ฉบับที่ ๑๙๑ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๑

ทุกอย่างเผลอเป็นเสร็จ

ลูกหลวงพ่อ
เรื่อง : พระมหาภูรัช ทนฺตวํโส

ทุกอย่างเผลอเป็นเสร็จ

         ชีวิตของ ปุถุชน คนเรานี้

มีทั้งดีชั่วปน ระคนอยู่

มีวิวาท โรมรัน เข้าพันตู

มีทั้งล้ม ทั้งลุกสู้ทุกผู้คน

มีสมหวัง ผิดหวัง มีพลั้งพลาด

โอ้อนาถ หนอมนุษย์ทุกแห่งหน

ทั้งทุกข์ร้อน รุมกาย กระวายกระวน     

กระเสือกกระสน ไขว่คว้า หาสิ่งใด

ต่างโลดแล่น ไปตาม ความใฝ่ฝัน

หนทางนั้น สิ้นสุด ณ จุดไหน

ถึงที่หมาย แล้วได้อะไรไป  

ปลายทางไซร้ความว่างเปล่า เท่านั้นเอง

 

       ชี วิ ต มีการเกิดเป็นเบื้องต้นและมีความตายเป็นที่สุด แต่ระหว่างที่มีชีวิต ในวันที่ยังมีลมหายใจอยู่นั้น ต่างคนก็ใช้วันเวลาที่มีอยู่นี้ในรูปแบบต่าง ๆ เพียงเพื่อแสวงหาความสุขให้ชีวิต ตามอย่างที่ตนเองเข้าใจ บ้างเข้าใจว่าความสุขอยู่ที่การมีทรัพย์ก็จะแสวงหาทรัพย์บ้างเข้าใจว่าความสุขอยู่ที่การดูของสวย ๆ งาม ๆ ก็มักจะชอบมองสิ่งที่มีรูปร่างสวยงามบ้างเข้าใจว่าความสุขอยู่ที่การฟังเสียงอันไพเราะ ก็จะฟังการขับร้องฟ้อนรํา เป็นต้น แต่ท้ายที่สุดเมื่อวินาทีสุดท้ายของชีวิตมาถึง สิ่งที่แสวงหามาทั้งชีวิตกลับต้องกองทิ้งเอาไว้ในโลกนี้เหมือนเป็นเพียงการหลับแล้วตื่นขึ้นจากความฝันอันแสนหวาน

     ห้วงเวลาอันน้อยนิดในโลกมนุษย์นี้ แม้จะเป็นช่วงสั้น ๆ หากแต่มีความหมายสําหรับการใช้ชีวิตให้เกิดประโยชน์อย่างมีความสุข เพราะชีวิตหลังความตายนั้นไม่สูญ ตราบใดที่ยังไม่หมดกิเลส ก็จะยังต้องวนเวียนว่ายตายเกิดซ้ํา ๆ เรื่อยไปนับภพชาติไม่ถ้วน จนกว่าจะสั่งสมบุญบารมี มากพอที่จะทําใจหยุดนิ่งจนเข้าถึงพระธรรมกายภายใน ปลดเปลื้องวัฏฏะการเกิดวนเวียนนี้ เข้าสู่พระนิพพานอันเป็นบรมสุขอย่างถาวร

      การใช้ชีวิตให้มีคุณค่านี้ผู้ใดดํารงชีวิตอยู่อย่างประเสริฐหรือไม่นั้น ไม่ได้วัดกันที่จํานวนทรัพย์หรือความยาวนานของการมีชีวิต หากแต่วัดกันที่ว่าใครจะใช้วันเวลาที่ผ่านไปให้มีคุณค่าด้วยการสั่งสมบุญ สร้างบารมีทําใจหยุดนิ่งภายในได้มากกว่ากัน ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ในขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ว่า

โย จ วสฺสสตํ ชีเว       กุสีโต หีนวีริโย
  เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย         วิริยํ อารภโต ทฬฺหํ 
ผู้เกียจคร้าน มีความเพียรย่อหย่อน ดํารงชีวิตอยู่ตั้ง ๑๐๐ ปี,
ส่วนผู้มีความเพียร แม้เป็นอยู่เพียงวันเดียว เป็นชีวิตที่ประเสริฐกว่า


     ดังเช่นเรื่องราวของคุณวิลเลียม(บิล) ครอส อายุ๖๕ ปีจากเมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าของบริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจ ผู้ที่ทั้งชีวิตมีความสุขจากการแสวงหาทรัพย์และใช้จ่ายทรัพย์อย่างล้นเหลือแต่เมื่อมาพบความสุขสงบจากการทําสมาธิจึงเข้าใจคุณค่า ของชีวิตที่มีความสุขอย่างแท้จริงแล้วทุ่มเทวันเวลาในชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อทํานุบํารุงพระพุทธศาสนาและฝึกจิตเจริญสมาธิภาวนาอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน

        “ผมเริ่มทําธุรกิจตั้งแต่อายุ ๑๖ ปีจากการที่ต้องติดต่อค้าขายกับผู้คนในทวีปเอเชีย ผมจึงเริ่มศึกษาวิถีชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของพวกเขา ซึ่งผมประทับใจในหลาย ๆ อย่างดังเช่นการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขของชาวพุทธ

      “จนเมื่อมีเพื่อนคนไทยแนะนําให้ผมได้รู้จักวัดพระธรรมกายปาล์มบีช ผมประทับใจที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากสมาชิกทุก ๆ คนในวัด ผมเริ่มศึกษาเรียนรู้ภาษาไทย เรียนรู้คําสอนในพระพุทธศาสนาอย่างจริงจังควบคู่กับการทําความเข้าใจในข้อหลักธรรมต่าง ๆ ผมมาวัดเพื่อประเคนภัตตาหารแด่คณะสงฆ์บ่อยครั้ง รักษาศีล และลงมือปฏิบัติสมาธิภาวนาอย่างจริงจัง

      “การทําสมาธิสําหรับผมนั้นคือการหาความพอดีของการหยุดใจสมาธิช่วยให้ผ่อนคลายปล่อยวาง และสามารถเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจนซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อชีวิตของผมผมคิดว่าสมาธินี้ดีสําหรับผู้คนทั่วทั้งโลกอย่างแท้จริง และสมาธินี้เองคือเหตุผลสําคัญที่ทําให้ทุก ๆ วันในชีวิตของผมมีความสุขเหลือเกิน”

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล