ฉบับที่ ๒๔ ประจำเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๗

บั้งไฟพญานาค กับการสืบสานวัฒนธรรมอันงดงาม เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนา พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)

 


เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)
วันเสาร์ที่ ๒๐ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๗

 

             ในช่วงวันที่ ๒๘- ๒๙ ตุลาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งเรามีนัดหมายกันที่ริมฝั่งโขงทั้งสองฝั่ง ฝั่งประเทศไทยก็ที่อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ที่ฝั่งประเทศลาวก็ที่บ้านโดน ปากน้ำงึม ในวันนั้นจะมีพี่น้องไทยลาวและชาวต่างประเทศทั่วโลกทีเดียว เดินทางมาดูบั้งไฟพญานาค ซึ่งเป็นสิ่งอัศจรรย์อยู่คู่โลกมายาวนานกว่า ๒ พันปี ไม่ใช่ปรากฏการณ์ธรรมชาติหรือมนุษย์สร้างสรรค์ขึ้นมา แต่เป็นปรากฏการณ์ที่เหนือธรรมชาติ เกิดขึ้นจากความรักและผูกพันของพญานาคใต้บาดาลที่อยู่ใต้ท้องน้ำโขง ที่ได้เห็นพุทธานุภาพอันไม่มีประมาณเมื่อพระบรมศาสดาเสด็จลงมาจากดาวดึงส์ พร้อมด้วยปวงเทวา และพรหม ลงมาที่เมืองสังกัสสนคร เมื่อได้เห็นพุทธานุภาพอันไม่มีประมาณในวันนั้น แล้วก็ตั้งความปรารถนาจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตด้วย จากวันนั้นมาถึงวันนี้ไม่มีลืมเลือนเลย

             หลังจากนั้นทุกปี พอถึงวันมหาปวารณา เพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑
ก็จะมาระลึกนึกถึงภาพนั้นที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงมา แล้วเกิดความปีติ ใจที่ใสก็กลั่นเป็นดวงไฟที่สดสวยผ่านท้องน้ำ แล้วก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในโลกนี้มีอยู่แห่งเดียว คือที่ลำน้ำโขง ซึ่งต้องถือว่าเป็นลำน้ำที่ศักดิ์สิทธิ์ ลำน้ำแห่งความบริสุทธิ์ ลำน้ำแห่งวัฒนธรรมที่ดีงาม

             ในวันบั้งไฟพญานาคปีนี้ มหาชนทั่วโลกที่เดินทางมาชมน่าจะมากกว่าทุกปี ในวันนั้นเราน่าจะมีกิจกรรมที่ดีๆ เช่น
มีการใส่บาตรพุทธบุตรพระภิกษุสามเณรทั้งสองฝั่งบนสะพานมิตรภาพจังหวัดหนองคาย หรือจัดให้มีกิจกรรมเทเหล้าเผาบุหรี่กลางสะพาน ให้เป็นที่ยืนยันปรากฏต่อสายตาของชาวโลก ให้แม่น้ำโขงเป็นสักขีพยานเลยว่า อย่างน้อยสองฝั่งโขงนี้ ไม่ยินดีต่อสุราเมรัย"ยาเสพติดสิ่งไม่ดีทั้งหลาย"ยินดีแต่สิ่งที่ดีๆ และยุติการดื่มเหล้าเซาสูบยา แล้วมีกิจกรรม bubble for peace ให้ดวงแก้วลอยไปบนท้องฟ้าทั้งสองฝั่ง ในภาคค่ำทั้งสองฝั่งพี่น้องไทยลาวก็มาร่วมใจกันสวดสรรเสริญคุณของ พระรัตนตรัย

             คราวนี้มาถึงคำถามเกี่ยวกับบั้งไฟพญานาค ในประเด็นต่างๆ ที่น่าสนใจหลายข้อด้วยกัน ในฐานะที่เป็นโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา เราก็มีคำตอบ
สำหรับคำถามที่ว่า ทำไมการพ่นบั้งไฟพญานาคต้องพ่นตอนกลางคืน ทั้งๆ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงจากดาวดึงส์ในตอนสาย ของวันมหาปวารณา หรือขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ที่เป็นเช่นนี้เพราะ

             ประการที่ ๑. พญานาคนั้นจะยึดวันเวลาตามจันทรคติ จึงใช้ดวงจันทร์เป็นเครื่องกำหนดรู้

             ประการที่ ๒. ดวงจันทร์วันเพ็ญนั้น มีอิทธิพลต่อจิตใจของพญานาคมาก เมื่อพญานาค ได้เห็นดวงจันทร์เต็มดวง ก็จะทำให้มีกำลังปีติมาก และมากพอที่จะพ่นบั้งไฟพญานาคออกมา

             ประการที่ ๓. ในคืนเดือนเพ็ญเป็นคืนที่มนุษย์และเทวดาจะรับกระแสจากนิพพานได้เต็มที่
             เหตุที่บางพื้นที่ในแม่น้ำโขง เมื่อก่อนเคยมีบั้งไฟบังเกิดขึ้นตอนออกพรรษามาเป็นระยะเวลายาวนาน แต่ภายหลังหายไป ที่เป็นเช่นนี้เพราะพญานาคได้ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นสูงขึ้นตามกำลังบุญ หรือบางแห่งก่อนหน้านี้ไม่เคยมี แต่ตอนหลังก็มามี เพราะได้มีพญานาคมาเกิดใหม่ในบริเวณนั้นและมีจิตเลื่อมใส

             บางแห่งเป็นสระน้ำใหญ่ทั้งที่ไม่ใช่แม่น้ำโขง แต่ก็มีบั้งไฟ เพราะใต้สระน้ำนั้นมีพญานาคไปจำศีลอยู่

             มนุษย์ที่มาคอยดูทั้งสองฝั่งโขง ก็มีผลต่อการพ่นบั้งไฟของพญานาค ถ้ามนุษย์พากันดื่มเหล้าเมามาย ส่งเสียงดังเอะอะ ก็จะเป็นการรบกวนพญานาค และไม่เคารพต่อพระรัตนตรัย บาปก็จะเกิดขึ้นกับมนุษย์ผู้เมามายผู้ไม่รู้เป็นอย่างยิ่ง เพราะพญานาคเขาจำศีลตลอดพรรษา เลื่อมใสในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กำลังจะถวายบั้งไฟเป็นพุทธบูชา กำลังกลั่นใจใสๆ ออกมา เป็นดวงไฟสวยๆ ผ่านท้องน้ำและท้องฟ้าเป็นพุทธบูชา แต่มนุษย์ไม่รู้อะไรเลย ไปเมาแล้วก็ส่งเสียงรบกวนเขา ร้องรำทำเพลง เมามายหรือทำสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ บาปจะเกิดขึ้นกับมนุษย์ผู้ไม่รู้เป็นอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้พญานาคพ่นบั้งไฟมาน้อย พ่นไม่ตรงตามเวลาบ้าง หรือพ่นบ้าง ไม่พ่นบ้าง เพราะการจะพ่นบั้งไฟออกมาได้นั้นต้องอาศัยกำลังแห่งมหาปีติเกิดขึ้นจึงจะออกมาได้

             แต่ถ้ามนุษย์ไปรวมชุมนุมกันด้วยความสงบ ด้วยใจที่เลื่อมใสต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพร้อมใจกันสวดสรรเสริญพุทธคุณ พญานาคก็จะเกิดจิตปีติยินดี สมาธิก็จะตั้งมั่น แล้วเดี๋ยวเหตุอัศจรรย์จะบังเกิดขึ้นในวันนั้น

             เพราะฉะนั้นในวันนั้น หลวงพ่อจึงฝันๆ ไว้ว่า เราสั่งสมบุญกันตั้งแต่เช้า จะมีพุทธบุตร ทั้งสองฝั่งข้ามสะพานมิตรภาพมา แล้วสาธุชน ใส่บาตรพระกัน แล้วให้มีการเทเหล้าเผาบุหรี่ ยุติการดื่มเหล้าเซาสูบยา แล้วผู้มาร่วมงานต่างใส่เสื้อพญานาค เป็นการแสดงว่าเราชื่นชมอนุโมทนากับพญานาค ไม่ก่อกวนเขา ดื่มสุราเมรัย เอะอะมะเทิ่งอะไรต่างๆ แล้วรวมใจกันสวดสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัย จะยิ่งทำให้จิตใจเขาเบิกบาน แล้วเดี๋ยวสิ่งดีๆ จะเกิดขึ้น

             อานิสงส์ของผู้ที่ไปสวดสรรเสริญบริเวณแม่น้ำโขง ผู้สวดก็จะมีสิริมงคล เกิดมหาโชค มหาลาภ จะไม่มีภัยพิบัติทางน้ำ เพราะบุญที่เกิดขึ้นและพญานาคจะคอยคุ้มครองรักษาในทางน้ำ ไปไหนก็จะได้เป็นใหญ่ด้วยอานิสงส์ที่สวดสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย จะเป็นที่รักของมนุษย์และเทวดา จะเข้าถึงฐานะแห่งความเป็นมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ จะได้รับการยกย่องชื่นชม ได้รับเกียรติ ในทุกสถานที่

             จะปลอดภัยในทุกสถานที่ จะได้เกิดในตระกูลสูง มีสิ่งแวดล้อมที่ดีที่จะสนับสนุนในการสร้างบารมี ได้ไปเกิดในเทวโลก ปิดประตูอบาย แล้วก็จะได้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายในได้โดยง่าย ไปเกิดบนสวรรค์ก็จะมีรัศมีสว่างไสวกว่าเทวดาเหล่าอื่น เมื่อมาเป็นมนุษย์ศัตรูหมู่ภัยพาลก็ครอบงำไม่ได้ จะมีแต่คนดีอยู่รอบข้าง อุปสรรคต่างๆ นานา ในชีวิตจะมลายหายสูญ จะไม่มีใครทำให้เดือดเนื้อร้อนใจได้ และก็จะปลอดภัยจากสัตว์ที่มีพิษร้ายต่างๆ เช่น ตะขาบ แมงป่อง งูเงี้ยว เขี้ยวขอ ตลอดไป นี่ก็เป็นอานิสงส์โดยย่อ


บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล