ฉบับที่ 125 มีนาคม ปี2556

พิธีบรรพชาสามเณร ๑๒๖ รูป ครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศอินโดนีเซีย

สร้างโลกแก้ว

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

 

 

พิธีบรรพชาสามเณร ๑๒๖ รูป

ครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศอินโดนีเซีย

 

         ในวันนี้ความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาครั้งใหม่ได้บังเกิดขึ้นแล้ว ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่พระพุทธศาสนาเคยเฟื่องฟูมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล เห็นได้จากความยิ่งใหญ่ของพุทธสถาน “บุโรพุทโธ” ที่มีอายุนับพันปี และได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลก ทุกวันนี้อินโดนีเซียถือว่าเป็นประเทศหมู่เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีประชากรทั้งประเทศมากที่สุดในอาเซียน คือ ๒๔๐ กว่าล้านคน และมีประชากรเพื่อนต่างศาสนิก (มุสลิม) มากที่สุดในโลก ถึงแม้ผู้คนจะมีความแตกต่างกันมากมาย แต่อินโดนีเซียก็มีสโลแกนว่า Unity in Diversity หรือ “หนึ่งเดียวบนความหลากหลาย” หมายความว่า ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข

 



 

         สำหรับการเดินทางไปจัดงานบวชที่อินโดนีเซียนั้น กำหนดขึ้นในวันที่ ๒๑-๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ที่วิทยาลัยพุทธศรีวิจายะ เมืองบันเตน ซึ่งอยู่ในเกาะชวา ถึงแม้เมืองบันเตน มีชาวพุทธอยู่แค่เพียงกลุ่มเล็ก ๆ ทีมงานก็ได้เห็นความตื่นตัวและความกระตือรือร้นของชาวพุทธที่นี่เป็นอย่างมาก และทั้ง ๆ ที่เดือนธันวาคมอยู่ในช่วงฤดูมรสุม มีฝนตกเกือบทุกวัน แต่ก็มีชาวพุทธให้ความสนใจมาเข้าร่วมงานบรรพชาสามเณร ๑๒๖ รูป กันอย่างคึกคักและล้นหลาม โดยมาจากเกาะต่าง ๆ ทั่วประเทศ

         ผู้มีบทบาทสำคัญที่ทำให้งานนี้เกิดขึ้นได้คือ ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศรีวิจายะ ที่มั่นใจในระบบการอบรมของมูลนิธิธรรมกาย จนใจเปิดอยากให้มีการอบรมแก่นักศึกษาของตน ท่านจึงทำหน้าที่เป็นครูดีศรีอินโด นำทีมชวนนักศึกษาชายและคุณครูผู้ชายให้มาบวชเกือบหมดโรงเรียน และยังชวนคนในครอบครัวให้มาบวช พร้อมกับบวชเองด้วย เรียกว่างานบวชครั้งนี้เป็นการรวมพลังกันของทั้งบ้าน วัด โรงเรียน อย่างครบถ้วน ส่วน นักศึกษาหญิงแม้บวชไม่ได้ แต่ก็มาช่วยเตรียม งานบวชตั้งแต่ตี ๔ ถึง ๔ ทุ่ม ติดต่อกันทุกวัน ไม่ขาดเลย

 



 

         งานบรรพชาสามเณร ๑๒๖ รูปนี้ พระธรรมกิตติวงศ์ เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม ได้เมตตาบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปเป็นพระอุปัชฌาย์และพระภาวนาวิริยคุณ (หลวงพ่อทัตตชีโว) ก็เดินทางไปร่วมพิธีด้วย ซึ่งบรรยากาศในงาน เต็มไปด้วยความสงบและศักดิ์สิทธิ์ ทำให้สาธุชน ชาวพุทธที่มีโอกาสไปร่วมงานบรรพชาครั้งนี้ต่างปลาบปลื้มจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ และพูดเป็น เสียงเดียวกันว่า “เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้เห็นภาพการบรรพชาของสามเณรเป็นจำนวนมากขนาดนี้”

 

 

         ส่วนนาคธรรมทายาททุกท่าน ซึ่งปกติซ้อมท่องคำขอขมาได้อย่างคล่องแคล่ว และเสียงดังมาก พอถึงวันจริงเสียงกลับเงียบไปในบางจังหวะ เพราะรู้สึกตื้นตันจนน้ำตาไหล ถึงขั้นพูดไม่ออกกันเลยทีเดียว

 







 

         ทางด้านพระอนุรุทธะ เถโร จากศรีลังกา ก็ให้เกียรติไปร่วมงานบวชครั้งนี้ด้วย และรู้สึกประทับใจมาก จนกระทั่งเกิดแรงบันดาลใจอยากจัดงานบวชแบบนี้ในศรีลังกาบ้าง เนื่องจากวัฒนธรรมชาวพุทธ ที่ศรีลังกาไม่มีการบวชระยะสั้นอย่างนี้ หากบวชแล้วต้องบวชตลอดชีวิต ซึ่งการบวชระยะสั้นแบบนี้จะช่วยหล่อหลอมชาวพุทธ ให้มีโอกาสปฏิบัติตามแบบอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และช่วยกันฟื้นฟูพระพุทธศาสนาให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง

 

 

         ในวันงานมีนักร้องมืออาชีพชื่อดัง คือคุณโอลิเวีย ยูนิต้า ใช้เสียงอันทรงพลัง และไพเราะขับร้องบทเพลงของตะวันธรรม ในภาคภาษาอินโดนีเซีย ถึง ๔ เพลง ด้วยกัน คือ ชีวิตสมณะ ผ้าชุดสุดท้าย วันที่แม่รอคอย และอนุโมทนา โดยใช้เวลาอัดเสียงเพียงแค่ครึ่งวันเท่านั้น เธอบอกว่า ภาคภูมิใจที่ได้ร้องเพลงเหล่านี้ และร้องเพลงอย่างมีความสุข ร้องไปน้ำตาก็ไหลไปด้วย

         สามเณรธรรมทายาทชาวอินโดนีเซียที่นี่รักการเรียนรู้มาก ขณะอยู่ในการอบรมก็ทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจ อาทิเรื่องวัฒนธรรมชาวพุทธ สามเณรต้องรับบุญดูแลความสะอาด จัดแถวที่นั่งให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และตั้งแถวก่อนเข้า ปฏิบัติธรรมอย่างพร้อมเพรียงและตรงเวลา ซึ่งทำให้พุทธศาสนิกชนที่ไปร่วมงานรู้สึกทึ่งมาก

         หลังจากงานบวชสิ้นสุดลง ก็มีการเปิดโครงการใหม่ในทันที ซึ่งทีมงาน และคณะผู้บริหารจากวิทยาลัยพุทธศรีวิจายะต่างปลื้มใจ และตั้งใจว่าจะจัดอบรมอุบาสิกาแก้วทุก ๆ ๓ เดือน และจะบรรพชาสามเณรครั้งต่อไป ในจำนวนมากที่สุดเท่าที่สถานที่จะรองรับได้ คือประมาณ ๕๐๐ คน ซึ่งทุกคนพร้อมแล้วที่จะทุ่มเทแรงกายแรงใจ พลิกฟื้นพระพุทธศาสนาในอินโดนีเซียให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง ดังเช่นที่บรรพบุรุษของพวกเขาเคยสร้างไว้

จากใจผู้สร้างประวัติศาสตร์การบรรพชาครั้งยิ่งใหญ่ในอินโดนีเซีย

 

สามเณรสะปาร์ดี ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศรีวิจายะ

         “...จุดเริ่มต้นของโครงการบวชสามเณร คือทางเราได้ส่งนักเรียนหญิงจำนวน ๓๔ คน ไปอบรมที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมอินโดนีเซีย เราเห็นการเปลี่ยนแปลงมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความสะอาด ความเป็นระเบียบ ความสุภาพเรียบร้อย และความมีวินัย...”

 

สามเณรบูตี โยฮาเนส

         “...นี่ไม่ใช่การบวชครั้งแรกของผม การบวชครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้วครับ แต่เป็นครั้งแรกที่ผม และครอบครัวรู้สึกประทับใจมาก ๆ ตอนที่ผมกราบคุณแม่ ผมรู้สึกได้ว่าเป็นวันที่มีค่า และประทับใจที่สุดเลยครับ ดังนั้นผมต้องสู้เพื่อความสุขและจิตใจของคุณแม่ด้วยครับ คุณแม่ของผมมีค่าพอที่ผมควรจะทดแทนคุณท่านครับ ผมต้องทำให้ดีที่สุดตลอดโครงการนี้ เพื่อคุณแม่ของผมครับ...”

 

คุณฟัดมา วาติ เจ้าของบริษัทซีนา ฟาจา จิวเวลรี่

         “...ฉันเป็นคณะกรรมการจัดงานบรรพชาสามเณรครั้งนี้ ฉันรู้สึกมีความสุขมาก มันเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มที่ได้เห็นความกระตือรือร้นร่วมมือร่วมใจของพุทธศาสนิกชน วันนี้เราได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของพระพุทธศาสนา เพราะเราได้บวชสามเณร ๑๒๖ รูป ที่มาจากเกาะต่าง ๆ ในอินโดนีเซีย...”

 

คุณสุวันโต ทจุง เจ้าของบริษัท PT Eka Papertube

         “...ผมรู้สึกว่าการอบรมในครั้งนี้ ช่วยฟื้นฟูพระพุทธศาสนาได้อย่างมาก ทุกคนที่มีส่วนร่วมในการอบรมนี้ ต่างสัมผัสได้เหมือนกันว่า พระพุทธศาสนาของพวกเรานั้นหลับมานาน บัดนี้ถึงเวลาแล้ว ที่จะปลุกพุทธธรรมขึ้นมา ด้วยการบรรพชาสามเณรในครั้งนี้...”

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล