สัมภาษณ์พิเศษ 

: อารักษณ์ e -mail : [email protected] ภาพ : เจริญ เพ็ชรกิจ

  ในเมื่อครอบครัวมีความหมาย ต่อมนุษย์ถึงเพียงนี้ เราคงเป็นคนหนึ่ง ที่ไม่อยากมีสภาพครอบครัวที่บอบช้ำหรือ มีปัญหาความไม่เข้าใจกันเกิดขึ้นในบ้าน ตลอดถึงปัญหาความเป็นห่วง ความกังวลใจในเรื่องลูกๆ ว่า เมื่อเขาโตขึ้นจะเป็นคนดีท่ามกลาง สภาวะสังคมที่วิกฤติเช่นนี้ได้หรือไม่

      ดังนั้นการเรียนรู้พุทธวิธีทำให้ครอบครัวอบอุ่น จึงมีความสำคัญ และจำเป็นอย่างยิ่ง ดังครอบครัวของโน้ต-อร-พล- ยุ้ย-เบนซ์ ลูกๆ ที่น่ารักทั้ง ๕ คน ของป่าป๊าธีรวัฒน์และม่าม้า คำนวณ ฐานะโชติพันธ์ กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ที.แมนฟาร์มา และบริษัท เฮเว่นเฮิร์บ จำกัด

       วันนี้ทุกคนได้ฝากเคล็ดลับเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ ถึงวิธีการที่ประสบความสำเร็จ ในการนำธรรมะมาใช้สร้างสายสัมพันธ์ รักอันอบอุ่นของครอบครัว ระหว่างพ่อแม่ลูกได้อย่างน่าทึ่ง..!!

เคล็ดลับข้อที่ ๑ : เป็นตัวอย่างดีๆ ให้ลูกเห็น

     "โดยพื้นฐานแล้ว ผมชอบทำบุญ ชอบศึกษาธรรมะ ไปวัดต่างๆ เป็นประจำ เพราะผมคิดว่าทุกคนควรมีหลักธรรม ที่ช่วยชี้นำความคิด ช่วยในการตัดสินใจในการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง ซึ่งภายหลังจากแต่งงานแล้ว ผมก็ได้นำธรรมะมาสู่ครอบครัวโดยการชวนภรรยามาวัด เพราะการทำเช่นนี้ เสมือนเป็นการเตรียมพร้อม เพื่อเป็นพ่อแม่ต้นแบบที่ดี ให้แก่ลูกในอนาคต จนเมื่อลูกๆ เกิดมา เขาก็ได้ซึมซับธรรมะจากพ่อแม่ได้ตั้งแต่เด็กๆ จากนั้นเราก็ได้เป็นผู้นำลูกๆ พาพวกเขาเข้าวัดทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ ถึงแม้งานจะยุ่งแค่ไหน เราก็ต้องแบ่งเวลาให้กับตรงนี้ เพราะการพาลูกๆ มาวัด เป็นวิธีการง่ายที่สุดที่จะทำให้ลูกมีจิตใจที่อ่อนโยน และซึมซับธรรมะได้เร็ว แต่ลูกๆ ก็ถามเหมือนกันว่า ทำไมพาพวกเขามาแต่วัดกัน ซึ่งเราก็ได้อธิบายว่า เรามาวัดก็ได้มาทำบุญ ได้มาทำสาธารณกุศลหลายอย่างด้วย ได้มาทำแต่สิ่งที่ดี ดีกว่าการไปเที่ยวที่อื่น ซึ่งเขาก็เข้าใจ และมาเข้าใจอย่างซาบซึ้ง ในช่วงที่เราพาพวกเขามาเข้าวัดพระธรรมกาย เพราะลูกๆ จะชอบบรรยากาศ ชอบความสะอาด ความสงบร่มรื่นของที่นี่ อีกทั้งมี พระอาจารย์ที่คอยสอนธรรมะ ไขข้อข้องใจต่างๆ ของเขาได้เป็นอย่างดี ..."

เคล็ดลับข้อที่ ๒ : สร้างความรู้สึกเป็นทีมเดียวกัน

        "ความรู้สึกเป็นทีมเดียวกัน จะเกิดขึ้นจากการทำอะไรทำด้วยกัน ฟังความเห็นของกันและกัน ไปไหนไปด้วยกัน เช่น ไปวัด ไปห้างสรรพสินค้า ไปเที่ยว ไปทานอาหารอร่อยๆ ซึ่งการจะไปไหน ลูกๆ ก็จะมีส่วนในการออกความคิดเห็น เช่น ถ้าลูกๆ บอกเราว่า "ตอนเช้าไปวัดแล้ว ช่วงเย็นให้ม่าม้า ป่าป๊าพาไปห้างสรรพสินค้าด้วย" ทำให้เราตกลงไปด้วยกันทั้งทีม ดังนั้นจะเห็นว่าการมีส่วนออกความเห็น จะทำให้ทุกคนรู้สึกว่า ตัวเองสำคัญ ทุกคนพอใจและได้รับประโยชน์ร่วมกัน ทำให้เกิดความรักและความสามัคคีตามมา..."

เคล็ดลับข้อที่ ๓ : สร้างทิฏฐิให้เสมอกัน

      " เราได้สอนให้ลูกมีหลักธรรม เพื่อให้เขามีหลักในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ด้วยวิธีง่ายๆ คือการชวนลูกเข้า โครงการอบรมธรรมทายาท ของวัด ซึ่งได้ผลมาก อย่างลูกสาวคนโตในช่วงวัยรุ่น จะเป็นคนชอบแต่งตัวมาก ชอบเข้าสังคม ชอบปาร์ตี้กับกลุ่มเพื่อน ในมหาวิทยาลัย ซึ่งการทำแบบนี้ หากไม่รู้จักแบ่งเวลา ก็จะทำให้เสียการเรียนเอาง่ายๆ แต่หลังจากให้ลูกไปอบรมกลับมาแล้ว เขาเปลี่ยนไปมาก คือแต่งตัวลดลงไปมาก เอาเวลาไปทำในสิ่งที่เป็นสารประโยชน์มากขึ้น ตั้งใจเรียนมากกว่าเดิม จนสามารถคว้าเกียรตินิยมอันดับ ๑ มาให้พ่อแม่ได้ชื่นใจ เมื่อเราเห็นลูกสาวคนโต ไปอบรมแล้วได้ผลเกินคาด เราก็ได้ส่งลูกคนอื่นๆ ไปอบรมจนครบ ๕ คน ซึ่งการกระทำแบบนี้เท่ากับเป็นการสร้างทิฏฐิของลูกๆ ให้เสมอกัน เมื่อทิฏฐิเสมอกันแล้ว ความขัดแย้ง หรือการทะเลาะกันของลูกๆ ก็เกิดขึ้นน้อยมาก อีกทั้งเมื่อทุกคนอบรมกลับมาเสร็จ ก็เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอีก จนทำให้เราไม่หนักใจในตัวลูกๆ ทั้ง ๕ คนเลย แถมลูกๆ ยังเรียนเก่ง สอบติดมหาวิทยาลัย ได้เรียนคณะดีๆ รู้จักหน้าที่ มีความรับผิดชอบกันทุกคน มีความประพฤติดีจนทำให้เราภูมิใจในตัวพวกเขามาก"

เคล็ดลับข้อที่ ๔ : ทำบุญทำด้วยกัน

     "ครอบครัวเรา เป็นครอบครัวที่รักเรื่องการทำบุญ และชอบชวนกันทำบุญ โดยที่ทุกคนยินดีและเห็นพ้องต้องกัน ตรงนี้อยากให้ลูกๆ ช่วยกันตอบว่า พวกเขาได้อะไร จากการที่ครอบครัวชอบทำบุญบ้าง เพราะเงินส่วนหนึ่งที่เอามาทำบุญ ก็เป็นเงินที่สะสมไว้สำหรับพวกเขาในอนาคต "ตัวแทนลูกคนหนึ่ง น้องโน้ต..ได้ตอบขึ้นว่า..ไม่รู้สึกเสียดายอะไรเลย และยินดีมากๆ กับการที่ป๊า-ม้าทำอย่างนี้ เพราะพวกเราทุกคนถูกปลูกฝัง ให้รู้คุณค่าของบุญตั้งแต่เล็ก การทำบุญเป็นทีมอย่างนี้ ทำให้เราได้บุญกันทั้งครอบครัว พวกเราจำเป็นต้องสั่งสมบุญ เพราะหากไม่มีบุญมากพอ พวกเราก็ไม่มีบุญที่จะรองรับ รักษา และเพิ่มพูน สมบัติของป๊า-ม้าในอนาคตได้ และอีกอย่าง ตอนพวกเราเกิดมาก็มาแต่ตัว ไม่มีทรัพย์สมบัติอะไรติดตัวมาด้วย ดังนั้นเงินทองทุกอย่างก็เป็นสิทธิ์ของป๊า-ม้า และการที่ป๊า-ม้า ทำอย่างนี้ เราก็พบว่า ครอบครัวเรามีแต่ดีขึ้นๆ ตลอดเลยค่ะ"

ความในใจของลูกๆ ถึงป๊า-ม้า

           "พวกเรารู้สึกภูมิใจมาก ที่พ่อแม่ของเราทำหน้าที่ ได้มากกว่าความเป็นพ่อแม่ คือเป็นกัลยาณมิตร ให้กับเราตั้งแต่แรกเกิด พวกเรารัก และภูมิใจ ที่ได้เกิดมามีพ่อแม่ อย่างป๊า-ม้ามาก ถ้าพวกเราไปเกิด ในครอบครัวอื่น ก็คงไม่ได้อย่างนี้ ป๊า-ม้าสอนเราให้มีความรู้ทางโลกและทางธรรมควบคู่กันไป สอนให้เราเข้าใจในเรื่องเป้าหมายชีวิตของการเกิดมาเป็นมนุษย์ สอนให้นั่งสมาธิ เพราะการนั่งสมาธินั้น จะทำให้เรารู้สึกรักตัวเอง และการรักตัวเอง จะทำให้เราไม่ทำในสิ่งที่ไม่ดี นำแต่สิ่งดีๆ มาสู่ตัวเอง และอยากมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองและคนรอบข้าง พวกเรายังเคยคิดกันเลยว่า อยากให้สังคมไทยมีครอบครัวที่ดี ที่อบอุ่นด้วยธรรมะแบบนี้ หากเป็นอย่างนี้ได้จริงๆ เมืองไทยเราคงจะดีขึ้นอีกไม่น้อย..."