ฉบับที่ 112 กุมภาพันธ์ ปี2555

ชิตัง เม ธุดงค์ธรรมชัย เราคือผู้ร่วมสถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์

ทบทวนบุญ

เรื่อง : พระสมศักดิ์ จนฺทสีโล

 



 

ชิตัง เม ธุดงค์ธรรมชัย

เราคือผู้ร่วมสถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์

         ภาพพระภิกษุจำนวน ๑,๑๒๗ รูป ที่ออกเดินธุดงค์เป็นแถวยาวไปในที่ต่าง ๆ อย่างพร้อมเพรียงกัน ถือเป็นภาพที่เห็นได้ยากในยุคปัจจุบัน และไม่เพียง จะเดินจาริกไปเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนแล้วเท่านั้น แต่หนทางที่ยาวไกลถึง ๓๘๑ กิโลเมตรนี้ ล้วนโรยด้วยกลีบกุหลาบ จากมือของสาธุชนที่คอยต้อนรับพร้อมเปล่งเสียงสาธุการอยู่ตลอดตามรายทางที่ท่าน ก้าวไป ซึ่งภาพและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ย่อมจะต้อง มีสาเหตุที่มาว่าเป็นเพราะเหตุใด เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น และได้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวโลกนี้ ไม่เคยเกิด ขึ้นบนผืนแผ่นดินไทยมาก่อน และชีวิตหลายชีวิตที่เกิดมาแล้วจนหมดอายุไปแล้วก็ยังไม่เคยได้พบเห็นมา ก่อน และภาพอันน่ามหัศจรรย์แห่งความปลื้มปีติครั้งนี้ ได้กลายเป็นบันทึกอันสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ และจักเป็นตำนานเล่าขานไปสู่อนาคตอย่างไม่รู้จบสิ้น

วันนี้...ที่รอคอยนานกว่า ๒๐ ปี

          เคยมีคำกล่าวไว้อย่างน่าฟังว่า "ซ้อมรบร้อยวัน แพ้ชนะรู้ได้ในวันเดียว" ซึ่งหมายถึงการเตรียมการที่ยาวนานเพื่อทำงานแม้เพียงชั่วครู่ให้สำเร็จ และการเดินธุดงค์ธรรมชัย สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน แม้จะใช้เวลาเดิน ๒๔ วัน แต่ต้องรอคอยและเตรียมความพร้อมยาวนานมากว่า ๒๐ ปี ซึ่งพระเดชพระคุณพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) ท่านได้มีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ ที่จะประกาศพระพุทธศาสนา และสถาปนาเส้นทาง มหาปูชนียาจารย์ ด้วยการเดินธุดงค์ธรรมชัยโดย การจาริกไปตามรอยเส้นทางแห่งมหาปูชนียาจารย์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของพระเดชพระคุณ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระผู้ปราบมาร ผู้เป็นต้นแบบแห่งการประพฤติดีปฏิบัติชอบในพระพุทธศาสนา ซึ่งนอกจาก จะเป็นบทฝึกตนอันยิ่งยวดของพระภิกษุธรรมทายาท แล้ว ยังเป็นการแผ่กระแสแห่งสันติสุขอันบริสุทธิ์ที่เกิดจากการปฏิบัติธรรมเผื่อแผ่แก่ชาวโลกทั้งหลาย ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านได้วางแผนเตรียมการและรอคอยวันเวลาที่เหมาะสมเอาไว้ จนวันเวลา นั้นได้ล่วงมา ๒๐ ปี และในปีพุทธศักราช ๒๕๕๔ ได้มีพระภิกษุธรรมทายาทที่บวชต่อหลังจากจบโครงการบรรพชาอุปสมบทในโครงการต่าง ๆ จำนวน มากกว่า ๑,๐๐๐ รูป ท่านจึงได้กำหนดให้มีการเดินธุดงค์ธรรมชัย ซึ่งคาดหมายเอาในช่วงหลังจากออก พรรษา โดยเมื่อรับผ้ากฐินแล้ว ก็จักออกเดินธุดงค์ไปตามเส้นทางดังกล่าว แต่ปรากฏว่า สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นก็บังเกิดขึ้นในแผ่นดินไทยคือเกิดมหาอุทกภัย น้ำท่วมใหญ่ และท่วมอย่างหนักตามเส้นทางที่ได้กำหนดเอาไว้ จึงต้องเลื่อนการเดินธุดงค์ออกไปจน กว่าสภาพพื้นที่จะเป็นปกติ และแล้วเมื่อถึงวันสว่าง พระเดชพระคุณหลวงพ่อก็ปรารภเรื่องนี้ขึ้นอีก ดังนั้น ในวันอาทิตย์ต้นเดือนที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ก็ได้มีการเดินธุดงค์ภายในมหารัตนวิหารคดรอบ มหาธรรมกายเจดีย์ เป็นระยะทาง ๔ กิโลเมตร บน เส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุลาบจากศรัทธาสาธุชน สองข้างทางอย่างเนืองแน่น และต่อมาในวันที่ ๑๙ ธันวาคม ก็มีการเดินธุดงค์รุ่นบุกเบิกสถาปนาเส้นทาง มหาปูชนียาจารย์เป็นระยะทางประมาณ ๑๖ กิโลเมตร จากวัดพระธรรมกายไปสิ้นสุดที่มหาวิทยาลัยปทุมธานี ซึ่งมีการโปรยกลีบกุหลาบจากสาธุชนผู้มีจิตใจอันงดงามต้อนรับแต่ละก้าวย่างของพระธุดงค์ ไปตลอดเส้นทาง

 



 

๒ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๕

เดินธุดงค์จากวัดพระธรรมกายไปมหาวิทยาลัยปทุมธานี จ. ปทุมธานี

 



 

วันสว่าง...สู่ทางสวรรค์

          การเดินธุดงค์ธรรมชัยสถาปนาเส้นทางมหา-ปูชนียาจารย์ อันมีพระภิกษุธรรมทายาทออกเดินธุดงค์จำนวน ๑,๑๒๗ รูปครั้งนี้ เริ่มขึ้นในวันจันทร์ที่ ๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ถือเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่สว่างสดชื่น เพื่อชีวิตจะรุ่งเรืองราบรื่นดุจโรยด้วยกลีบกุหลาบ โดยมีจุดต้นทาง ณ มหาวิหารพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ซึ่งพระภิกษุธรรมทายาท ผู้เดินธุดงค์หลายรูปย่อมรู้สึก สัมผัส และบอกตนเองว่า นับตั้งแต่เข้าไปในมหาวิหารพระมงคลเทพมุนี เพื่อเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง ทุกรูปได้นั่งสมาธิอธิษฐานจิต ดวงใจแต่ละดวงของพระทุกรูปได้น้อมรวมสู่ศูนย์กลางกาย เชื่อมั่นในบุญบารมีของพระเดชพระคุณหลวงปู่อย่างเต็มเปี่ยม การเริ่มต้นเดินครั้งนี้ มีพระเดชพระคุณพระธรรมปิฎก เจ้าคณะ จังหวัดสระบุรี พระเดชพระคุณพระราชปริยัติสุธี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เมตตานำคณะสงฆ์ออกเดินบนเส้นทางอันศักดิ์สิทธิ์ ด้วยปณิธานมุ่งมั่นที่จะดำเนินตามเส้นทางแห่งมหาปูชนียาจารย์ และขณะที่ก้าวย่างออกมาจากประตู เท้าที่สัมผัสกับกลีบ กุหลาบอันอ่อนนุ่มก็บังเกิดความรู้สึกซาบซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย เพราะกุหลาบนี้มิใช่กลีบกุหลาบ ธรรมดา แต่คือกลีบกุหลาบของพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่ได้มอบหมายให้ผู้แทนนำมาโปรยส่ง พระลูกชายของท่าน และนอกจากนี้ยังมีผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้มีจิตใจสูงส่งคอยโปรยกลีบกุหลาบต้อนรับด้วยจิตอนุโมทนาไปตลอดทาง พระภิกษุหลายรูปรู้สึกตรงกันว่า อยากจะเผื่อแผ่พลังแห่งความสว่างภายใน ที่กำลังเกิดขึ้นแจ่มจ้าอย่างไม่มีประมาณในใจนี้ ให้เป็นบุญอันบริสุทธิ์มอบให้กับสาธุชนทุกคน

๓ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๕

เดินธุดงค์จากมหาวิทยาลัยปทุมธานี จ. ปทุมธานี ไปวัดคลองขวาง จ.นนทบุรี

 






 

๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เดินธุดงค์จากวัดคลองขวาง จ.นนทบุรี ไปวัดตรีพาราสีมาเขต จ.พระนครศรีอยุธยา

 



 

๕ มกราคม พ.ศ ๒๕๕๕

เดินธุดงค์จากวัดตรีพาราสีมาเขต จ.พระนครศรีอยุธยา ไปวัดไผ่โรงวัว จ.สุพรรณบุรี

 



 

๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เดินธุดงค์จากวัดไผ่โรงวัวไปอนุสรณ์สถานมหาวิหารพระมงคลเทพมุณี(สด จนฺทสโร) จ.สุพรรณบุรี

 



 

เส้นทางของบุรุษอาชาไนย

          ระยะทาง ๓๘๑ กิโลเมตร ผ่าน ๖ จังหวัด คือ ปทุมธานี นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม และกรุงเทพมหานคร ซึ่งเส้นทางที่เดิน ผ่านเหล่านี้ล้วนเคยมีน้ำท่วมมาก่อน หลายคน ประหลาดใจที่เมื่อเดือนที่แล้วน้ำยังท่วมขังสูงกว่า ๑ เมตร แต่เดือนนี้กลับมีพระมาโปรดจำนวนนับพันรูป ส่วนพระภิกษุผู้เดินธุดงค์ ต่างตระหนักดีว่า เส้นทางต่อไปนี้ คือเส้นทางแห่งมหาปูชนียาจารย์ เป็นเส้นทางของการฝึกฝนอบรมตนเองในทุกรูปแบบ เพราะต้องอดทนต่อความยากลำบาก ต้องอดทนต่อ ทุกขเวทนา อดทนต่อการกระทบกระทั่ง และอดทน ต่ออำนาจกิเลสที่คอยกระทบรบกวนใจ อย่างไรก็ตาม พระภิกษุผู้เดินธุดงค์ทุกรูปต่างยึดมั่นคติธรรม จากพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่มอบไว้ว่า "มองทาง มองกลาง" ซึ่งหมายถึงตาให้มองเส้นทางที่ก้าวไป ข้างหน้าอย่างระมัดระวัง ส่วนใจให้ตรึกเข้าไปในกลางดวงธรรมที่กลางกายอย่าพลั้งเผลอ สำหรับญาติโยมสาธุชนที่มาคอยต้อนรับ ไม่เพียงจะโปรยกลีบกุหลาบไปตลอดทาง แต่ยังเปล่งเสียง สาธุ สาธุ สาธุ ไปตลอดทางเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่น่าภาคภูมิใจก็คือ มีเยาวชนเด็กดีวีสตาร์ ตลอดจน นักเรียน นักศึกษาจากสถาบันต่าง ๆ มาร่วมโปรยกลีบกุหลาบ และต้อนรับพระด้วยจิตใจที่ชื่นบาน กลายเป็นบุญบันเทิงที่มีสาระและจะเป็นนิมิตในจิตใจ ให้ฝักใฝ่ในสิ่งที่ดีงาม แม้บางคนอายุยังน้อยยังไม่รู้ความหมายอะไร แต่ภาพที่เป็นนิมิตอันดีงามนี้จะประทับในจิตใจ คอยประคับประคองให้ชีวิตก้าวเดิน ไปบนเส้นทางแห่งศีลธรรม เพราะแม้พระภิกษุผู้เดิน ธุดงค์จะไม่ประกาศธรรมด้วยวาจา แต่กิริยาอันสงบ เสงี่ยมของท่านได้ประกาศเพศแห่งพรหมจรรย์ อันเป็นสัญลักษณ์ของผู้มุ่งไปสู่ความประเสริฐ เป็นผู้อุทิศ ตนเพื่อยังประโยชน์ตนประโยชน์ท่านให้บริบูรณ์ พร้อมทั้งมุ่งมั่นจะกอบกู้ฟื้นฟูพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองกลับคืนมาดุจครั้งสมัยพุทธกาล และขณะที่เดินไปแต่ละก้าว หนทางที่ห่างจากจุดเริ่มต้น เพิ่มยาวไกลขึ้น จากสิบกิโลเมตรกลายเป็นหลายสิบ กิโลเมตร ร่างกายแม้จะเริ่มอ่อนล้า แต่จิตใจยังคงมุ่งมั่นไม่เปลี่ยนแปลง พระภิกษุหลายรูปคล้ายจะ บอกตนเองว่า "ทุกย่างก้าวคือย่างแก้ว" คือเต็มไปด้วยความปลื้มปีติไปตลอด จิตใจสว่างไสวเบาสบาย แต่บางรูปที่เริ่มมีทุกขเวทนาจากสังขารที่ใช้งาน มายาวนาน อายุมากแล้ว แต่แม้จะทุลักทุเลบ้าง ไม่คุ้นเคยกับการเดินทางอันยาวนานบ้าง แต่เมื่อใด ที่พระพี่เลี้ยงให้สัญญาณเตรียมพร้อมจะเดินในแต่ ละช่วง สัญชาตญาณแห่งความเป็นบุรุษอาชาไนย ก็เกิดขึ้นในใจ ทำให้ลืมความเหน็ดเหนื่อย ลืมความ กังวลต่อสังขาร เดินไปกับหมู่คณะอย่างองอาจสง่างาม เสมือนม้าอาชาไนยที่ไม่สนใจต่อความบาดเจ็บ หรือหิวกระหาย เมื่อมีเสียงกลองศึกดังขึ้น ย่อมวิ่งโลดแล่นเข้าสู่สนามรบอย่างองอาจห้าวหาญ

๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕

หยุดพักทำกิจกรรมบุญที่อนุสรณ์สถานมหาวิหารพระมงคลเทพมุณี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชาธรรมกาย จ.สุพรรณบุรี

 



 



 

พลังศรัทธาจากทุกสารทิศ

          ขณะที่พระภิกษุผู้เป็นพุทธบุตรเนื้อนาบุญ ๑,๑๒๗ รูป กำลังทำทุกย่างก้าวให้เป็นย่างแก้ว ไปตามเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ อันเป็นภาพที่ทำให้คนทั้งโลกได้รู้ถึงคุณค่าอันสูงส่งของพระพุทธศาสนา สาธุชนหลายคนบอกว่า เพียงแค่ได้โปรยกลีบกุหลาบ ต้อนรับคณะพระธุดงค์เท่านั้น ความสุขก็แผ่ซ่าน ซึมลึก เกาะติดไปในใจของทุกคนแล้ว บางท่านบอก ว่าการได้มาร่วมกันโปรยกลีบกุหลาบให้พระคุณเจ้าอย่างนี้ ถือเป็นมงคลอย่างยิ่งใหญ่ทั้งต่อตัวเองและทุกคนในครอบครัว เป็นการฟื้นกำลังใจให้กับทุกคน ได้เป็นอย่างดี อยากให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อส่งพระธุดงค์ไปทุกเส้นทาง ทั้ง ๗๗ จังหวัด เพื่อสิริมงคล จะได้ล้นแผ่นดิน และเมื่อมีข่าวว่าพระธุดงค์จะจาริก ไปที่ใด ก็เกิดความปลื้มปีติโกลาหลไปทุกพื้นที่ ชาวบ้านร้านตลาดต่างเตรียมอาหารหวานคาว นำข้าวหม้อ แกงหม้อ มาถวายพระธุดงค์อย่างมากล้น จนกลายเป็นบุญอัศจรรย์บันลือโลกเกิดขึ้นในทุกอารามและสถานที่ที่หยุดพักระหว่างทางของพระธุดงค์ ชาวบ้านบางคนนั่งรถผ่านแถวพระธุดงค์ ที่กำลังเดินอยู่ ต่างหันมาทางแถวพระธุดงค์แล้วนั่งพนมมือในรถไปตลอดจนพระธุดงค์เลยผ่านไป ถือเป็นภาพแห่งความปีติประทับใจที่ทุกคนไม่มีวันลืมเลือน แม้แต่คณะสงฆ์ในแต่ละพื้นที่ที่พระธุดงค์จาริก ไปถึง ท่านก็ออกมาต้อนรับ โดยพระมหาเถระหลาย รูปก็ได้ออกมาร่วมเดินนำหน้าขบวนแถวพระธรรม-ทายาทเข้าสู่อารามด้วยความปลาบปลื้มอนุโมทนา บางรูปท่านก็กล่าวว่าถือเป็นการฟื้นศรัทธาของญาติโยม กิจกรรมเช่นนี้ถูกต้องที่สุดแล้ว ประดุจนำภาพในสมัยพุทธกาลมาทำให้พวกเราในยุคนี้ได้รู้ได้เห็นด้วยตาจริง ๆ และถึงเวลาแล้วที่พุทธบริษัท ๔ ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน ต้องช่วยกันกอบกู้ฟื้นฟูพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรือง พร้อมกันนี้ ในทุกพื้นที่จะมีนักเรียนนักศึกษา โดยเฉพาะเด็กดีวีสตาร์ ตัวน้อย ๆ จากทั่วประเทศ มาร่วมโปรยกลีบกุหลาบ ด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ทำให้เกิดความหวังว่า อนาคตของพระพุทธศาสนาจะต้องรุ่งเรือง เพราะเด็กน้อยหลายคนบอกว่า "โตขึ้นผมจะบวช แล้วจะออกเดินธุดงค์แบบหลวงพี่บ้างครับ"

๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๕

เดินธุดงค์จากอนุสรณ์สถานมหาวิหารพระมงคลเทพมุณี (สด จนฺทสโร) ไปวัดสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี

 



บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล