ฉบับที่ 95 กันยายน ปี2553

ไก่ห้าดาว

เรื่อง : โค้ก อลงกรณ์

 


 

ไก่ห้าดาว

อย่าเพิ่งเข้าใจผิด! นี่ไม่ใช่เวทีแข่งขันความอร่อย
          แต่เป็นการตัดสินรอบสุดท้ายในการแข่งขันการกกไข่ของแม่ไก่
          แม่ไก่ที่ชนะใจกรรมการจะได้แชมป์่ห้าดาวไปครอง
          ลองมาช่วยกันพิจารณานะครับ ระหว่างแม่ไก่ล่องหน แม่ไก่ข้างถนน แม่ไก่บนเสาไฟฟ้า และแม่ไก่ขนไหม้

เป็นเพราะฉุกเฉินเร่งด่วนกะทันหันกระมัง แม่ไก่ตัวนี้ขึ้นไปไข่แล้วกกบนกองใบไม้ที่มีคนกวาดมาสุมไว้ริมถนน
          ขณะที่กำลังกกไข่ไป แม่ไก่ก็ต้องคอยระวังภัยไปด้วย สัตว์ใหญ่อาจจะมาทำร้ายรังแก หรือไม่รถที่แล่นเข้าออกแถวนั้นไม่ทันมองจะถอยมาทับเข้า
          ได้เฝ้าสังเกตอยู่หลายวัน แม่ไก่ตัวนี้ยังตั้งหน้าตั้งตากกไข่อยู่ที่เดิม และนี่คือผู้เข้ารอบ ตัวแรก..แม่ไก่ข้างถนน

ต่อมาบริเวณใกล้ ๆ กันนั้น ใครบางคนใจดีได้นำไม้ไปตอกยื่นออกมาจากเสาไฟฟ้า สูงจากพื้นราวหลังคารถกระบะ
           ทำให้หมดกังวลกับรถที่จะถอยมาทับ ใจของแม่ไก่จึงจดจ่อกับการกกไข่ได้อย่างเต็มที่
           เจอแดดแรง ๆ ร้อน ๆ ตอนเที่ยงก็ไม่สน เจอฝนกระหน่ำตกมาก็ทน ไม่หนี ไม่ย้ายไปไหน และนี่คือผู้เข้ารอบตัวต่อมา...แม่ไก่บนเสาไฟฟ้า

ขอบหน้าต่างอาคารสังฆภัณฑ์มีความกว้างมากเป็นพิเศษ สังเกตดี ๆ จะมีฟองไข่เข้าแถวเรียงราย หลายฟอง ทันทีที่หลวงพ่อเห็นเข้า ท่านก็เป็นห่วงกลัวไข่จะกลิ้งตกลงมาแตก
          ทำให้เกิดความสงสัยทำไมถึงได้ขึ้นไปไข่ไว้บนนั้น ไม่ได้มีเศษฟางที่นุ่ม ๆ รองรับเลย แล้วทำไมไข่ทิ้งไว้ไม่กกต่อ ปล่อยให้เห็นแต่ผลงานที่ยังค้างคาอยู่ และนี่คือผู้เข้ารอบตัวต่อมา... แม่ไก่ล่องหน


"ไก่งามเพราะขน" ความหมายในคำกล่าวนี้บอกให้รู้ว่า ขนย่อมเป็นของรักและหวงแหนอย่างยิ่ง ของไก่ แต่เกิดอะไรขึ้นกับขนของแม่ไก่ผู้เข้ารอบตัวสุดท้ายตัวนี้
          วันหนึ่งหลวงพ่อได้ยกตัวอย่างโดยนำเรื่องแม่ไก่มาเล่าให้หลวงพี่ที่นั่ง
ปฏิบัติธรรมฟังว่า ในสมัยหลวงปู่ (พระมงคลเทพมุนี หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ) มีแม่ชี ท่านหนึ่งนั่งปฏิบัติธรรมมานานแต่ประสบการณ์ภายในยังไม่คืบหน้า
          วันหนึ่งแม่ชีท่านนั้นเดินไปเจอแม่ไก่กำลังกกไข่อยู่ เห็นควันไฟลอยออกมาจากตัวแม่ไก่ เกิดความสงสัยจึงเข้าไปดูใกล้ ๆ แล้วก็เข้าใจ
แม่ไก่ตัวนี้กำลังกกไข่ใกล้ ๆ เตาไฟ สะเก็ดไฟจากเตาคงกระเด็นมาถูกเข้าแล้วก็ไหม้ขนจนควันขึ้น
          ทำไมไม่ย้ายหนีไปให้ไกลจากเตา แล้วทำไมถึงอดทนกกต่อไป แต่แล้ววันนั้นท่านก็ได้คิดอะไรบางอย่างจึงนำมาใช้สอนตัวเอง

ว่าแล้วคืนนั้นท่านก็กลับมานั่งธรรมะ ตั้งใจปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังชนิดที่ไม่เคยเอาจริงเอาจังอย่างนี้มาก่อน ท่านบอกตัวเองว่าถ้าจะทำอะไรให้ทำจริง ๆ
          ถ้าที่ผ่าน ๆ มาเอาจริง ๑๐๐ เปอร์เซนต์ ครั้งนี้ความจริงจังถ้าอุปมาก็คงเพิ่มมากกว่านั้นนับล้านเท่า
          ท่านได้เอาชีวิตมาวางเดิมพันเช่นเดียวกับที่เห็นแม่ไก่เดิมพันชีวิต มุ่งหน้ากกไข่ต่อไปให้สำเร็จ
          แล้วรุ่งเช้าก่อนที่ท้องฟ้าสีทองจะผ่องอำไพ ธรรมะภายในของท่านก็สว่างไสวสมปรารถนา
          และนี่คือเรื่องราวของแม่ไก่ตัวสุดท้าย...แม่ไก่ขนไหม้


ก่อนที่กรรมการอย่างเราจะตัดสินให้แม่ไก่ตัวใดได้ครองแชมป์ไก่ห้าดาว ก็ต้องหามาตรฐานก่อนว่า เราจะใช้หลักเกณฑ์ใดในการตัดสิน
          แน่นอนว่าคงไม่ได้ใช้ความงามทางสรีระเป็นแน่ เพราะเรากำลังวัดใจที่ยิ่งใหญ่ในการ รับผิดชอบนำพาภาระหน้าที่ให้บรรลุเป้าหมายให้สำเร็จ
          เกณฑ์ที่จะใช้ในการตัดสินจึงอยู่ที่เป้าหมาย แม่ไก่ตัวใดทำภารกิจลุล่วง ตัวนั้นได้แชมป์
          ถ้าใช้เกณฑ์นี้ตัดสิน รางวัลไก่ห้าดาวก็คงต้องมอบให้กับแม่ไก่หมดทุกตัว เพราะทุ่มชีวิตกกกันขนาดที่เสี่ยงอันตรายถูกรถทับ เสี่ยงต่อพายุฝนและแดดที่แผดเผา เสี่ยงต่อสะเก็ดไฟจากเตา ทุกตัวจึงมีสิทธิ์คว้าห้าดาวด้วยกันหมด
          การจะทำอะไรสักอย่างให้บรรลุจุดหมายสมอย่างตั้งใจ จะศึกษาเล่าเรียน จะทำมาหากิน จะประกอบอาชีพใด ๆ จะปฏิบัติธรรม จะสร้างบารมี ต่างต้องทุ่มเทชีวิตทำจริง ๆ
          ไม่มีความสำเร็จใดได้มาโดยไม่ลงทุน
          แทบทุกครั้งที่ต้องเหนื่อย ต้องเอาความอดทน มุมานะและความพยายามเข้าแลก และบางครั้งต้องลงทุนแลกด้วยชีวิต
          แม้ขนจะถูกสะเก็ดไฟไหม้ก็ยังมุ่งหน้ากกไข่ต่อไปให้สำเร็จ
          ถ้ายังไม่สำเร็จ ยังไม่บรรลุเป้าหมาย ก็ยังไม่ยอมเลิก
          จะมีก็เพียงตัวเดียวที่มีแววตกรอบ...แม่ไก่ล่องหน

ขณะที่ชื่นชมยินดีกับแม่ไก่ทั้งหลายที่จะได้แชมป์ ผมก็อดไม่ได้ที่จะเทใจให้แม่ไก่ที่มีแววตกรอบ คงเป็นเพราะผมรู้สึกว่า ผมคือพวกเดียวกันกับเธอ
          ในบรรดาภารกิจที่มีทั้งหมด ที่ทำสำเร็จแล้วมีจำนวนนิดเดียว เมื่อเทียบกับที่เหลืออีกจำนวนมากมายยังค้าง ๆ คา ๆ ซึ่งไม่ต่างอะไรจากไข่ที่อยู่ขอบหน้าต่าง
          เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจเนื่องจากมีแม่ไก่มากมายต้องตกรอบแรกเพราะเป็นเช่นเดียวกันนี้
          ผมเชื่อว่าพวกเธอไม่ได้ขี้เกียจ ไม่ได้เหลวไหลละทิ้งหน้าที่ เพียงแค่มีบางอย่างขวางเส้นทาง จนทำให้เธอยังไปไม่ถึงจุดหมาย
          ไม่ใช่ว่าเธอล้มเหลวพ่ายแพ้ เพียงแต่เธอยังทำไม่สำเร็จ
          ไม่ใช่ว่าเธอทำไม่ได้ เพียงแต่เธอยังทำได้ไม่เต็มที่
          ไม่ใช่ว่าเธอไปไม่ถึงดวงดาว เพียงแต่เธอยังอยู่ระหว่างเดินทาง
          ทั้งกรรมการ กองเชียร์ และทุก ๆ คน ต่างก็อยากให้ได้ครองแชมป์ห้าดาวด้วยกันทั้งนั้น
          เพราะไม่มีรางวัลสำหรับความพยายาม
          มีแต่รางวัลของความสำเร็จ
          จึงไม่ควรที่จะหยุดอยู่เพียงเท่านี้ ดังนั้นเธอจึงต้องสู้ต่อไปจนกว่าจะสำเร็จ
          บางทีเธอคงต้องเริ่มต้นกกที่ใจของเธอเสียก่อน ให้ไฟภายในจากอ่อนกำลังให้ลุกสว่าง โพลงขึ้นมาอีกครั้ง
          แล้วจากนั้นก็กกให้ลุกโชติช่วงต่อไปอย่าให้ไฟมอด
          กกจนกว่าจะบรรลุผลสำเร็จเช่นเดียวกับบรรดาผู้ที่ครองแชมป์ทั้งหลายเหล่านั้น... แม่ไก่ห้าดาว

..........................................

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล