ผลการปฏิบัติธรรม
เรื่อง : ธัมม์ วิชชา
เมื่อดวงจิตสดใส
ชีวิตเราก็ก้าวไปบนถนนที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ
คงจะดีไม่น้อยถ้าหนทางเดินการดำเนินชีวิตของเรา จะราบเรียบราบรื่นไร้อุปสรรค์ขวากหนาม จนต้องให้นิยามในเส้นทางเดินนั้นว่า "หนทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ" ซึ่งเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบนี่เอง เป็นเส้นทางที่มนุษย์ทุกคนใฝ่ฝันถึง แต่ส่วนใหญ่จะยังไม่มั่นใจนักว่า เส้นทางสายนั้นจะมีอยู่จริงหรือไม่
ในทางพระพุทธศาสนามีพระพุทธภาษิตอยู่บทหนึ่งได้กล่าวเอาไว้ว่า “มโนปุพพังคมาธัมมามโนเสฏฐามโนมยาธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นใหญ่ มีใจเป็นประธานสำเร็จลงแล้วด้วยใจ” หากเราตรองตามพุทธภาษิตบทนี้ เราก็พอจะได้คำตอบว่าหนทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบนั้น จะสามารถเกิดขึ้นได้จริง ๆ โดยเริ่มต้นจากใจของเราเสียก่อนถ้าใจมีความสุขรื่นรมย์ดั่งอยู่ท่ามกลางมวลดอกไม้ ใจดวงนี้นี่เองจะยังผลให้เส้นทางเดินของชีวิตราบเรียบ และน่ารื่นรมย์ ดั่งโรยด้วยกลีบกุหลาบไปด้วย...
ดังเช่นชีวิตของพระธรรมทายาทผู้ได้ฝึกจิตกลั่นใจให้ใสสะอาด จนกระทั่งพบกับความสุขภายในอันแสนรื่นรมย์ เพื่อเตรียมเดินธุดงค์ครั้งประวัติศาสตร์ สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ และเส้นทางที่ท่าน กำลังจะเดินไปนั้น โรยด้วยกลีบกุหลาบจริง ๆ
“อาตมารู้สึกโชคดีมาก ๆ ที่ได้เข้ามาบวชในเพศสมณะ ทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนคิดว่าตนเองโชคไม่ค่อยดีเลย เพราะเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน เป็นลูกชาย คนโตที่มีน้องอีกหลายคน ต้องช่วยโยมพ่อโยมแม่ทำงานมาตั้งแต่ยังเด็ก และเมื่อเรียนถึงแค่ ม.๒ ก็จำเป็นต้องเสียสละลาออกจากโรงเรียนมาช่วยโยมพ่อ โยมแม่ซึ่งมีอาชีพปลูกผักขาย อาตมาช่วยทางบ้าน ทำงานอย่างเต็มกำลัง จนวันเวลาล่วงเลยไปจนใกล้ ๒๓ ปี อาตมายังคงปลูกผักขายที่ตลาดเหมือนเดิม แต่ในระหว่างนั้นอาตมาเริ่มมองเห็นบางอย่างเปลี่ยนไป คือ เห็นผู้ชายแมน ๆ รุ่นน้องที่อายุครบบวช เขาทยอยบวชตามวัดใกล้บ้าน อาตมาจึงเริ่มคิดอยาก จะบวชบ้าง เมื่อไปปรึกษาโยมแม่ก็ปรากฏว่า วันนั้นสองเราใจตรงกัน ท่านดีใจมากบอกว่า ขอแค่ลูกชาย แม่ได้บวช แม้ต้องกู้หนี้ยืมสินเท่าไรแม่ก็ยอม และ อีกไม่กี่วันต่อมาโชคดีก็เป็นของอาตมา เพราะโยมพ่อ ท่านไปตัดผมที่ร้านใกล้บ้าน ได้เจอหนังสือชวนบวชพอดี เพราะเจ้าของร้านเคยมาบวชในโครงการของวัด เขาบอกว่าเป็นโครงการที่ดีมาก ๆ มีลูกมีหลานให้พามาบวชเยอะๆ เมื่ออาตมาได้อ่านหนังสือนั้น แล้วก็ตกลงบวชทันที เพราะไม่ต้องเป็นหนี้ในการจัดงานบวชแม้สักบาทเดียวพระชิดชนก ปญฺาเชฏฺโฐ
จากศูนย์อบรมวัดหัวถนน จังหวัดนครปฐม
ปัจจุบันอบรมเป็นพระนวกะ วัดพระธรรมกาย
“ช่วงที่เข้าอบรมใหม่ๆ อาตมารู้สึกอึดอัดนิดหน่อย เพราะต้องปรับตัวหลายอย่าง แต่มาคิดดูอีกที ก็คิดได้ว่า หลายอย่างที่ฝืน ทุกอย่างที่ฝึก สุดท้ายประโยชน์ก็เกิดกับตัวเรา จึงปรับใจใหม่ เมื่อปรับตัวได้ก็เริ่มมีความสุขมากขึ้น เมื่อใจสบายผลการปฏิบัติธรรมก็พลอยก้าวหน้าไปด้วย จากที่เคยนั่งได้แค่ ๕-๑๐ นาที แล้วต้องลุก ก็เริ่มนั่งได้นานขึ้นและมีความสุขกับการนั่งสมาธิ จนวันหนึ่งอาตมานั่งโดยเริ่มจากการนึกทบทวนบุญของตัวเองแล้วก็รู้สึกว่า มีแสงสว่างเหมือนแสงจันทร์ปรากฏขึ้นที่กลางท้อง แล้วก็เห็นดวงแก้วใสขนาดเกือบเท่ากำปั้นมีรัศมีรอบ ๆ ค่อยๆ ขยายใหญ่ออกไปเรื่อยๆ อาตมา มีความสุขมาก ๆ สุขจนไม่อยากลุกจากที่
“เมื่ออาตมาได้มาอบรมอยู่ที่วัด หลวงพ่อได้เมตตามาให้กำลังใจและมานำนั่งสมาธิ ทำให้อาตมานั่งสมาธิได้ดีขึ้น โดยตอนเริ่มนั่งก็นึกทบทวนบุญทุกบุญด้วยความปลื้ม ปลื้มจนสว่างที่กลางท้อง แล้วอาตมาก็นึกถึงดวงแก้วพร้อมกับท่อง "สัมมาอะระหัง" สักพักดวงแก้วก็ค่อย ๆ เล็กลง ๆ จนเล็กมาก ๆ แล้วองค์พระก็ผุดขึ้นมาแทน อาตมาเห็นองค์พระแบบ ท็อปวิวตั้งแต่เศียรจนเต็มองค์ ตอนหลังเห็นองค์พระ ได้รอบด้านเลย เป็นองค์พระที่ใสเกินเพชร ใสเกินแก้ว ซึ่งตอนแรกขนาดใหญ่เท่าตัว แล้วก็ค่อย ๆ ขยายออกไปเรื่อย ๆ จนคลุมวัด คลุมประเทศ คลุม โลก และยังขยายออกไปไม่มีที่สิ้นสุด แม้จะลืมตาก็ยังเห็นชัด ๘๐ เปอร์เซ็นต์
“อาตมาจะตั้งใจนั่งสมาธิให้มากขึ้น เพราะอยากจะเป็นบุคคลที่โชคดีแบบไม่มีที่สิ้นสุด กับการที่จะได้ไปเดินธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ และจะใช้โอกาสของชีวิตที่ได้บวชสร้างบารมีในครั้งนี้ ตักตวงบุญติดตัวไปให้มากที่สุด”
“อาตมามาบวชที่วัดพระธรรมกายครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๒ แล้ว แต่การบวชครั้งแรกของอาตมาในรุ่น เข้าพรรษาเมื่อปีที่แล้วนั้นเกิดขึ้นเพราะเหตุจำเป็นและจำใจ เนื่องจากโยมพ่อป่วยหนัก โยมพี่สาวบอก ว่ามีเพียงทางเดียวที่จะช่วยโยมพ่อได้คือ ต้องบวช เอาบุญให้ท่าน อาตมาจึงได้มาบวช ซึ่งตอนนั้นชีวิต ก็ถือว่ากำลังจะไปได้สวย ทุกอย่างกำลังรุ่งเลย เมื่อมาบวชด้วยความไม่ได้ตั้งใจ อาตมาก็เลยอยู่ในโครงการแบบไม่ได้ตั้งใจอยู่ไปด้วย คือพระพี่เลี้ยงให้ทำอย่างหนึ่ง อาตมาก็ไปทำอีกอย่างทำนองนั้น แต่เมื่อจบโครงการแล้ว อาตมาก็เริ่มรู้สึกศรัทธาเพราะโยมพ่อหายป่วยจริง ๆ หลังจากลาสิกขาออกไปแล้ว ลึก ๆ ในใจนั้น อาตมารู้สึกเสียดายชีวิตในเพศสมณะมาก จึงได้อธิษฐานจิตกับหลวงปู่ว่า ขอให้มีบุญได้มาบวชอีกครั้งพระโอภาส ปโยโค
จากศูนย์อบรมวัดพระธรรมกาย
ปัจจุบันอบรมเป็นพระนวกะ
“จากนั้นอาตมาก็ประมวลเอาประสบการณ์ จากการบวชครั้งแรก เรียนรู้ความผิดพลาดและ ข้อบกพร่องของตัวเอง และเตรียมกาย วาจา ใจ เก็บตัวอยู่ตลอด ๕ เดือน จนได้มาบวชในครั้งนี้ด้วยความศรัทธาและตั้งใจเกินร้อย เมื่อบวชแล้วก็ทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ด้วยความเต็มใจ ไม่หลบ ไม่เลี่ยง บุญหยาบก็ตั้งใจทำแบบสุดเฉียบ ส่วนบุญละเอียดก็ตั้งใจนั่งสมาธิ เวลารับบุญอาตมาพยายาม ตรึกธรรมะไปด้วย ช่วงแรกที่นั่งสมาธิก็ได้อารมณ์สบาย เห็นความสว่าง นิ่ง ตัวเบาขยาย จนมาถึงช่วงที่ทุกคน ทุกรูป ได้ร่วมแรงร่วมใจปกป้องวัดจาก อุทกภัย อาตมาปลื้มมาก แต่ที่ปลื้มกว่าก็คือ มีโอกาสได้เป็นตัวแทนรับขนมจากมือหลวงพ่อ ได้เห็น หลวงพ่อใกล้ ๆ วันนั้นเอง เมื่อเสร็จภารกิจแล้ว อาตมาจึงชวนเพื่อนสหธรรมิกไปเดินเวียนประทักษิณ รอบมหาธรรมกายเจดีย์ฉลองความปลื้ม ระหว่างที่เดินไปใจก็น้อมมหาธรรมกายเจดีย์มาไว้ที่กลางท้อง ประคองไปเรื่อย ๆ เดินไปได้สักพัก ก็รู้สึกว่าเสียงทุกอย่างรอบตัวเริ่มเบาลง ๆ มหาธรรมกายเจดีย์ที่น้อมมาเป็นนิมิตก็เริ่มสว่างขึ้น จนไม่ต้องหันไปดูของ จริงเลย แล้วอาตมาก็เห็นองค์พระเหมือนบนเจดีย์ลอยออกมาแล้วขยายใหญ่ขึ้น ตอนแรกเป็นสีทอง ตอนหลังค่อยจางลงจนเป็นองค์ใส และตั้งแต่วันนั้น อาตมาก็เห็นองค์พระสีทองเหมือนองค์ที่ประดิษฐาน อยู่บนเจดีย์ตลอดเวลาและทุกครั้งที่นั่งสมาธิ จากปกติเคยนั่งหลังงอ หลังก็จะตรงไม่มีปวดไม่มีเมื่อยนั่งได้ทั้งรอบ อาตมามีความสุขมากจนความสุขไหน ๆ ที่เคยพบเจอมาตลอดชีวิตก็เทียบไม่ได้เลย แล้วตั้งแต่หลวงพ่อเมตตามานำนั่งสมาธิ อาตมาก็นั่งได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ
|
“วันแรกๆ อาตมานั่งวางใจสบายๆ ยังไม่ทันได้กำหนดอะไรเลย ก็เห็นความสว่างเต็มท้องแล้ว และเห็นจุดที่ใสสว่างกว่าอยู่ท่ามกลางความสว่างนั้น แล้วอาตมาก็เห็นดวงแก้วใสขนาดเท่าแตงโมผลย่อม ๆ สักพักองค์พระก็ค่อย ๆ ผุดขึ้นมา" ตอนแรกเห็นราง ๆ แล้วก็ค่อย ๆ ชัดขึ้น ใส สว่างกว่าดวงแก้วเสียอีก อาตมาเห็นเหมือนมองจากเศียรท่านลงมา ตอนแรกท่านดูไม่มีมิติ จนล่าสุดอาตมาสามารถที่จะเห็นท่านได้รอบด้านทั้งสามมิติ และเห็นท่านเหมือนเป็นกายเนื้อแต่ใสสว่างตลอดเวลา
“สำหรับการเดินธุดงค์ปฐมเริ่มเพื่อสถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ อาตมาปลื้มมาก ๆ แม้ช่วงแรกจะยังรู้สึกตื่นเต้น เพราะเห็นญาติโยมมากมายที่ตั้งใจมาร่วมพิธี แต่พอตั้งสติประคองใจได้ ใจก็เริ่มนิ่งขึ้นเรื่อย ๆ พอถึงครึ่งทางองค์พระก็สว่างไสวที่กลางท้อง อาตมารู้สึกมั่นใจในเส้นทาง การบวชสร้างบารมีขึ้นมาก และจะขอบวชแบบวันต่อ วันช่วยงานหลวงพ่อ ช่วยงานพระศาสนาไปเรื่อย ๆ ตลอดไป”
“หนทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ” ไม่ได้เป็นเพียงนิยามชีวิตอันสวยหรูของพุทธบุตรผู้กลั่นจิตมาอย่างดี แล้วเหล่านี้อีกต่อไป... เพราะเส้นทางที่ท่านธุดงค์ไปจะถูกโรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างแท้จริง และถือเป็นวาระโอกาสอันยอดเยี่ยมของพุทธศาสนิกชนทั้งหลายด้วยเช่นกัน ในการจะที่ได้สร้างบุญครั้งยิ่งใหญ่เป็น ผังสำเร็จให้ชีวิต โดยการได้ไปร่วมกันโปรยกลีบกุหลาบ ต้อนรับพระธุดงค์ในเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ กุหลาบทุกกลีบที่เราได้หว่านโปรยเป็นหนทางให้ท่าน ย่างเดิน จะกลับกลายมาเป็นผลบุญส่งเสริมให้ชีวิตของเราพบแต่ความสุข ความสำเร็จอย่างราบรื่น ราวถูกปูไว้ด้วยกลีบกุหลาบอันงดงามเช่นกัน และที่สำคัญ ถ้าใจของเรามีความสุขความปีติที่ได้เห็นสมณะ และนึกถึงองค์พระและดวงธรรมไว้ในตัวที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ตลอดเวลา มรรคาแห่งธรรม หรือหนทางแห่งความบริสุทธิ์หลุดพ้นจักแจ่มกระจ่าง ภายใน ดึงดูดดวงใจของเราให้เข้าถึงพระธรรมกาย ภายในอย่างง่ายดาย