ฉบับที่ 118 สิงหาคม ปี2555

เข้าถึงธรรมะ ได้อย่างง่ายๆ แค่หยุดใจ นิ่ง ๆ เฉยๆ เท่านั้น

ผลการปฏิบัติธรรม

เรื่อง : ธัมม์วิชชา

 

 

เข้าถึงธรรมะ ได้อย่างง่ายๆ

แค่หยุดใจ

นิ่ง ๆ เฉยๆ เท่านั้น

 

         เรานั่งสมาธิกันมาได้นานแค่ไหนแล้ว ..ได้สัมผัสกับความสุขที่ทำให้หัวใจยิ้มได้แล้วหรือยัง ถ้าเรายังไม่รู้ว่า รอยยิ้มของหัวใจอยู่ที่ไหน ทำไมนั่งทีไรใจไม่เห็นจะยิ้มสักที ไม่มืดก้ฟุ้ง ไม่ฟุ้งก้เมื่อย ไม่เมื่อยก้เบื่อ ..อยากให้กลับมาทบทวนตัวเองอีกครั้งว่าเราวางใจอย่างไร หยุด นิ่ง เฉยๆ จริงๆ เราย่อมพบกับความสุขที่ทำให้หัวใจยิ้มได้ ดั่งเช่นประสบการณ์ภายในของพุทธบุตรธรรมทายาทเหล่านี้

 

พระชนวีร์ อตฺตชิโน

 

          ก่อนมาบวช อาตมามีอาชีพเป็นช่างตัดผม มีชีวิตที่ค่อนข้างเรียบง่าย วัน ๆ อยู่แต่กับความสวย ความงาม ดูแลจัดแต่งทรงผม สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า แล้วปกติก็เป็นคนใจบุญ ไม่ว่าใครจะบอกบุญอะไร จะเอาซองกฐิน ผ้าป่า มาให้กี่ซอง ต่อกี่ซองก็ไม่เคยปฏิเสธ อาตมายังเคยใส่ซองทำบุญ กับวัดพระธรรมกายหลายบุญเลย แล้วในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ลูกสาวของอาตมาไปบวชเป็นอุบาสิกาแก้ว หน่ออ่อน วันรับผ้าสไบแก้วที่วัดพระธรรมกาย อาตมา ก็ไปที่วัดพระธรรมกาย ไปเป็นกำลังใจให้กับลูกสาว ด้วย ซึ่งก็เป็นครั้งแรกที่ได้ไปสัมผัสวัดพระธรรมกาย ด้วยตนเอง

          ช่วงที่ประกอบพิธีภาคเย็น อาตมาได้ขึ้นไปอยู่ บนวิหารคด พอมองลงไปที่ลานธรรม มหาธรรมกายเจดีย์ อาตมาตะลึงเลย น้ำตาไหลออกมาเพราะ ความปลื้ม พูดกับตัวเองว่า นี่มันไม่ใช่โลกมนุษย์ เราอยู่ที่ไหนกันเนี่ย หลังจากนั้น อาตมาก็สมัครเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อทันที มุ่งหน้ารักษาศีล ๕ อย่างบริสุทธิ์บริบูรณ์ และรักษาศีล ๘ ในวันพระ นอกจากนี้ยังทำบุญทุกบุญ แถมยังทำหน้าที่ชวนคนบวชอีกด้วย แล้วทีวีที่ร้านก็เปิดแต่ DMC ช่องนี้ ช่องเดียว ๒๔ ชั่วโมง

         ตั้งแต่ได้รู้จักหลวงพ่อ อาตมาก็ฝึกนั่งสมาธิกับหลวงพ่อทุกคืนทาง DMC แล้วการที่ได้ฟังหลวงพ่อเล่าเรื่องผลการปฏิบัติธรรมของคนนั้นคนนี้ ก็ทำให้มีแนวทาง มีกำลังใจในการนั่งสมาธิ อาตมา ฝึกสมาธิได้ประมาณ ๑ ปี ก็เริ่มเข้าใจการเอาใจมา ไว้ที่กลางท้อง แล้วใจก็เริ่มนิ่งขึ้น จนสามารถมอง เห็นดวงแก้วใสสว่างได้ และเวลานั่งก็เห็นดวงแก้ว บ้าง องค์พระบ้าง หลวงปู่บ้าง เห็นมาเรื่อย ๆ เป็น ระยะ ๆ จนกระทั่งจังหวะชีวิตลงตัว จึงได้ไปบวชในภาคฤดูร้อน และด้วยความเมตตาของหลวงพ่อ ที่ให้โอกาสพระธรรมทายาทได้ขึ้นไปปฏิบัติธรรมที่จังหวัดเชียงใหม่ ก็ทำให้สมาธิของอาตมาพัฒนาขึ้น อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาตมารักษาใจของตนเองด้วยการ นึกถึงมหาปูชนียาจารย์ แล้วทุก ๆ ก้าวเท้า ทุก ๆ ย่างเดิน อาตมาก็ท่อง สัมมา อะระหัง ตลอดเวลา ด้วย

          คืนหนึ่ง อาตมานั่งสมาธิแบบสบาย ๆ ทำใจ เฉย ๆ เอาใจมาไว้ที่กลางท้องอย่างเดียว สักพักก็เห็นแสงสว่างค่อย ๆ โตขึ้น พอจับไปที่แสงสว่าง ใจก็นิ่งมาก แล้วก็มองเห็นหลวงปู่ทองคำอยู่กลางท้อง เป็นองค์ใหญ่เหมือนองค์ที่เราอัญเชิญไปที่วัดปากน้ำ เลย แล้วอาตมาก็เอาใจไปเชื่อมไว้กับหลวงปู่ หลวงปู่ ก็ขยายใหญ่ขึ้น ๆ ใหญ่จนประมาณไม่ถูก ก่อนจะหมดเวลา อาตมาอธิษฐานกับหลวงปู่ว่า หลวงปู่ ครับ ขอให้ผมได้ประสบการณ์ดี ๆ ได้เห็นองค์พระ สวย ๆ นะครับ ผมจะได้เขียนไปเล่าให้พระเดชพระคุณหลวงพ่ออ่าน ท่านจะได้ปลื้มครับ พอตอน เช้า ตื่นจากจำวัดปุ๊บ อาตมาก็นั่งสมาธิโดยนึกถึงความตาย สักพักใจก็นิ่ง เบา เฉย พอมองลงไปที่กลางท้อง อาตมาก็เห็นองค์พระใหญ่ประมาณ ๑ ฝ่ามือ เป็นแก้วใส ๆ มองทะลุปรุโปร่งไปหมดทั้งองค์ แล้วก็มีลำแสงส่องไปที่องค์ท่าน เป็นประกายทั้งองค์ ด้วย ตั้งแต่เกิดมาอาตมาไม่เคยเห็นองค์พระที่ไหนสวยสง่างามทุกมุมมองแบบนี้เลย สวยจนประมาณไม่ถูก ตอนนั้นใจยิ้มเลย รู้สึกชื่นใจ มีความสุขมาก รู้สึกว่า จิตใจของเราสมบูรณ์พร้อมแบบไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว พอลืมตาขึ้นองค์พระก็ยังอยู่ ยังเป็นองค์ใสสะอาด ใสสว่าง นั่งสมาธิอยู่กลางท้อง อาตมา รู้สึกโชคดีมากที่ได้เกิดมาเป็นลูกหลานของหลวงปู่ หลวงพ่อ และคุณยายอาจารย์ฯ และดีใจมากที่ได้รู้ว่า เราเกิดมาทำไม รู้สึกภูมิใจที่สามารถนั่งสมาธิจนเห็น องค์พระได้ แล้วองค์พระก็เมตตาอยู่กับเราตลอดเวลา อีกด้วย

 

พระวิทยา วฑฺฒนสุโภ

 

         ก่อนมาบวช อาตมาทำงานเป็นตัวแทนจำหน่ายและติดตั้งเครื่องทำความเย็น มีรายได้ ต่อเดือนพอสมควร แต่มักจะรู้สึกเบื่อ รู้สึกว่าชีวิตซ้ำซากจำเจ จึงถามตัวเองว่า เรามีชีวิตอยู่แค่นี้เอง หรือ ตื่นเช้าไปทำงาน เย็นกลับมาหาข้าวหาปลากิน เซ็ง ๆ ก็ไปดื่มเหล้าเฮฮา ชีวิตเรามีอยู่แค่นี้จริง ๆ หรือ ทำไมจึงไร้สาระมากเลย แล้วก็เกิดอาการอยาก บวชขึ้นมาเสียเฉย ๆ จึงตัดสินใจไปบวชในโครงการ อุปสมบทหมู่ ๑๐๐,๐๐๐ รูป รุ่นเข้าพรรษา ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ แต่ในครั้งนั้นจำเป็นต้องลาสิกขาออกไปก่อน เพราะลางานมาเท่านั้น แล้วก็กลับมาบวชใหม่ในภาค ฤดูร้อน

         บวชรอบนี้อาตมาบอกกับหัวหน้าว่า คราวนี้ ผมจะขอบวชแบบไม่กำหนดระยะเวลานะครับ ผมไม่รู้ว่าผมจะกลับมาทำงานได้อีกเมื่อไร แต่หัวหน้า ที่แสนดีก็บอกว่า ไม่เป็นไร กลับมาเมื่อไรจะรับเข้า ทำงานเมื่อนั้น บวชรอบนี้ อาตมาไม่ต้องปรับตัวอะไรมากเลย และไม่ว่าหลวงพ่อสอนอะไร อาตมาก็จะเอามาพิจารณา แล้วก็พูดน้อย นอนน้อย ฉันน้อย ปฏิบัติธรรมเยอะ ๆ และนึกถึงดวงแก้ว องค์พระเป็นอารมณ์ พอถึงเวลานั่งสมาธิใจก็นิ่งได้เลย และสามารถนั่งเฉย ๆ ได้ตลอดชั่วโมง ไม่กระดุกกระดิก ไม่รู้สึกกระสับกระส่าย

          วันหนึ่ง อาตมานั่งสมาธิตามเสียงการนำนั่งของหลวงพ่อ ใจก็ค่อย ๆ นิ่ง สักพักรู้สึกเหมือนมีอะไรมาดึง แล้วก็วูบไปเหมือนตกเหว พอตกลงไปปุ๊บ ก็เห็นเป็นแสงสว่างขึ้นมาที่กลางท้อง อาตมาก็ทำตามที่หลวงพ่อสอน ว่าให้ทำเฉย ๆ ก็เลยเฉยอย่างเดียว แล้วแสงนั้นก็กลายเป็นดวงแก้วใส ๆ ใน ดวงแก้วก็มีแสงสว่างด้วย พอมองดวงแก้วไปเรื่อย ๆ ดวงแก้วก็กลายเป็นองค์พระผุดขึ้นมาทีละองค์อย่าง ช้า ๆ อาตมาเห็นท่านเหมือนมองจากที่สูง โดยเห็น ได้ชัดทุกสัดส่วน ใสสว่างมาก ๆ พอมองนิ่ง ๆ ทำ เฉย ๆ คราวนี้องค์พระก็ผุดขึ้นมาไม่ขาดเลย แล้วก็ กลายเป็นองค์ใหญ่ขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตอนนั้นรู้สึก สบายใจมาก โล่งไปหมด อยากหยุดเวลาเอาไว้อย่าง นั้น ไม่อยากลุก ไม่อยากออกจากสมาธิเลย แต่พอลืมตาแล้วองค์พระก็ยังอยู่ จะยืน เดิน นั่ง นอน ก็ยังเห็นท่านติดอยู่ในใจ ใสสว่างอยู่ในท้องตลอดเวลา

        อาตมารู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เชื่อมั่นในเรื่องนรก-สวรรค์ รักบุญ กลัวบาป มดก็ไม่กล้าบี้ ยุงก็ไม่กล้าตบ ขนาดยุงวัดพระธรรมกายกัดแน่นมาก อาตมายังต้องค่อย ๆ เอามือเขี่ยออกเลย เพราะกลัวมันตาย แล้วตอนนี้ อาตมาก็มีความ ตั้งใจในการบวช จะขอบวชแบบวันต่อวัน เดือนต่อ เดือน ปีต่อปี ชาติต่อชาติ จะทำหน้าที่เป็นพระพี่เลี้ยง ให้ดีที่สุด เพราะเราเกิดมาสร้างบารมี เราก็ต้องสร้าง บารมี

 

พระสายัณห์ สุตพโล

 

         ก่อนมาบวช อาตมามีอาชีพเป็นช่างไฟฟ้า ทำงานประจำอยู่ที่หน่วยซ่อมบำรุงในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง มีชีวิตที่สนุกสนานเฮฮาไปวัน ๆ แล้วก็ทั้งดื่มเหล้า สูบบุหรี่ พอตกกลางคืนก็มีไนท์คลับ ผับ บาร์เป็นที่ไป ใช้ชีวิตประมาณนี้อยู่ ๗ ปี ก็เริ่มเซ็ง เกิดอารมณ์อยากอ่านหนังสือธรรมะขึ้นมา พอหยิบหนังสือธรรมะเล่มแรกขึ้นมาอ่าน อ่านไปอ่านมาก็ชอบ คราวนี้เห็นหนังสือธรรมะที่ไหนเป็นต้องหยิบมาอ่านทุกที แล้วที่ชอบที่สุดคือหนังสือที่สอนเรื่องกฎแห่งกรรม หลังจากนั้นก็เลิกเที่ยว เลิกดื่ม เลิกทำตัวเสเพล แล้วบุญก็บันดาลให้ญาติมาชวนบวช ในโครงการอุปสมบทหมู่ ๑๐๐,๐๐๐ รูป ภาคฤดูร้อน พอเขาชวนปุ๊บ อาตมาก็ตอบตกลงปั๊บ เพราะอยาก บวชมานานแล้ว พอได้บวช ได้นั่งสมาธิ ก็ยิ่งมีความสุข

         เวลานั่งสมาธิ อาตมาจะนั่งเฉย ๆ ไม่คิดอะไร ปล่อยจิตให้ว่าง ภาวนา สัมมา อะระหัง ไปเรื่อย ๆ มีอยู่ช่วงหนึ่ง รู้สึกว่านิ่งไป แล้วก็วูบ สักพักก็มีแสงสว่างจ้าขึ้นมา ไม่ได้สว่างอยู่ตรงหน้าหรือในท้อง แต่อาตมารู้สึกว่าสว่างอยู่ในจิตของอาตมาเอง สว่างมากเหมือนไฟสปอตไลต์ พออาตมาทำใจนิ่ง ๆ ก็มองเห็นตรงกลางของความสว่างมีพระพุทธรูปตั้ง อยู่เป็นพระพุทธรูปใส ๆ เหมือนที่ตั้งอยู่บนหิ้งพระของศูนย์อบรม องค์ใหญ่ประมาณรูปพระในหนังสือ สวดมนต์ ตอนนั้นจิตนิ่งมาก ไม่คิดอะไรเลย มีแต่ความสงบและปีติ จะบอกว่าดีใจเยอะก็ไม่ใช่ แต่เป็น ความรู้สึกเฉย ๆ กลาง ๆ แล้วสักพักพระพุทธรูป ก็หายไป หลังจากนั้นอาตมาก็นั่งสมาธิได้ดีขึ้น จิตว่างง่ายขึ้น แล้วเวลาหลับตาก็ไม่มืดอีกแล้ว

          ถ้าตั้งใจอ่านเรื่องราวประสบการณ์ภายในของ พระธรรมทายาทหมดทุกบรรทัด ถ้อยคำที่สำคัญที่สุด ซึ่งก่อเกิดเนื้อความแห่งความสุขที่ไม่อาจประมาณหรือบรรยายเป็นตัวอักษรได้ จะหลงเหลือถ้อยคำมหัศจรรย์เพียงแค่ ๓ คำ คือ หยุด นิ่ง เฉย อย่างนี้ แค่นี้ เท่านั้น ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่เราจะไปนั่งทำใจให้ หยุด นิ่ง เฉย อย่างนี้ แค่นี้ เท่านั้น ตอนนี้เลย ดีไหม..หัวใจจะได้ยิ้มได้สักที

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล