้น เพราะเชื่อมั่น ว่า..ยิ่งให้ ยิ่งได้..หวงคือไล่ ให้คือเรียก จึงทำบุญแบบตุริตะตุริตัง สีฆะสีฆัง รีบทำและทำก่อน มหัศจรรย์ แห่งบุญจึงบังเกิดขึ้น





ขอเป็นประธาน หรือรอเป็นประธาน

          ช่วงนี้เป็นเทศกาลที่ชาวพุทธจะได้เก็บเกี่ยวบุญเพื่อเป็นเสบียงข้ามชาติ ด้วยการเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี บางท่านได้ปวารณาเอาไว้ตั้งแต่ยังไม่เข้าพรรษา ได้ทำใจให้เลื่อมใสก่อนที่จะได้ทำ บุญใหญ่นานถึง ๓ เดือน ครั้งหนึ่งในชีวิตควรคิดเป็นประธานทอดกฐินสามัคคีให้ได้ เป็นประธานใหญ่ ไม่ได้ก็เป็นประธานรอง ประธานกอง แต่ไม่ควรเป็น ประธานรอ คือรอคอยความพร้อม เพราะความพร้อม ไม่เคยมีในโลก หรือปวารณาแล้วไม่ทำก็จะกลาย เป็นคนติด ร ในการทำบุญ ผังรวยก็เลยไม่เกิด เมื่อตั้งใจแล้วก็เร่งรีบทำให้สำเร็จ ผังสำเร็จจะได้บังเกิดขึ้น ต้องกล้าลบ ร แล้วรีบรวยด้วยการลุยทำเองและชวนคนอื่นให้มาทำด้วย เอาบุญต่อบุญ สมบัติต่อสมบัติเพื่อต่อให้เกิดบุญใหม่ แล้วทรัพย์ใหม่ก็จะหลั่งไหลมาหล่อเลี้ยงเราอย่างไม่ขาดสายจนปิดกองกู่ร้อง "ชิตัง เม" อย่างอัศจรรย์ใจ

          "พึงรีบขวนขวายทำความดี พึงห้ามจิตจากบาป เพราะว่าเมื่อทำความดีช้า ใจจะยินดีในบาป" (พุทธพจน์)

 
บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล