ฉบับที่ 104 มิถุนายน ปี2554

วิสาขบูชา วันสำคัญแห่งสันติภาพโลก

ทบทวนบุญ
เรื่อง : พระสมศักดิ์ จนฺทสีโล

 




 

          ปัจจุบันนี้ โลกกำลังเผชิญกับปัญหาและพบกับภัยร้ายแรงทั้งจากธรรมชาติและภัยจากมนุษย์ด้วยกันเอง ก่อให้เกิดผลกระทบและอันตรายตามมา หลากหลายรูปแบบ และมีแนวโน้มจะแผ่ขยายสลับ ซับซ้อนและทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น แม้ชาวโลก จะพยายามรณรงค์แก้ไขเรื่องนี้มากขึ้นเพียงใด แต่ก็ ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก ทั้งนี้ เพราะมนุษย์ยังไม่เข้าใจว่า ต้นตอของปัญหาทั้งหมด ในโลกนี้ มีสาเหตุมาจากอะไร และอะไรคือเบื้องหลัง ของสาเหตุทั้งหลายเหล่านั้น และย่อมเชื่อได้ว่า ตราบใดที่มนุษย์ยังถูกครอบงำด้วย "อวิชชา" หรือความไม่รู้ แม้ในอนาคตต่อไปอีกยาวนาน มนุษย์ก็ยังคงพบกับปัญหาและความทุกข์ทั้งหลายรุมเร้าอยู่ตราบนั้นนั่นเอง

แสงสว่างอันไม่มีประมาณ
แห่งพระสัทธรรมอุบัติแล้ว

          นับเป็นความโชคดีอย่างมหาศาลของมวลมนุษยชาติทั้งหลาย ที่มีการบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นผู้รู้ และเป็นผู้นำแสงสว่างทางหลุดพ้นมาสู่โลก และแสงสว่างแห่งธรรมนั้น สว่างยิ่งกว่าแสงใด ๆ เพราะเป็นแสงสว่างแห่งความ หลุดพ้นและนำทุกคนสู่อมตสุขอันเป็นนิรันดร์ ซึ่งเรา ทั้งหลายย่อมได้ประจักษ์แล้วว่า บัดนี้ แม้กาลเวลา ล่วงมาถึง ๒,๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธธรรมที่พระองค์ตรัสรู้นั้น ยังคงเป็นพระอริยสัจธรรม เป็น ความจริงแท้ที่ได้รับการพิสูจน์มาทุกยุคทุกสมัยและ ทำให้ผู้ประพฤติปฏิบัติตามพบกับความประเสริฐ ได้ด้วยตัวของตัวเองโดยไม่จำกัดกาลเวลา ดังนั้นเมื่อวันเวลาเวียนมาถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ของ ทุกปี ซึ่งเป็นวันที่ชาวพุทธในประเทศไทยและทั่วโลก กำหนดให้เป็นวันวิสาขบูชา หรือวันของพระพุทธเจ้า ชาวโลกทั้งหลายจักได้ย้อนรำลึกถึงพระพุทธองค์ โดยรำลึกถึงการเป็นวันแห่งการประสูติ หรือวันที่พระองค์ทรงอุบัติขึ้นด้วย "รูปกาย" และยังรำลึก ถึงการเป็นวันแห่งการตรัสรู้ของพระมหาบุรุษเอก ผู้เป็นพระบรมครูของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย เพราะเป็นวันที่การเข้าถึง "ธรรมกาย" ภายในตนได้ถูกค้นพบ ...ความจริงแท้ได้ถูกเปิดเผย และอวิชชาคือความไม่รู้ได้ถูกทำลายให้สิ้นไป... พร้อมกันนี้ วันวิสาขบูชาก็ยังเป็นวันแห่งการรำลึกถึงการเสด็จ ดับขันธปรินิพพาน คือ การเสด็จจากโลกไปของพระพุทธองค์อย่างผู้มีชัยชนะเหนืออำนาจโลภะ โทสะ โมหะ ซึ่งเป็นสิ่งร้อยรัดให้มนุษย์ต้องตกอยู่ในวัฏฏะแห่งการเวียนว่ายตายเกิดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และในวาระโอกาสอันเป็นราตรีแห่งพระจันทร์วันเพ็ญ ที่เรียกว่า "วันวิสาขบูชา" นี้ องค์การสหประชาชาติและชาวโลกทั้งหลายยังได้ประกาศให้เป็นวันสำคัญ สากลของโลกอีกด้วย

 




 

เมืองไทย เมืองพระพุทธศาสนา
ปิ่นนานาอารยประเทศ

          นับเป็นความโชคดีของพวกเราทั้งหลาย ที่กระแสธรรมแห่งพระพุทธองค์ได้แผ่ขยายและสืบทอด มายังแผ่นดินประเทศชาติของเรา จนพระพุทธศาสนา ได้เข้ามาสู่วิถีชีวิตของเรา ก่อให้เกิดความสงบร่มเย็น กลายเป็นวัฒนธรรมประเพณีและวิถีชีวิตของคนไทย ตั้งแต่สมัยบรรพชนตราบจนถึงปัจจุบัน แม้ชาวต่าง ประเทศทั้งหลาย เมื่อมองมาเมืองไทย ก็มองถึงความ เป็นเมืองแห่งพระพุทธศาสนา หากเดินทางมาเยือน เมืองไทย ก็มุ่งจะเยี่ยมชมรากเหง้าของชาวไทย รากเหง้าที่ก่อให้เกิดวัฒนธรรมประเพณีไทยและ วิถีชีวิตแบบไทย ซึ่งมีแต่ความสงบร่มเย็น ผู้คนอยู่ร่วมกันอย่างมีสันติสุข โอบอ้อมอารี และฝักใฝ่ในคุณธรรม และในปัจจุบันนี้ เราทั้งหลายต่างมีความ ภาคภูมิใจ ที่แม้ว่าพระพุทธศาสนาจะมิได้มีแหล่งกำเนิดในประเทศไทย แต่เรากล่าวได้ว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองที่สุดในโลก ยากจะหาประเทศใดอื่นที่จะมีพระพุทธศาสนา เจริญรุ่งเรืองเทียบเท่าประเทศไทยได้ เพราะนอกจาก จะมีวัดวาอารามตลอดจนพระภิกษุสงฆ์เป็นจำนวนมากแล้ว ประชาชนคนไทยกว่าร้อยละ ๙๐ ล้วนเป็นชาวพุทธ ซึ่งพลานุภาพแห่งพระรัตนตรัย และความ ศักดิ์สิทธิ์แห่งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ พร้อมด้วยอานุภาพแห่งบุญที่ชาวไทยบำเพ็ญเสมอมา ทำให้บ้านเมืองของเราสงบร่มเย็น ทุกคนต่างยึดมั่น ในความดี เพราะพระพุทธศาสนาสอนให้ทุกคน ละบาป ทำแต่ความดี เมื่อทำดีแล้วย่อมได้ดี ทำดีเมื่อใดเมื่อนั้นได้ชื่อว่าฤกษ์ดี ไม่ต้องคอยให้สิ่งอื่นใด มาดลบันดาล หรือกำหนดวิถีชีวิตของเรา เพราะพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งผู้มีปัญญา จึงนำพา เราทั้งหลายไปสู่ความประเสริฐได้ทั้งในภพนี้และภพหน้า จึงกล่าวได้ว่าพระพุทธศาสนานั้นมีคุณอัน ยิ่งใหญ่ต่อตัวเราอย่างไม่มีที่สิ้นสุดที่ประมาณ

          ดังนั้น เราในฐานะที่เกิดมาเป็นคนไทย และ ได้ชื่อว่าเกิดมาเป็นชาวพุทธ จะช่วยกันตอบแทน คุณแห่งพระพุทธศาสนาของเราอย่างไร และจะทำอะไรให้เกิดประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาบ้าง

 

วิสาขบูชา
สัญญาณสู่ยุคแห่งการฟื้นฟูศีลธรรมโลก

 


 

          วันวิสาขบูชา ณ วัดพระธรรมกาย ในปีนี้มีพิธีกรรมอย่างยิ่งใหญ่ ตั้งแต่ภาคเช้า มีการตักบาตร แด่คณะสงฆ์หลายพันรูป โดยมีกัลฯพรสรร กำลังเอก เป็นประธานในพิธี จากนั้น ในตอนสายได้รับความเมตตาจากพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) นำสวดมนต์ เจริญสมาธิภาวนา โดยมีผู้เข้าร่วมงาน หลายแสนคน ส่วนภาคบ่าย เป็นการประกอบพิธีอุปสมบทอุทิศชีวิตของสามเณรเปรียญจำนวน ๑๒ รูป นั่นคือ การยกฐานะของตนจากสามเณรผู้รักษา ศีล ๑๐ ผู้เป็นเหล่ากอแห่งสมณะ ขึ้นสู่ความเป็นพระภิกษุสงฆ์ผู้มีศีล ๒๒๗ ข้อ เป็นสมณะผู้งดงาม ด้วยความตั้งใจอันเลิศที่ได้เตรียมตัวที่จะเข้าสู่ ความเป็นพระพุทธสาวกมาดีแล้วยาวนาน โดยมีพระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต เป็นพระอุปัชฌาย์

 




 

          ในวันวิสาขบูชา ณ วัดพระธรรมกาย จังหวัด ปทุมธานีครั้งนี้ พวกเราชาวพุทธทั่วโลกทั้งหลาย ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้นำบุญได้เดินทางไปพร้อมเพรียงกัน ในศูนย์กลางธรรมกายแห่งโลก เพื่อประกอบพิธีกรรม อันศักดิ์สิทธิ์เป็นจำนวนมาก นับเป็นภาพอันน่าปีติ เพราะเป็นภาพที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่ง และเป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นพลังแห่งศรัทธาของพวกเราที่มีต่อพระพุทธศาสนา และการไปร่วมประชุมพร้อมกันใน วันนี้ นอกจากจะไปร่วมประกอบพิธีรำลึกถึงคุณแห่งพระรัตนตรัย รำลึกถึงคุณแห่งพระศาสนาแล้ว ยังได้ร่วมกันทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา อันเป็น การปฏิบัติบูชาแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า เจริญรอย ตามแบบอย่างบรรพบุรุษไทย ในอันที่จะอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ให้สืบทอดไปยังอนุชน รุ่นหลังได้ยึดถือเป็นแบบอย่างสืบไป เพราะวัฒนธรรม ประเพณีไทยเป็นสิ่งที่สูงค่า แสดงออกถึงภูมิปัญญา อันชาญฉลาด ที่จะน้อมนำจิตใจของผู้คนให้ฝักใฝ่ ในความดี

 




 

วิสาขประทีปที่รุ่งโรจน์
สู่ชีวิตที่รุ่งเรือง

     พิธีกรรมในภาคค่ำ ณ ลานมหาธรรมกายเจดีย์ ได้มีการประกอบพิธีจุดวิสาขประทีป เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ซึ่งพิธีกรรมอันสำคัญนี้ ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนหลายสาขา ที่ต่างเดินทาง ไปบันทึกภาพและกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อนำไปเผยแพร่ ทั่วโลก และที่สำคัญอย่างยิ่งที่พวกเราชาวพุทธ ทั้งหลายได้ไปพร้อมเพรียงกันในวันนี้ ก็คือ การ ไปร่วมตอกย้ำความศรัทธาในจิตใจของพวกเราที่มีต่อพระพุทธศาสนา ได้ไปแสดงออกถึงความเป็นชาวพุทธ และประกาศตนเป็นผู้นำบุญ ผู้เป็นผู้นำชาวโลกไปสู่ สันติสุข เพราะพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ในวันวิสาขบูชา นี้ จะส่งเสริมให้พวกเรามีความหนักแน่นมั่นคงในศรัทธาในพระศาสนาอย่างมิมีเสื่อมคลาย มีแต่จะเพิ่มพูนทับทวีให้มากขึ้น ๆ ประดุจความรุ่งโรจน์แห่งดวงประทีป ที่จะยังความรุ่งเรืองแก่ชีวิตของเรา ทั้งหลายทั้งทางโลกและทางธรรม

        โดยเราจะย้ำจิตสำนึกแห่งความเป็นชาวพุทธ ของเรา ให้เรามีแต่ความหนักแน่นประดุจขุนเขาที่ไม่หวั่นไหวด้วยแรงลมที่พัดมาทั้ง ๔ ทิศ จะบำเพ็ญ ตนเยี่ยงอุบาสกอุบาสิกาแก้วผู้อยู่ใกล้พระศาสนา คอยทำนุบำรุงรักษาและมุ่งที่จะประพฤติปฏิบัติธรรม ให้เข้าถึงพระธรรมกาย เพื่อเราจะได้ทั้งรู้ทั้งเห็นธรรม มีความกระจ่างแจ้งในธรรม หมดสิ้นความสงสัย ทั้งปวง และกระทำตนเป็นทั้งพยานคอยปกป้องและ เป็นทนายแก้ต่างให้กับพระศาสนา บำเพ็ญตนเป็นพุทธมามกะ มุ่งจรรโลงและสืบต่ออายุพระศาสนาให้ ยาวนานตลอดไป เพราะภาพแห่งความพร้อมเพรียง ของพวกเราทั้งหลาย ที่ได้ไปประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ในวันวิสาขบูชานี้ ถือเป็นภาพแห่งความ ดีงาม และจะประทับอยู่ในใจของเราตราบนานเท่านาน และจะเป็นแบบอย่างแห่งการประพฤติปฏิบัติของอนุชนรุ่นหลัง ให้ยึดถือเป็นแบบอย่างแห่งความ เป็นพุทธศาสนิกชนตลอดไป

 




บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล