ฉบับที่ 122 เดือนธันวาคม ปี2555

ตัวเลขมหัศจรรย์ ๑,๐๐๐ ไร่ ๗๐ ล้านดอก

สัมภาษณ์พิเศษ

เรื่อง : ร.ลิ่วเฉลิมวงค์

 

ตัวเลขมหัศจรรย์

๑,๐๐๐ ไร่

๗๐ ล้านดอก !!

 

บางคนอาจสงสัยว่า..พลังศรัทธาอันแรงกล้า ของคนจำนวนมหาศาล ในการไปโปรยกลีบดอกไม้ ต้อนรับคณะพระธุดงค์ในครั้งที่ผ่าน ๆ มาเกิดจากอะไร
ทำไมพระภิกษุจากทุกจังหวัด ถึงเต็มใจกันมาเป็นเนื้อนาบุญ ทั้ง ๆ ที่ต้องเดินฝ่าแดดร้อน ๆ อย่างตลอดต่อเนื่องนานเกือบเดือน
และที่น่าทึ่งไปกว่านั้น... ทำไมการเดินธุดงค์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในครั้งต่อไปนี้ ชาวพุทธจำนวนมาก ถึงตั้งใจปลูกต้นดาวรวย เพื่อนำกลีบไปโปรยต้อนรับขบวนพระธุดงค์ที่ยาวที่สุดเท่าที่เคยมีมา
 

 

         หากคุณลองทำเช่นนี้บ้าง คุณอาจจะพบคำตอบนั้น ด้วยตัวเองว่า คนจำนวนมหาศาล ได้อะไรกับการทำสิ่งเหล่านี้ ซึ่งย่อมเป็นการดีกว่าไม่ลองทำอะไรเลย แล้วมารู้คนสุดท้ายว่าสิ่งนั้นดี และกลายเป็นคนเดียวที่ไม่ได้ทำ...   แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในลำดับต่อไปก็ตาม หากเราเป็นเพียงผู้ดูอยู่ห่าง ๆ ก็ยากที่จะเข้าใจว่า..พวกเขา ทำไปเพื่ออะไร จนกว่าจะได้ลองหันชีวิตคืนสู่ธรรมชาติ สัมผัสความสงบ มาถือศีล สวดมนต์ เจริญภาวนา และฝึกจิตใจให้ประณีตอ่อนโยน ด้วยการปลูกดอกไม้เพื่อนำไปโปรยต้อนรับพระภิกษุเหมือนในสมัยพุทธกาล

          เพราะอีกไม่นานแล้ว การเดินธุดงค์ก็จะบังเกิดขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่วันพุธ ที่ ๒ ถึงวันอาทิตย์ที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ รวมเวลาทั้งหมด ๒๖ วัน ด้วยระยะทางที่ยาวถึง ๔๕๖ กิโลเมตร

          และเพื่อความเป็นสิริมงคล การโปรยกลีบดอกไม้ในครั้งนี้ เราจึงใช้ดอกไม้มงคล ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวย ซึ่งก็คือ ดอกดาวเรือง เพราะต้องการให้พระศาสนารุ่งเรืองเฟื่องฟูดังย้อนยุคพุทธกาล และเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลยิ่งขึ้นต่อผู้ปลูกและผู้โปรย พระเดชพระคุณหลวงพ่อจึงตั้งชื่อให้ใหม่ว่า “ดอกดาวรวย พันธุ์ทองชฏิลเศรษฐี”

 

 

          ที่สำคัญ ดอกดาวรวยนี้ เราต้องปลูกด้วยความเคารพอย่างยิ่ง โดยสวดสรรเสริญหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ก่อนปลูก และเปิดบทสวดสรรเสริญหลวงปู่ ในบริเวณพื้นที่ปลูกต้นดาวรวยทุกวัน อีกทั้งก่อนรดน้ำให้นั่งสมาธินึกถึงบุญ ที่เราจะฟื้นฟูพระพุทธศาสนา และบุญจากการต้อนรับคณะพระภิกษุสงฆ์ ที่เดินธุดงค์อัญเชิญรูปหล่อหลวงปู่ จากนั้นก็อธิษฐานจิตก่อนรดน้ำเสมอ และที่สำคัญต้องระวังมิให้สัตว์ทุกชนิด กระโดดข้ามต้นดาวรวย...

          สำหรับการเดินธุดงค์ครั้งนี้ มีระยะทางในการเดินตลอด ๒๖ วัน เท่ากับ ๔๕๖ กิโลเมตร หรือ ๔๕๖,๐๐๐ เมตร ซึ่งระยะทาง ๑ เมตร ต้องใช้ดอกดาวรวยประมาณ ๑๕๐ ดอก ดังนั้นระยะทาง ๔๕๖,๐๐๐ เมตร จึงต้องใช้ดอกดาวรวยทั้งหมดประมาณ ๗๐,๐๐๐,๐๐๐ ดอก ซึ่งเมื่อนำมาเด็ดกลีบแล้วจะได้ประมาณ ๒๔,๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐ กลีบ (สองหมื่นสี่พันห้าร้อยล้านกลีบ) แต่การปลูกดอก ดาวรวยนั้น เนื้อที่ ๑ ไร่ ปลูกได้แค่ประมาณ ๓,๕๐๐ ต้น ใน ๑ ต้นเก็บได้ ๒๐ ดอก ดังนั้น เนื้อที่ ๑ ไร่ จึงสามารถเก็บดอกดาวรวยได้ประมาณ ๗๐,๐๐๐ ดอก ทำให้ต้องมีเนื้อที่ที่ใช้ในการปลูกดาวรวยทั้งหมดถึง ๑,๐๐๐ ไร่ จึงจะเพียงพอ ต่อการนำกลีบมาโปรยต้อนรับพระธุดงค์ ซึ่ง ณ เวลานี้ ก็มีผู้ปวารณาขอเป็นเจ้าของบุญ ในการปลูกดอกดาวรวย ในปริมาณมากกว่าที่คาดคิดไว้เยอะ และต่อจากนี้.. เราจะพาทุกท่านไปเยี่ยมไร่ท่านผู้มีบุญเหล่านี้กัน...

 

 

เยี่ยมไร่ระบบน้ำหยดของพลเอกอาทิตย์-พรสรร กำลังเอก

จ.นครราชสีมา

สัมภาษณ์ : คุณพรสรร กำลังเอก

 

 

อะไรเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้อาสาปลูกดาวรวยเกือบ ๕๐,๐๐๐ ต้น จำนวนถึง ๑๐ กว่าไร่ ?

         หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมอยู่ ๆ เราถึงได้ลุกขึ้นมาเอาจริงเอาจังกับการปลูกต้นดาวรวยจำนวนมากมายขนาดนี้ อีกทั้งยังลงมือทำเอง และเป็นแม่งานคุมไร่ทั้งหมด ตรงนี้ก็อยากจะบอกว่า โอกาสแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายนัก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีบุญอย่างนี้ให้เราทำอีกหรือเปล่า และที่สำคัญแม้ใครจะรวยหรือมีอำนาจมากสักแค่ไหน ก็ไม่สามารถที่จะทำกิจกรรมเช่นนี้เพียงลำพังได้เลย เพราะอยู่ ๆ จะให้เราไปนิมนต์พระจำนวนถึง ๑,๑๒๘ รูป จากทั่วประเทศมาเดินธุดงค์ เราคงไม่มีปัญญา หรือถ้านิมนต์มาได้ ก็คงไม่สามารถนิมนต์ให้ท่านเดินธุดงค์ด้วยระยะทางไกล ๆ ที่ยาวนานถึง ๒๖ วัน เพียงเพื่อให้เรานั่งโปรยกลีบดอกไม้อยู่คนเดียว ดังนั้นกิจกรรมบุญครั้งนี้... จึงถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของชีวิต ที่เราจะได้ปลูกต้นดาวรวยกับมือ ดูแลจนกระทั่งออกดอก และเอากลีบดอกดาวรวยไปแจกจ่าย ให้คนจำนวนมหาศาลได้มาโปรยด้วยกัน พอนึกแล้วอย่างนี้แล้ว ใจมันปลื้ม เกิดปีติ มีความสุขทุก ๆ วัน...

 

ปลูกที่ไหนบ้างคะ?

         ปลูกทุกที่ที่เราปลูกได้ เพราะเราตื่นเต้นอะเลิร์ตมากหลังจาก ที่กลับจากพิธีปลูกต้นกล้าดาวรวย ที่ดินแดนบ้านเกิดหลวงปู่วัดปากน้ำ เมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม พอมาถึงบ้านตอน ๑ ทุ่ม เราก็ลุยเพาะต้นกล้ากันเลย เพาะจนครบ ๕,๐๐๐ ต้น ในคืนนั้น ซึ่งต้นกล้าล็อตนี้เราจะเอาไปปลูกที่โรงเรียนสอนฟุตบอลของเรา ที่อยู่ใจกลางเมืองย่านถนนสุขุมวิท ๗๑จากนั้นก็ดำเนินการเพาะอีก ๔๐,๐๐๐ ต้น เพื่อเอาไป ปลูกที่ไร่พลเอกอาทิตย์-พรสรร กำลังเอก นอกนั้นก็ปลูกใส่กระถางเรียงไว้เต็มบ้าน ที่เราอยู่ในกรุงเทพฯ หลายร้อยกระถาง...

ทำไมถึงใช้ระบบน้ำหยดคะ?

          เราอยากจะใช้ระบบที่ดีที่สุด คือ ระบบน้ำหยด เพราะทำให้สามารถให้น้ำต้นดาวรวยทั่วถึงและสม่ำเสมอ และที่สำคัญไม่ทำให้วัชพืชขึ้นรอบ ๆ แปลงง่าย อีกทั้งยังเป็นการประหยัดน้ำ ประหยัดเวลา และแรงงานในการรดน้ำอีกด้วย

เริ่มต้นอย่างไรคะ?

         ก็ทำเหมือนกับทำไร่ทั่ว ๆ ไป คือ ต้องถางหญ้าออก ต้องไถพรวนดิน ปรับปรุงดินก่อน แล้วค่อยยกร่องทำเป็นแปลง จากนั้นก็เดินท่อระบบน้ำหยด ใช้พลาสติกที่เจาะรูไว้ปูคลุม เพื่อป้องกันวัชพืช จากนั้นก็ใส่ปุ๋ยเพิ่ม แล้วเอาต้นกล้าลงแปลง

โอกาสแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายนัก
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีบุญอย่างนี้
ให้เราทำอีกหรือเปล่า และที่สำคัญ
แม้ใครจะรวยหรือมีอำนาจมากสักแค่ไหน
ก็ไม่สามารถที่จะทำกิจกรรมเช่นนี้
เพียงลำพังได้เลย

ทำไมถึงชวนคนมาปลูกมากขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่ในไร่ก็มีคนงานอยู่แล้ว ๑๐ กว่าคน
หรือจะจ้างใครมาช่วยปลูกก็ไม่ใช่เรื่องยาก?

          เราคิดว่า.. พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านจัดกิจกรรมนี้ ก็เพื่อต้องการให้ทุกคนมีโอกาสได้บุญ ดังนั้นเราจึงต้องชวนทุกคนที่เรารัก ให้เขามีโอกาสได้บุญใหญ่ตรงนี้ด้วย ด้วยเหตุนี้...เราจึงชวนคน ในชุมชนใกล้ไร่ของเรา ทั้ง บ้าน วัด โรงเรียน มาร่วมกันปลูก เช่น นักเรียนโรงเรียนตะวันชัยวิทยา ซึ่งท่าน ผอ.ดร.จิตรา พีชะพัฒน์ ก็พานักเรียนมาร่วมปลูก ๘๐ กว่าคน เพราะท่านบอกว่า เป็นการถือโอกาสให้เด็กมาเรียนรู้ แล้วจะได้เอาวิธีการไปปลูกที่โรงเรียนด้วย หรืออย่างผู้ใหญ่บ้าน และ อบต. ที่นี่... ท่านก็น่ารักมาก คือ มาเป็นขวัญกำลังใจปลูกต้นดาวรวยร่วมกับชาวบ้าน ซึ่งงานนี้..รวมคนงานที่ไร่ กับชาวบ้านที่มาแล้วก็มากถึง ๓๐ กว่าคนในรอบแรก ส่วนรอบหลังมีถึง ๖๐ กว่าคน ส่วนพระอาจารย์ ที่ท่านมาเป็นประธานในพิธี พระพิจิตร ปภากโร ซึ่งเป็นหัวหน้าศูนย์อบรมวัดคลองภูมิ ท่านก็ได้ เมตตามาเป็นประธานสงฆ์ และพาพระมาช่วยกันปลูก ซึ่งพอมาแล้วท่านก็ปีติที่เห็นญาติโยมทุ่มเท ปลูกกันอย่างเอาจริงเอาจัง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พระบางรูปที่อยากจะสึก เพราะสิ้นสุดระยะเวลาการอบรมแล้ว มีกำลังใจบวชต่อเมื่อได้มาเห็นอย่างนี้ เพราะอยากเป็นเนื้อนาบุญให้กับญาติโยมที่จะมาร่วม
โปรยกลีบดอกดาวรวยกัน...

 

 

เยี่ยมไร่ระบบการให้น้ำแบบสปริงเกอร์

ต.คลองสาม จ.ปทุมธานี

สัมภาษณ์: คุณธเนศ รื่นกลิ่น และคุณสมประสงค์ ปราณีตพลกรัง

 

ทำไมถึงใช้ระบบสปริงเกอร์คะ?

จากเดิมเราใช้วิธีลากสายยางมารดน้ำ ปรากฏว่าสายยางพาดโดนต้นอ่อนล้มระเนระนาด อีกทั้งยังรดน้ำแต่ละต้นได้ไม่สม่ำเสมอ คือ บางต้นก็ได้น้ำมาก บางต้นก็น้อย จนตอนหลังเราตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ระบบสปริงเกอร์ ซึ่งเป็นระบบพ่นน้ำเป็นฝอยหมุนกระจายไปในอากาศ ซึ่งคิดว่าระบบนี้เหมาะกับเรา เพราะเนื้อที่ ๆ เราปลูกจำนวน ๓ ไร่นี้ คนในครอบครัวดูแลกันเอง จึงมีคนไม่มาก ดังนั้นเราจึงต้องการประหยัดเวลาในการรดน้ำ และที่สำคัญระบบนี้ยังสะดวกสบาย เพราะเมื่อเปิดวาวล์ น้ำก็กระจายอย่างทั่วถึงทุกต้น อีกทั้งยังมีคนบอกว่า การให้น้ำระบบนี้
ดีตรงที่ศัตรูพืช เช่น เพลี้ยไฟจะไม่ค่อยมาลง เพราะความชื้นของอากาศมีมาก ซึ่งเป็นสภาพที่เพลี้ยไฟไม่ชอบ

คิดอย่างไรกับการที่อยู่ ๆ ต้องมาทำไร่คะ?

จริงๆ เราซื้อดอกดาวรวยมาโปรยเองก็ได้ แต่เราอยากปลูกเพื่อบูชาธรรมพระเดชพระคุณหลวงปู่
วัดปากน้ำ ซึ่งพอคิดอย่างนี้..แม้เป็นสิ่งที่ไม่เคยทำ หรือต่อให้ยากแค่ไหน เราก็อยากจะทำให้ท่าน ด้วยเหตุนี้..เราจึงรับมาปลูกด้วยความปลื้ม ซึ่งก็มีหลายฝ่ายมาช่วย ตั้งแต่ อบต.คลองสาม ภาคนครหลวง ๓ ชมรมส่งเสริมคุณธรรมชาวบ้านคลอง ๓ แต่เนื่องจากเราไม่มีประสบการณ์การทำไร่ดอกไม้อะไรมาก่อนเลย เราจึงต้องทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ ใส่ใจและพยายามกับการปลูกมาก อีกทั้งยังดูแลประคบประหงมทุกวันราวกับลูกคนหนึ่ง แต่ผลลัพธ์ของการทุ่มเทก็คือ
ตั้งแต่ทำอย่างนี้ใจเราอยู่ในบุญมากจริง ๆ เพราะวัน ๆ เราคิดแต่ว่าจะปลูกเพื่อนำไปโปรยบูชาพระธุดงค์ ซึ่งพอยิ่งนึกก็ยิ่งปลื้ม รู้สึกอะเมซิ่งได้ทุกวันว่า คนอย่างเรากำลังทำในสิ่งที่หลายคนบนโลกไม่มีโอกาส...

ไม่มีประสบการณ์ แล้วปลูกเหมือนมืออาชีพได้อย่างไรคะ?

โชคดีมาก ๆ ที่อยู่ ๆ ได้ไปรู้จักกับคนที่เคยมีประสบการณ์ในการปลูกต้นดาวเรืองตัดดอกส่งขายที่ตลาดไทย เพราะตอนไปซื้ออุปกรณ์มาปลูก ได้เล่าให้คนขายฟัง ซึ่งพอเขาฟังไปฟังมาก็เกิดอินไปกับเราด้วย จึงอาสามาแนะนำ เป็นที่ปรึกษาชั้นดี คือ เดินทางมาดูที่ไร่ สอนโน่นสอนนี่...โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอะไรเลยค่ะ...

ทำไมเขาเต็มใจมาช่วยคะ ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จักกันมาก่อน อีกทั้งเขาก็ไม่เคยเข้าวัดพระธรรมกาย?

เขาพูดมาอยู่ประโยคหนึ่งว่า ตั้งแต่มาช่วยเป็นที่ปรึกษา มาดูไร่ให้เราบ่อย ๆ เหมือนบุญส่งผล คือช่วงนี้เขาขายดีมาก ขายดีจนบางวัน ๓ ทุ่มแล้วลูกค้ายังเข้ามาซื้อของในร้านอยู่เลย สมกับชื่อที่หลวงพ่อตั้งชื่อให้ว่า “ดอกดาวรวย” เพราะปลูกแล้วรวยสมชื่อจริง ๆ ซึ่งเรื่องนี้..ได้เกิดขึ้นกับตัวเองเหมือนกัน คือ ตั้งแต่เรารับปลูกดาวรวยแล้ว กิจการตัวเองก็ดีวันดีคืน งานเข้ามามากจนทำไม่ทันแล้วค่ะ และที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่าเวลาเราปลูกต้นดาวรวย ใจเราจะอยู่ในบุญ และเมื่อใจเราอยู่ในบุญ ก็จะมีอานุภาพดึงดูดสิ่งดี ๆ ที่เป็นสิริมงคลมาสู่ชีวิตแบบง่าย ๆ...

 

 

เยี่ยมไร่ระบบปลูกในถุงที่เขาแก้วเสด็จ

สัมภาษณ์ : พระอาจารย์พงษ์สันติ์ ฐิตคุโณ พรรษา ๑๖

 

ทำไมถึงใช้วิธีปลูกใส่ถุงคะ?

          ที่เขาแก้วเสด็จนี้...ได้ปลูกทั้งหมด ๒๓๐,๐๐๐ ต้น ซึ่งการปลูกของที่นี่จะปลูกลงถุงทั้งหมด แล้วเรียงเป็นแถวยาวตามแนวทางเดิน กลายเป็นถนนสายดาวรวยที่สวยงามมาก การปลูกของที่นี่เราจะไม่นำลงแปลง เพราะเมื่อคำนวณดูแล้วต้องใช้ต้นทุนสูงกว่า เนื่องจากต้องปรับปรุงดินอีกมาก ต้องมีเครื่องจักรหนัก มีรถไถ ต้องทำระบบการรดน้ำใหม่ อีกทั้งต้องใช้ กำลังคนมาก ไม่คุ้มกับการปลูกแบบชั่วคราวในระยะเวลาแค่ ๓-๔ เดือน

 


 

          นอกจากนั้นการปลูกในถุง ยังควบคุมคุณภาพดินให้สม่ำเสมอได้ง่ายกว่า เพราะเราผสมดินที่คุณภาพดีตักใส่ถุงไว้ได้เลย

          และที่สำคัญการปลูกแบบนี้ไม่ต้องระวังเรื่องศัตรูพืชหรือแมลงเลย เพราะการนำต้นดาวรวยมาเรียงริมถนนทางเดิน ทำให้ระบบนิเวศของมันไม่เหมาะกับวงจรชีวิตของศัตรูพืชและแมลงที่จะก่อกวน จึงทำให้เราตัดปัญหาเรื่องนี้ไปได้เลย ส่วนระบบรดน้ำของที่นี่ก็ใช้ รถที่มีแทงก์แล้วเอาฝักบัวรดไปตามเส้นทางเดินรถ ซึ่งสะดวกมาก ๆ

 


ใช้กำลังคนที่ไหนมาช่วยรับบุญปลูกคะ?

          ส่วนใหญ่เป็นสามเณรและเจ้าหน้าที่ ซึ่งก่อนหน้านี้..ก็มีเจ้าภาพมาช่วยกันเพาะกล้าดาวรวย ซึ่งทุกคนทั้งพระ ทั้งเณร เจ้าหน้าที่ และเจ้าภาพต่างปลื้มปีติกันทุกคน และอยากจะให้ถึงวันที่พระเดินธุดงค์เร็ว ๆ

 


ตัวแทนเจ้าภาพที่ร่วมบุญ

เป็นเจ้าภาพปลูกต้นดาวรวย

ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรม เวิลด์พีซวัลเล่ย์

คุณพิศมัย-คุณวาสนา เรืองรักษ์ลิขิต

บริษัท ควีนโปรดักส์ จำกัด

         บริษัท ควีนโปรดักส์ จำกัด รับเป็นเจ้าภาพในการร่วมบุญปลูกดาวรวยที่เวิลด์พีซวัลเล่ย์ จำนวน ๕๐,๐๐๐ ต้น เราทำในฐานะที่เราเป็นชาวพุทธ ที่มีใจอยากจะฟื้นฟูพระพุทธศาสนา เพราะถ้าชาวพุทธไม่ทำแล้วใครจะทำ เพราะการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาทำโดยลำพังไม่ได้ เราอยากจะเห็นสังคมไทยมีแต่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้น อยากเห็นเด็กและเยาวชนไทยรับรู้ว่า เคยมีพุทธประเพณีการโปรยกลีบดอกไม้ ต้อนรับคณะพระภิกษุสงฆ์ เกิดขึ้นในสมัยพุทธกาลมาก่อน อีกทั้งยังอยากให้ชาวพุทธรู้ว่า การเคารพต้อนรับ พระภิกษุที่ถูกต้องเป็นอย่างไร เพราะปัจจุบันบางคนเมื่อเจอพระ ก็ไม่รู้จะวางตัวหรือปฏิบัติตนอย่างไร ให้เหมาะสม ดังนั้นก็อยากให้ทุกคนมามีส่วนร่วม ในการช่วยกันฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ให้รุ่งเรืองเฟื่องฟูเหมือนในสมัยพุทธกาล

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล