ฉบับที่ 49 พฤศจิกายน ปี 2549

พิธีอัญเชิญมณีบรมจักรพรรดิ สถาปนามหาวิหารพระมงคลเทพมุนี

พระธรรมเทศนา

 

 

 

เรียบจากพระธรรมเทศนาพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)
เมื่อวันอังคารที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๙

          วันนี้เราได้พร้อมใจกันมา ประกอบพิธีอัญเชิญมณีบรมจักรพรรดิเป็นปฐมเริ่ม ของการสถาปนามหาวิหารพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบ วิชชาธรรมกาย ณ แผ่นดินรูปใบบัวหรือดอกบัว อันเป็นถิ่นกำเนิดของท่าน ซึ่งที่ตรงนี้ถือเป็นอนุสรณ์สถานในเส้นทางแห่งมหาปูชนียาจารย์ และเป็น บุญสถานสำหรับผู้มีบุญ ที่มีเชื้อสายวิชชาธรรมกาย จะได้มาตามระลึกนึกถึงการบังเกิดขึ้นด้วยรูปกายเนื้อของพระเดชพระคุณหลวงปู่ ซึ่งท่านได้ถือกำเนิดมาใน วันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๒๗ ถ้าปัจจุบันท่านยังมีชีวิตอยู่จะมีอายุ ๑๒๒ ปี

             ปกติการเกิดมาได้อัตภาพเป็นมนุษย์ถือว่าเป็นการยาก แต่การเกิดขึ้นของ พระเดชพระคุณหลวงปู่เป็นการยากยิ่งกว่า สาเหตุที่ต้องเกิดด้วยรูปกายมนุษย์ เพราะกายมนุษย์เท่านั้น ที่จะสามารถสร้างบารมีได้เต็มที่ เป็นกายเดียวที่พญามารกลัวมาก โดยเฉพาะกายมนุษย์ของท่านผู้รู้ หรือผู้เข้าถึงท่านผู้รู้แจ้งเห็นแจ้งภายใน พญามารจะกลัวมากที่สุด กลัวผู้ที่ได้เข้าถึงวิชชาธรรมกาย เพราะถ้าเข้าถึงแล้วจะมีอานุภาพมาก สามารถขจัดกิเลสอาสวะ ที่เขาบังคับบัญชาให้ตกเป็นบ่าวเป็นทาส ของเขาให้หมดสิ้นไปได้

            ดังนั้นพญามารจึงกลัวการบังเกิดขึ้นของ พระเดชพระคุณหลวงปู่ ผู้มีมโนปณิธาน ที่จะปราบมารไปถึงที่สุดแห่งธรรม เพราะถ้าได้รูปกายมนุษย์จะสามารถรองรับผู้มีฤทธิ์ มีเดช มีอานุภาพ ในอายตนนิพพานทั้งลับทั้งเปิดเผย นับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วน และนำเข้าสู่สมรภูมิรบที่แท้จริงภายใน ไปสู้รบกับพญามาร ด้วยเหตุนี้มารหรือภาคถูกปราบ จึงกลัวท่านมาก ถึงกับหวั่นไหวสะดุ้งพรึบไปทั้งภพทีเดียว จึงกีดกันท่านทุกอย่าง เพื่อไม่ให้มาเกิด แต่ก็ขวางไม่ได้

              ธรรมดาของผู้มีบุญญาบารมีมากจะสามารถเลือกเกิดได้ ท่านจึงเลือกเกิดในช่วงที่จะก่อประโยชน์สูงสุด แก่มวลมนุษยชาติ เมื่อได้ปัจจัยในการมาเกิดครบถ้วน ท่านจึงอธิษฐานจิตจุติลงมา แต่ไม่ใช่หมดบุญ เพราะท่านมีบุญที่จะเสวยสุข ในสุคติโลกสวรรค์ได้อีกยาวนาน แต่เมื่อถึงคราวต้องสร้างบารมี ก็ต้องลงมาทำงานเพื่อส่วนรวม เพราะภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น ต้องมาสานต่อมโนปณิธาน กอบกู้ธาตุธรรม รื้อสัตว์ ขนสัตว์เข้านิพพานให้หมด ตามปณิธานเดิมที่ได้ตั้งใจไว้ตั้งแต่ครั้งปฐมชาติ

               ดังนั้น การมาเกิดของท่านจึงไม่ใช่เรื่องธรรมดา แต่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อมวลมนุษยชาติ และธาตุธรรม บุคคลผู้มีมโนปณิธานอันสูงส่งและยิ่งใหญ่ ดังเช่นพระเดชพระคุณหลวงปู่ จึงได้ชื่อว่า เป็นบุคคลที่หาได้ยากอย่างยิ่งในโลก ในจักรวาล และในธาตุธรรม

              ถ้าเมื่อ ๑๒๒ ปีที่ผ่านมา พระเดชพระคุณหลวงปู่ไม่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะไม่มีพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ไม่มีผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย แล้วคำว่า "ธรรมกาย" ก็จะไม่มีใครรู้จักอย่างแท้จริง จะมีแต่เฉพาะที่กล่าวไว้ในคัมภีร์เท่านั้น แม้ตัวเราก็จะหมดโอกาสที่ได้รู้จักตัวจริงแท้ของธรรมกาย หมดโอกาสในการปฏิบัติธรรมเพื่อให้ เข้าถึงพระธรรมกาย แต่เพราะอาศัยร่มเงาบารมีของท่าน ทำให้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับ พระรัตนตรัยภายใน รู้ว่า พุทธรัตนะคือธรรมกาย รู้วิธีปฏิบัติให้เข้าถึง

             ดังที่ท่านได้สอนให้เราหยุดใจไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ และวิธีการที่สำคัญว่า "หยุดเป็นตัวสำเร็จ ตั้งแต่เบื้องต้นจนกระทั่งเป็นพระอรหันต์" แค่ความรู้ตรงนี้ที่ท่าน สละชีวิตค้นคว้า และนำมาสั่งสอนก็เป็นพระคุณอย่างมหาศาล แม้เราจะมีอายุยืนเป็น หมื่นปี เพียรพยายามตอบแทน พระคุณท่านทุกวันก็ไม่มีวันหมดได้ เพราะผู้ให้หนทางพระนิพพาน คือผู้ให้อมฤตธรรมอันประเสริฐสุด

                ส่วนเรื่องการปราบมารเป็นเรื่องที่ลึกซึ้ง รู้เห็นได้ยาก เป็นภารกิจอันหนักหน่วง และสำคัญที่สุดของพระเดชพระคุณหลวงปู่ ท่านมุ่งปราบมารไปให้ถึงต้นแหล่ง แห่งพญามาร ที่ผลิตบาปอกุศล โลภะ โทสะ โมหะมาบังคับสัตว์โลก แต่พวกเรายังไปไม่ถึง ดังนั้นจึงต้องตั้งใจปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย ต้องทุ่มเทตั้งใจศึกษาวิชชาธรรมกายอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน จึงจะไปรู้เห็นได้ แต่ก็ยังไม่อาจล่วงรู้ความเป็นจริง ของพระเดชพระคุณหลวงปู่ ในส่วนที่ท่านเป็นจริงๆ อุปมาความรู้ที่เรามีเหมือนปริมาณน้ำ เพียงเล็กน้อยที่ลอดรูเข็ม เมื่อเทียบกับน้ำในท้องทะเลมหาสมุทร เมื่อใดเราได้เข้าถึงวิชชาธรรมกาย เราจะเคารพเทิดทูนบูชาท่านเหนือเศียรเกล้า และซาบซึ้งในพระคุณอันยิ่งใหญ่ ไม่มีประมาณของท่านที่มีต่อเรา ต่อโลก ตลอดจนสรรพสัตว์ทั้งหลาย เพียงท่านได้กรุณาบอกหนทางมรรคผลนิพพานให้กับเรา แค่นี้ก็เป็นพระคุณอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องมาช่วยกันสถาปนามหาวิหารของท่าน ณ แผ่นดิน ถิ่นกำเนิดที่ก่อเกิดด้วยรูปกายเนื้อของท่าน ผู้เป็นสุดยอดมหาปูชนียาจารย์แห่งยุค

           วันนี้เราจะรวมใจและส่งใจไปร่วมอัญเชิญ วางมณีบรมจักรพรรดิ เราจะไม่วางศิลาฤกษ์โดยใช้ก้อนหิน แต่เราจะอัญเชิญดวงแก้วมณีรัตนะ ที่มีทั้งบรมจักรพรรดิ มหาจักรพรรดิ จุลจักรพรรดิซ้อนกันอยู่ภายใน เอาความบริสุทธิ์ใสสว่างของดวงแก้วมณี เป็นบุพนิมิตแห่งการเริ่มต้นสถาปนา มหาวิหารของพระเดชพระคุณหลวงปู่ เพื่อให้มนุษย์และเทวาได้สักการบูชา ให้ผู้มีบุญที่จะมาในภายหน้า ได้ดำเนินรอยตามปฏิปทาการสร้างบารมีของท่านต่อไป

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล