ฉบับที่ 81 กรกฎาคม ปี2552

อนุโมทนาธรรมทายาท บวชเข้าพรรษา รุ่น 'กองพันสถาปนา"

ทบทวนบุญ
เรื่อง : บรรณาธิการ

 





อนุโมทนาธรรมทายาท บวชเข้าพรรษา รุ่น "กองพันสถาปนา"

 

  ฤดูกาลเข้าพรรษาถือเป็นวาระแห่งการทำหน้าที่อันยี่งใหญ่ของลูกผู้ชายตัวจริงหัวใจน่ากราบ คือ การบวชทดแทนคุณพ่อแม่และศึกษาธรรมะ เพื่อเป็นหลักในการดำเนีนชีวิต วัดพระธรรมกายจึงได้จัดให้มีโครงการ อบรมธรรมทายาท และอุปสมบทหมู่รุ่นเข้าพรรษาเป็นประจำทุกปี ในปีนี้ เป็นรุ่นที่ ๒๒ แล้ว ซึ่งมีการจัดอบรมระหว่างวันที่ ๑๓ มีถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ ถึงวันที่ ๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ รวมระยะเวลา ๑๑๗ วัน โดยเข้าพิธีบวช ในวันเสาร์ที่ ๒๗ มีถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ ณ สภาธรรมกายสากล ผู้เข้าอบรมธรรมทายาทรุ่นเข้าพรรษา ปีนี้ นอกจากจะได้บุญจากการฝึกฝนตนเอง ตามพระธรรมวีนัยแล้ว ยังจะได้บุญพีเศษจากการทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตร ต้อนรับผู้มีบุญที่จะเข้ามาอุปสมบท ในโครงการอุปสมบทหมู่ ๗,๐๐๐ รูป ๗,๐๐๐ ตำบลทั่วไทยอีกด้วย

 



          โครงการบวชรุ่นเข้าพรรษา ๑,๐๐๐ รูป ถือเป็นโครงการบวชรุ่นประวัติศาสตร์ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ลูกผู้ชายตัวจริงดีจริงทั้งภายใน และต่างประเทศจากทวีปต่าง ๆ ทั่วโลกก็ได้ สมัครเข้ามาบวชไม่ขาดสาย แม้แต่ทวีปโอเชียเนีย ชายหนุ่มนักธุรกิจอนาคตไกลในซีดนิย์ คือ กัลฯ ศุภชัย ไตรยศักดา ก็ตัดสีนใจที้งทุกอย่าง วางทุกสี่ง ออกบวชเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง เช่นเดียวกับ ดร.ไชยยง ปฐวีน อายุ ๕๓ ปี กรรมการผู้จัดการบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ด้วยดีกรีปริญญาเอก จากอเมริกัน ยูนิเวอร์ซีตี้ ออฟ ฮาวาย สหรัฐอเมรีกา (American University of Hawaii) เป็นเครื่องยืนยันถึงความเป็นสุภาพบุรุษผู้มีปัญญาได้เป็นอย่างดี ดร.ไชยยง กล่าวว่า "จุดประกายความคีดที่ทำให้ผมอยากบวช ก็คือ มีพระอาจารย์รูปหนึ่งที่คุ้นเคยทักผมว่า ยังไม่บวชหรือ ผมตอบท่านว่า ทำใจยากครับ เป็นห่วงคนที่บ้าน อีกอย่างอยากบวช ตอนแก่มากกว่าครับ" ท่านก็บอกว่า "นี่ยังไม่แก่อีกหรือ แก่กว่าหลวงพี่อีก นี่ถ้าใส่ชุดจีวรก็ไปเป็นเจ้าอาวาสได้แล้ว" และอีกท่านหนึ่ง คือ กรรมการผู้จัดการบรีษัทแพลนเน็ต ทีแอนด์เอส คือ กัลฯ ประวิตร์ เลิศวิชัยวรวิชย์ อายุ ๕๗ ปี ท่านกล่าวว่า "ผมได้ฟังหลวงพ่อท่านพูดถึงโครงการบวชพระ ๑,๐๐๐ รูป รู้สึกโครงการนี้สำคัญมาก จะเป็นต้นบุญ ให้กับ ๑,๐๐๐,๐๐๐ รูป ภรรยาผมที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็เชียร์ว่า บวชสี ในชีวิตผมเองก็ไม่เคยบวชสักพรรษา แม่ก็อายุ ๘๔ ปีแล้ว การบวชครั้งนี้ ผมว่าสุดคุ้ม ได้บุญบวชด้วย เป็นพี่เลี้ยงด้วย ถ้าไม่ตัดสินใจตอนนี้ เสียดายครับ" คุณหมอซึ่งจบจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เคยบวชธรรมทายาทมาแล้วถึง ๒ ครั้ง คือ นายแพทย์อภินัย ชีนพีพัฒน์ (หมอโอ๊ต) อายุ ๒๘ ปี นายแพทย์ประจำสถาบันธัญญารักษ์ จ.ปทุมธานี อดีตธรรมทายาทรุ่น ๒๘ และรุ่นบูชาธรรม ๖๔ ปี ยังตัดสีนใจมาบวชอีกครั้ง ไม่เว้นแม้อดีตธรรมทายาทรุ่น ๑ กัลฯ จีรวัฒน์ ภู่เพียงใจ หรือพี่อีด ที่ถึงกับกล่าวว่า "ถึงเวลาแล้วที่อดีต ธรรมทายาททุกรุ่นจะต้องมาบวชร่วมรุ่นกันอีก สักครั้งเพื่องานพระพุทธศาสนา" แม้แต่นักธุรกิจ อย่าง กัลฯทนุ มานะไชยรักษ์ ซึ่งเคยเข้าอบรมธรรมทายาทมาแล้วถึง ๖ ครั้งด้วยกัน ก็ขอกลับมาบวชอีกครั้ง และกล่าวยืนยันว่า "การตัดสินใจมาบวชในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่เราจะไม่มีวันต้องกลับมาเสียใจในภายหลังอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้น ผมจะกลับมาบวชในรอบที่ ๗ นี้อีกทำไม"

 




 

            บางท่านตัดสินใจปิดร้านเพื่อลาบวช ๑ พรรษา คือ กัลฯ ต้นตะวัน เกษมคุณ อายุ ๓๒ ปี เจ้าของร้านขายเกาเหลาเลือดหมู จ.สระบุรี เพียงแค่ได้เห็นโฆษณางานบวชรุ่นเข้าพรรษาในหนังสือพีมพ์เดลินิวส์ และโบรชัวร์บวชรุ่นเข้าพรรษา ที่แม่ยายนำมาให้ ก็ตัดสินใจบวชและเขียนป้ายบอก ลูกค้าไว้ว่า "ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่าน ขออนุญาตลาบวช ๑ พรรษา แล้วจะกลับมาให้บริการใหม่"

           นอกจากนี้ บรรดาแม่บ้านทั้งหลายต่างพร้อมใจกันระลึกนึกถึงบุคคลข้างกายผู้เป็นที่รักว่าถึงเวลาแล้วที่ควรไปบวช จะได้เป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ ผู้สถาปนาการบวช ๑,๐๐๐,๐๐๐ รูปให้เกิดขึ้น เพราะรู้ว่าการบวชเข้าพรรษา ครั้งนี้สำคัญมากต่องานพระศาสนาและงานสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นแก่ชาวโลก

 


          จากการทำหน้าที่ผู้นำบุญของ อ.มณี มณีวรรณ และกัลฯ พีศมัย สมแก้ว จ.ชัยภูมี ที่ได้ทำหน้าที่เชีญชวน ผอ.ที่เกษียณอายุราชการก่อนกำหนด (Early Retirement) มาบวช จึงทำให้มี ผอ.คนแรก ของโลกที่มาบวชรุ่นเข้าพรรษา ๑,๐๐๐ รูป ผอ. ท่านนั้นก็คือ ผอ.ชนะเมธา บุไธสง ผู้อำนวยการ โรงเรียนหนองเบ็นเจรีญวีทย์ จ.ชัยภูมี ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ V-Star และได้รับรางวัลประจำจังหวัด เมื่อ อ.มณี และกัลฯ พิศมัย ไปแจ้งข่าวถึงที่บ้านเรื่องการบวชรุ่นเข้าพรรษา พร้อมทั้งชวนว่า ถ้าท่านจะเออร์ลี่ทั้งที ก็น่าจะเออร์ลี่ให้สูง คือ เออร์ลี่แล้วให้มีคนกราบไหว้ทั่วประเทศ ทั่วโลก ด้วยการมาบวชเป็นพระ ภรรยาท่าน ผอ. ที่นั่งฟังอยู่ก็เห็นด้วยและสนับสนุนว่า "ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ดีสิ คุณบวช ฉันก็จะได้กราบไหว้ด้วย" หลังจากใช้เวลาพิจารณาไม่นานนัก ด้วยความเป็นผู้มีปัญญาสูง จึงได้เอ่ยคำอันเป็นอาณัติสัญญาณแห่งความปิติกับทุกคนว่า "เอ้า บวช" พูดสั้น ๆ แต่ได้สร้างความปลื้มใจให้กับทุก ๆ คน

 


            ฝ่ายเจ้าของกิจการหัวใจใฝ่บุญผู้มองเห็นประโยชน์อันยี่งใหญ่ที่จะบังเกิดต่อพระพุทธศาสนาในครั้งนี้ คือ กัลฯ อภิชาติ และกัลฯ นงกรณ์ วิวัจฉรานุกูล เจ้าของกิจการ บริษัท รุ่งศีลป์การพิมพ์ (๑๙๗๗) พอได้ทราบข่าวการบวชรุ่นเข้าพรรษา ๑,๐๐๐ รูป ก็มีความตั้งใจอยากมีส่วนร่วมและสนับสนุนการบวช จึงได้แจ้งข่าวการบวชแก่พนักงาน พร้อมทั้งให้สิทธี์พนักงานบวชรุ่นเข้าพรรษานี้ได้โดยไม่หักเงินเดือน ผลปรากฏว่าได้รับการตอบรับอย่างดี มีพนักงานสมัครบวชถึง ๑๐ คน กัลฯ อภิชาติ เปิดเผยว่า "ผมเห็นว่าโครงการบวชรุ่นเข้าพรรษา ๑,๐๐๐ รูป เป็นโครงการที่ดีมาก บวช ๑,๐๐๐ รูป ก็จะได้ผู้นำที่ดีอีก ๑,๐๐๐ คน เป็นการเพี่มคนดีให้สังคม คนดีคนหนึ่งสามารถเป็นแสงสว่างให้กับคนรอบ ๆ ข้างได้ คนดี ๑,๐๐๐ คน ก็เหมือนความสว่าง ๑,๐๐๐ จุด ความสว่างนี้ก็จะค่อย ๆ ขับไล่ความมิด และเป็นจุดเรี่มต้นของการฟื้นฟูศีลธรรมโลกอย่างแท้จริง"

 


            เมื่อเข้ามาอยู่ที่วัดธรรมทายาททุกท่าน ต้องได้รับการฝึกฝนอบรมตนเองอย่างหนัก ทั้งด้านระเบียบวินัย และการประพฤติปฏิบัติธรรม เพื่อเตรียมตัวที่จะเป็นพระแท้ ผู้เป็นเนื้อนาบุญอันเยี่ยมของโลก ความแตกต่างทั้งด้วยวัย การศึกษา การเข้าวัด อาชีพการงาน ของผู้เข้ารับการอบรมในรุ่นนี้ ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการฝึกฝนตนเองร่วมกัน เพราะทุกคนต่างมีความตั้งใจในการบวชอย่างเต็มที่ ความหลากหลายจึงกลายเป็นสีสันที่ลงตัว ต่างถ่ายทอดประสบการณ์ดี ๆ ดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นเสมือนครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่น ผู้อบรมที่มากด้วยวัยวุฒีหลายท่าน ที่ดูน่าเป็นห่วงในสายตาหลาย ๆ คนโดยเฉพาะเรื่องของกำลังวังชา กลับสร้างความประหลาดใจให้กับพระพี่เลี้ยง เมื่อสามารถทำทุก ๆ อย่างได้เหมือนอยู่ในวัยหนุ่มทีเดียว ทั้งเรื่องการดูแลปัดกวาดเสนาสนะ การขัดวิมาน จัดอาหาร ล้างจาน และมักจะขันอาสาในงานบุญที่ต้องลุยอย่างเต็มที่อย่างไม่มีข้อแม้ บรรยากาศของการอบรมจึงเต็มไปด้วยความเบิกบาน แม้การอบรมจะเคร่งครัด แต่ก็ไม่เคร่งเครียด เมื่อผู้ที่ล้วนแต่มีความตั้งใจ ในการบวชมาอยู่รวมกัน พระอาจารย์และพระพี่เลี้ยงถึงกลับเอ่ยชื่นชมเป็นเสียงเดียวกันว่า รุ่นนี้น่าอัศจรรย์จริง ๆ

 



 

            กิจวัตรที่เป็นที่ชื่นชอบและเฝ้ารอมากที่สุดของธรรมทายาทในรุ่นนี้ ก็คือ การได้เข้าโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ทุกคนรอคอย และต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกว่าชีวิตการมาบวชครั้งนี้ คุ้มค่าและได้ประโยชน์มาก เป็นบุญที่ได้มาบวชที่นี่ ได้ศึกษาธรรมะอย่างชัดเจน รู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว อะไรถูก อะไรผิด อะไรควร อะไรไม่ควร และสี่งที่คุณครู ไม่ใหญ่นำมาเทศน์สอนในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันฯ ทำให้ได้ฟังธรรมะที่เข้าใจง่าย สร้างความเบิกบานได้ตลอดเวลา

 


 

            หลังจากได้รับการฝึกตัวกลั่นเกลาจิตใจมาอย่างดี วันเสาร์ที่ ๒๗ มีถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นวันแห่งการบรรพชา หัวใจของลูกผู้ชายกองพันสถาปนาทุกคน ต่างมีความสุขล้นกับชีวิตใหม่ ก่อนก้าวสู่เพศสมณะ หัวใจของธรรมทายาททุกท่านต่างมีความปลื้มปิติยินดี บางท่านถึงกับกล่าวว่า "ตื่นเต้นนอนไม่หลับมาหลายวันแล้ว ทั้งวันทั้งคืน นอกจากองค์พระกับดวงแก้วที่คุณครูไม่ใหญ่บอกให้หมั่นตรึกแล้ว ยังคิดอีกว่าถ้าเราได้ครองจีวรเป็นพระภิรษุสงฆ์ เราต้องปฏิบัติตนอย่างไร แล้วก็ อุ่นใจเมื่อคุณครูไม่ใหญ่ให้กำลังใจในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันฯ ว่า "เป็นพระภีกษุให้บำเพ็ญสมณธรรม อยู่ในพระวีนัยของพระภีกษุสงฆ์ ปฏีบัตีตามกฎระเบียบของหมู่คณะ หมั่นรักษาใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย ให้ได้ แล้วทุกอย่างก็จะดีตามมาเอง"

 


            คณะผู้ปกครองและหมู่ญาติทยอยมาลงทะเบียน รับผ้าไตรและบาตร บริเวณมหารัตนวิหารคด ตั้งแต่เวลาตี ๕ จากนั้นก็ได้ตั้งขบวนเวียนประทักษิณ บริเวณมหารัตนวิหารคด ภาพของนาคธรรมทายาท และหมู่ญาติผู้มีบุญเดินเวียนประทักษิณรอบ มหาธรรมกายเจดีย์ เป็นภาพที่สงบงามและลานใจ แก่ผู้พบเห็นยี่งนัก หลังเสร็จสี้นพีธิเวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์และพิธีวันทาเจดีย์ของ นาคธรรมทายาท ผู้ปกครองทั้งหลายก็เดินทางสู่ สภาธรรมกายสากล เพื่อประกอบพิธีขอขมาและมอบผ้าไตร วันนี้...ถือเป็นวันที่พ่อและแม่รอคอย วันที่ลูกชายในกองพันสถาปนา จะได้ครองผ้ากาสาวพัสตร์ อันเปรียบประดุจธงชัยแห่งพระอรหันต์ น้ำตาแห่งความปิติไหลอาบแก้มของพ่อและแม่ ที่บัดนี้เปรียบเหมือน ได้ส่งลูกชายที่เฝ้าทะนุถนอมกล่อมเกลี้ยง เลี้ยงดูจนเติบใหญ่ให้ถึงฝั่ง เดินตามรอยพระสัมมาสัมพุทธเจ้า วันที่ลูกได้เปลี่ยนจาก ผู้นับถือพระรัตนตรัยขึ้น เป็นส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัย และจะเป็นวันที่พ่อแม่ได้เป็นญาติกับพระศาสนาอย่างแท้จริง

วันแห่งความปลื้มปีติของหมู่ญาติ

            การบรรพชาในครั้งนี้ นาคธรรมทายาทได้รับความเมตตาจากพระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙, ราชบัณฑิต) มาเป็นพระอุปัชฌาย์ แถวของนาคธรรมทายาทในชุดขาวพร้อมผ้ากาสาวพัสตร์ในอ้อมแขนดูเป็นระเบียบเต็มพื้นที่หน้ารัตนบัลลังก์ เหลืออีกเพียงไม่กี่อึดใจ พลังสีขาว บริสุทธี์แห่งกองพันสถาปนา จะแปรเปลี่ยนเป็นพลังสีเหลืองทองสุกปลั่งแห่งผ้ากาสายะ อันเป็นเครื่องหมายของเพศภาวะอันบริสุทธี์บริบูรณ์ ภาพประวัติศาสตร์การบวชเข้าพรรษา ๑,๐๐๐รูป ที่ชาวโลกเฝ้าติดตามรอคอย กำลังจะบังเกิดขึ้น และเมื่อนาคธรรมทายาทเปล่งคำขอบรรพชา เสียงนั้นกึกก้องไปทั้งสภาธรรมกายสากล ท่ามกลางสักขีพยานของมหาชนทั้งหลาย หลังจากครองจีวรและขอสรณคมน์และศีล นาคธรรมทายาท ก็ได้เป็นสามเณรบุตรแห่งพระชินสีห์ รุ่นกองพันสถาปนา จากนั้นในช่วงสาย คณะผู้ปกครองก็ได้ถวายบาตร และเครื่องไทยธรรมแด่สามเณรธรรมทายาทด้วยความปิติเบิกบาน

ธรรมทายาทเข้าพรรษา รุ่นกองพันสถาปนา ผู้นำพาสันติสุขสู่แผ่นดิน

            ช่วงบ่ายของวันนี้ สามเณรธรรมทายาทก็จะได้ ทยอยทำพิธีอุปสมบท ณ อุโบสถ วัดพระธรรมกาย ตามลำดับ นับตั้งแต่ในวันที่ ๒๗-๓๐มิถุนายน และ ๑-๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ จนกระทั่งได้สำเร็จเป็นพระภิกษุผู้เป็นเนื้อนาบุญของโลกอย่างสมบูรณ์ และต่อจากนี้ พระภิกษุธรรมทายาท รุ่นกองพันสถาปนา จะได้ฝึกฝนอบรมตนเอง เพื่อเป็นต้นบุญต้นแบบให้กับพระภิกษุในโครงการอุปสมบทหมู่ ๗,๐๐๐ รูป ๗,๐๐๐ ตำบลทั่วไทย ซึ่งเปีดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึงวันอาทีตย์ที่ ๑๖ สีงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ซึ่งมีระยะเวลาการอบรม ตั้งแต่วันที่ ๒๒ สิงหาคม ถึง ๑๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เมื่อผืนแผ่นดินหนาแน่นไปด้วยพุทธบุตรผู้ประพฤติธรรม ชาวพุทธทั้งหลายได้บำเพ็ญบุญอย่างต่อเนื่อง แผ่นดินไทยผืนนี้จักถูกเติมเต็มด้วยพลังแห่งบุญอันบริสุทธี์ ช่วยขจัดปัดเป่า แก้ไขวิกฤตต่าง ๆ ของบ้านเมืองให้มีแต่ความสงบสุขและร่มเย็นสืบไป

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล