ฉบับที่ 124 กุมภาพันธ์ ปี 2556

คำทักทายที่ไร้เสียง

เรื่อง : โค้ก อลงกรณ์

ช่วงที่สุขภาพของหลวงพ่อยังแข็งแรง

ภารกิจหนึ่งที่ได้เรียนรู้ในการช่วยท่านรับบุญนั่นก็คือ การรับแขก

 

คำทักทายที่ไร้เสียง
 

          การรับแขก ว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับการต้อนรับปฏิสันถาร ถ้าเป็นหนึ่งในวิชาบังคับ ที่เราทุกคนต้องลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรชีวิต วิชานี้คงเป็นวิชาที่ยากมากสำหรับผม เพราะแค่สอบเอาตัวให้รอด ยังไม่มีความมั่นใจเลยว่าจะทำได้

          โดยธรรมชาติพื้นฐานจิตใจของเด็กต่างจังหวัด แม้จะมีความซื่อและจริงใจแต่ก็ มีความขี้อายและเข้าสังคมไม่เป็นแถมติดมาด้วย วัน ๆ คลุกคลีกับธรรมชาติจนเคยชิน เมื่อต้องมาอยู่ในสังคมที่มีผู้คนหลากหลาย ย่อมต้องมีเด็กส่วนหนึ่งที่ปรับตัวและหัวใจไม่ทัน ผมเป็นคนหนึ่งที่เข้าข่ายอยู่ในกลุ่มที่ว่านี้

          เป็นความโชคดีที่บทเรียนวิชานี้ ผมมีโอกาสเห็นการปฏิสันถารของหลวงพ่อ ไม่ว่าจะเป็นการต้อนรับพระผู้ใหญ่ แขกบ้านแขกเมือง ไปจนถึงการพูดคุยทักทาย กับเด็ก ๆ ทำให้ผมเริ่มรู้สึกดีในวิชาที่ไม่อยากเข้าเรียน

          แขกที่มากราบหลวงพ่อมีทุกสาขาอาชีพและทุกระดับ ตั้งแต่ระดับทุกข์น้อย ทุกข์ปานกลาง ไปจนถึงทุกข์ที่สุด เหตุนี้จึงทำให้ผมเริ่ม สน และ ใส่ ใจวิชานี้มากขึ้น เพราะอย่างน้อยเมื่อถึงเวลาสอบ ผมน่าจะทำคะแนนเพิ่มขึ้นจากเดิม

การต้อนรับพระผู้ใหญ่ หลวงพ่อจะมายืนต้อนรับพร้อมกับคณะพระเถระในวัด ท่านจะพนมมือโน้มตัว กราบด้วยความเคารพ หลวงพ่อปรารภเสมอว่า ถ้าขาของท่านไม่บวม สามารถนั่งคุกเข่าได้ ท่านก็อยากคุกเข่าเข้าไปก้มกราบใกล้ ๆ ตามธรรมเนียมที่ท่านเคยปฏิบัติมาก่อน

          เมื่อพระผู้ใหญ่อวยพรหรือฝากของมาถวาย เมื่อหลวงพ่อได้รับถวายแล้ว นอกจากท่านจะฝากให้พระลูกชายไปกราบขอบพระคุณพระผู้ใหญ่แล้ว บ่อยครั้งหลวงพ่อ ยังได้เขียนบทกลอนกราบขอบพระคุณ เมื่อมีโอกาสที่เหมาะสม ท่านก็จะนำบทกลอนนี้ มาอ่านออกอากาศสดผ่านทางช่องดีเอ็มซี

          การพูดออกอากาศสด ๆ นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องประกอบไปด้วยจังหวะที่ลงตัว การนำเสนอต้องพอดี เหมาะสม ที่ยากขึ้นไปอีก คือพูดออกไปแล้วสวยงาม มีเสน่ห์ และชวนฟัง

ผมโชคดีที่มีโอกาสได้เห็นสิ่งที่ว่ายากนี้เป็นประจำ

การทักทายแขกผู้ใหญ่นั้น ถ้าเป็นคนเก่าแก่ที่ร่วมสร้างวัดกันมา หลวงพ่อจะทักทายด้วยการยกย่อง

          ครั้งล่าสุดที่มีแขกหลายคณะเข้ามากราบพร้อมกัน หลวงพ่อจะให้เกียรติทักทายแขกผู้ใหญ่ก่อน ท่านให้ความสำคัญเรื่องความเคารพซึ่งกันและกัน เป็นการเคารพในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องของนักสร้างบารมี จากนั้นหลวงพ่อจึงทักทายไล่ไปตามลำดับ

          หลวงพ่อจะทักทายแขกด้วยคำถาม บางครั้งคำถามก็อยู่ในหมวดธรรมะ ถามถึงประสบการณ์ปฏิบัติธรรม บางครั้งก็ถามเพื่อยกใจให้ปลื้มปีติในบุญที่ทำ คุณโยมเข้าวัด มากี่ปี คุณโยมจำได้ไหมว่าได้ทำบุญอะไรไปบ้าง?

          การทักทายด้วยการถามเช่นนี้ไม่ได้เป็นการสนทนาส่วนตัว แต่เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมอนุโมทนาด้วยกัน เพราะในขณะที่แขกผู้ใหญ่ตอบหลวงพ่อด้วยการทบทวนบุญที่ทำผ่านมา เราต่างคนต่างก็ทบทวนบุญของตัวเองไปด้วยพร้อมกัน

          การปฏิสันถารกับแขกแต่ละคณะเป็นศิลปะ ที่จะให้นักสร้างบารมีรุ่นใหม่ได้รับทราบข้อมูล และนำไปดำเนินเป็นแบบอย่างใช้กับชีวิตของตนได้

          จากนั้นหลวงพ่อก็ให้ทุกคนนึกถึงบุญ ที่ทำมาทั้งหมด แล้วท่านก็ให้พร

          แต่ถ้าเป็นการปฏิสันถารกับแขกชาวต่างชาติ การสนทนามักเป็นเรื่องการแนะนำการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อจะชวนให้ลองนั่งปฏิบัติธรรม พร้อมกับท่านในตอนนั้นเลย

          เมื่อโอกาสได้พบกันมาถึงแล้ว แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่ยาวนาน ท่านก็ปรารถนาให้เขาได้รู้จักวิธีเข้าถึงที่พึ่งภายใน ได้สัมผัสความสุขที่แท้จริง

          การพบกันแม้เพียงครั้งเดียว แต่พบแล้วเกิดประโยชน์ ก็ถือว่าคุ้มค่าสุดแล้ว ในการพบกัน

 

 

การปฏิสันถารที่มีสีสันและดึงดูดความสนใจมากที่สุดคือ การทักทายกับเด็ก ๆ

          ในพิธีงานบุญต่าง ๆ เมื่อหลวงพ่อมาถึงศูนย์กลางพิธี เด็ก ๆ ที่มารอต้อนรับ จะกล่าวพร้อมกัน กราบนมัสการเจ้าค่ะหลวงพ่อ

          หลวงพ่อจะทักตอบว่า เกิดมาทำไมจ๊ะ เจอหน้าท่านก็ปลูกฝังเป้าหมายชีวิต ฝึกให้รู้จักการสร้างบุญสร้างบารมี ตั้งแต่ยังเยาว์กันเลย

          เกิดมาทำไมจ๊ะ

          เด็ก ๆ จะตอบเสียงดังฟังชัดพร้อมกัน เกิดมาทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี

          ตอบยังไม่ค่อยได้ยิน เอาใหม่ เกิดมาทำไมจ๊ะ

          คราวนี้เสียงตอบของเด็ก ๆ ดังลั่นได้ยินไปทั่วทั้งสภาฯ

          เกิด - มา - ทำ - พระ - นิพ - พาน - ให้ - แจ้ง - แสวง - บุญ - สร้าง - บารมี

          อย่างนั้นเรามาสร้างบารมีกัน

          แล้วเด็ก ๆ ก็จะนำซองปัจจัยของตัวเองหรือที่พ่อแม่ฝากมาทำบุญเดินเข้าแถว มาถวายหลวงพ่อ ถ้าหากจำนวนเด็กมีมาก เพื่อสงวนเวลาท่านก็ให้รวบรวมไว้ด้วยกัน แล้วส่งตัวแทนมาถวาย

          จากนั้นหลวงพ่อจะบอกทุกคนให้พนมมือสวย ๆ เพื่อเตรียมตัวรับพร

          ให้มีบุญเยอะ ๆ กันทุกคนนะลูกนะ

          ส า า า า ธุ !

          เมื่อหลวงพ่อให้พรเสร็จ ท่านจะทิ้งท้ายถามขึ้นว่า โตขึ้นใครจะบวชบ้าง

          เด็ก ๆ จะแย่งกันยกมือพร้อมตอบว่า ผมจะบวชตลอดชีวิตครับ

          ในขณะที่หลวงพ่อปฏิสันถารกับเด็ก ๆ จะมีแรงดึงดูดให้สายตาทุกคู่หันมามองดู ด้วยความสนใจ หนึ่งในนี้ก็มีสายตาของหลวงพ่อทัตตะได้เฝ้าดูอยู่ด้วย

          ท่านมองว่า หลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ท่านเก่ง ที่รู้จักเอาไอ้เปี๊ยกพวกนี้ มาฝึกช่วยงานพระพุทธศาสนา ฝึกให้รู้จักรักการสร้างบุญตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ

          ส่วนตัวท่านเองท่านได้แต่มอง เพราะจะให้ท่านเข้าไปพูดคุยเล่นกับเด็ก ๆ เหมือนคุณครูไม่ใหญ่ ท่านไม่ถนัด ท่านบอกว่า แค่เดินเข้าไป ท่านก็ไม่รู้จะคุยอะไรกับ เจ้าเปี๊ยกพวกนี้แล้ว

          การจะปลูกเมล็ดพันธุ์เป้าหมายชีวิต และอุดมการณ์แห่งความรัก เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ให้งอกงามเติบโตขึ้นในใจนั้น ควรลงมือเพาะเมล็ดพันธุ์ตั้งแต่ยังเยาว์วัย

          หลวงพ่อท่านใช้การปฏิสันถาร เพาะเมล็ดพันธุ์เหล่านั้น

          บรรยากาศการปฏิสันถารกับคนคุ้นเคยนั้นไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ เพราะต่างก็มีภารกิจมากมายที่ต้องรับผิดชอบ แต่เมื่อมีโอกาสหลวงพ่อจะเดินทาง มาคุยกับหลวงพ่อทัตตะ และทุกครั้งที่มาจะเห็นหลวงพ่อทัตตะ ยืนรอต้อนรับอยู่หน้าอาศรมบัณฑิตเสมอ

          มองจากในรถจะเห็นท่านยืนรอรับด้วยอาการสงบ นอบน้อม เท้าชิด กายตรง มือและแขนของท่านปล่อยสบาย ๆ ข้างลำตัว ใบหน้าอมยิ้ม สายตาท่านจับมาที่รถตลอด จนแล่นไปถึงและจอดสนิท

          ทันทีที่ประตูรถเปิดออก ท่านพนมมือแสดงความเคารพหลวงพ่อธัมมะ ท่านทั้งสองมองหน้ากัน หลวงพ่อพูดคำแรกกับหลวงพ่อทัตตะด้วยน้ำเสียงเหนื่อย ๆ คล้าย ๆ ถอนหายใจว่า หมดแรง!

          จากนั้นท่านก็พูดต่อด้วยน้ำเสียง ที่เปลี่ยนเป็นสดใสขึ้นกว่าเดิมว่า หลวงพ่ออย่าเพิ่งเป็นอะไรนะครับ หลวงพ่อทัตตะยิ้มแล้วหัวเราะในลำคอ หึ! หึ!

          พออายุ ๖๘ ห่างจากปีที่แล้วแค่เพียงปีเดียว ทำไมมันต่างจากเดิมมากเลยครับ

          เสียง หึ! หึ! ดังขึ้นกว่าเดิมแล้วก็ตามด้วยเสียงหัวเราะของหลวงพ่อทัตตะ

          การปฏิสันถารด้วยความคุ้นเคยนี้ กาลเวลาไม่ได้เป็นอุปสรรค พบเจอกันเมื่อไรความเข้าอกเข้าใจ ที่สร้างบารมีเคียงบ่าเคียงไหล่มาด้วยกัน ก็เชื่อมต่อสนิทในทันที เช่นเดียวกับความคุ้นเคย กับพระเถระรุ่นบุกเบิกด้วยเช่นกัน

          แต่ละปีถ้าไม่มีเรื่องงานที่ต้องกราบหลวงพ่อ พระเถระก็จะเข้ามากราบ ในวาระ วันคล้ายวันเกิดของท่าน

          วันหนึ่งเมื่อพระเถระมานั่งรออยู่นอกชาน เห็นหลวงพ่อเปิดประตูกุฏิออกมา ผมขอกราบถวายปัจจัยบูชาธรรมหลวงพ่อ ในวันคล้ายวันเกิดของผมครับ

          ปีนี้ท่านอายุเท่าไรแล้ว

          พอได้รับคำตอบ หลวงพ่อก็ถามต่อ ท่านอยู่สร้างบารมีมากี่ปีแล้ว

          คำตอบที่ออกมามักจะมากกว่าสามสิบปี

          แล้วอยู่ที่บ้านกี่ปี คราวนี้คำตอบส่วนใหญ่จะน้อยกว่าที่มาอยู่สร้างบารมีร่วมกันกับหลวงพ่อ

          การอยู่สร้างบารมีร่วมกันมาได้อย่างนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ใช่เกิดขึ้นได้ง่าย แล้ว หลวงพ่อก็บอกว่า เราเป็นกันยิ่งกว่าญาติ

          หลังจากพูดคุยกันได้สักพัก หลวงพ่อก็ให้พร แต่พรที่หลวงพ่อมอบให้นี้ เป็นพร พิเศษที่มอบให้ผู้คุ้นเคยโดยเฉพาะ มีจุดประสงค์ให้นำไปปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

          ท่าน! หลวงพ่อเรียกชื่อพระเถระแล้ว ก็ยกมือพนมเตรียมให้พร

          ท่าน! ห้ามเจ็บ ห้ามป่วย ห้ามเป็นอะไร นโยบายคือ ให้ท่านแข็งแรงอย่างเดียว!

          สาธุ! พระเถระพนมมือรับพรพร้อมกับเสียงหัวเราะ

การปฏิสันถารโดยไม่เห็นหน้า ได้ยินเฉพาะเสียง แบบนี้ก็มีด้วย มันคืออะไร?

          คือ การปฏิสันถารทางโทรศัพท์ครับ!

          เมื่อต่อสายได้แล้ว ปลายสายเห็นเบอร์ที่แสดงหน้าจอก็จะรีบรับและกล่าวว่า กราบนมัสการครับหลวงพ่อ

          ผมก็จะรีบกล่าว กราบนมัสการครับหลวงพี่ เดี๋ยวหลวงพี่คุยสายกับหลวงพ่อ นะครับ สักครู่ครับ แล้วผมก็ยื่นสายให้หลวงพ่อ
เมื่อท่านรับโทรศัพท์แล้วท่านก็คุยงานเลย เพื่อไม่ให้ต้องเสียเวลา จึงไม่ต้องมีเกริ่นอารัมภบทใด ๆ หลวงพ่อท่านเข้าใจและทราบดีว่า หลวงพี่ท่านมีภาระรับผิดชอบ อาจต้องวางมือจากงานที่ทำอยู่เพื่อมารับโทรศัพท์

          ถ้าหากเป็นการฟังรายงานจากผู้ประสานงาน เมื่อต่อสายเรียบร้อยแล้ว ก็ส่งให้ หลวงพ่อ ท่านจะทักปลายสายด้วยคำ ๆ หนึ่งที่ท่านใช้ประจำ

          เอ้า! ลุยเลย

          พอคำพูดคำนี้ดังขึ้น ก็เป็นสัญญาณบอกให้ปลายสายรู้ว่า เริ่มต้นรายงานได้

 

 

การปฏิสันถารที่ผมให้ความสนใจเพราะเห็นว่ามีบรรยากาศที่สบาย ๆ นั่นก็คือ
การปฏิสันถารกับสิ่งมีชีวิตรอบ ๆ ตัว

          วันหนึ่งช่วงที่เดินตรวจวัด ไก่หนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังจู๋จี๋กันอย่างเพลิดเพลิน ด้วยการเอาตัวคลุกดิน เมื่อหลวงพ่อเดินผ่านมาเห็นเข้า ท่านก็หยอกล้อและแซวออกมา โลกก็ออกจะกว้าง ทำไมจะต้องไปเบียดกันขนาดนั้น

          ในวันนั้นผมก็เพิ่งเห็นว่า ไก่ก็เขินเป็นเหมือนกัน

          เวลาเดินตรวจวัด เจอนกกะราง นกยูง หรือกระรอกวนเวียนเข้ามาใกล้ ๆ หลวงพ่อจะหยุดทักทายเสมอ แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งระหว่างเดินกลับเข้ากุฏิตอนกลางคืน เจออาคันตุกะพิเศษโดยบังเอิญ วันนั้นก็หยุดทักทายเช่นกัน แต่เป็นการทักทายแบบ ไม่ใช้เสียง

          อาคันตุกะที่ว่านี้เขามาขดตัวนอนอยู่ข้างกระถางต้นไม้ริมทางเดิน ลำตัวขนาดใหญ่พอสมควร พอแสงไฟฉายที่ผมส่องทางไปกระทบเข้า มองเห็นผิวดำเป็นเงามันเลื่อมชัดเจน ต่างฝ่ายต่างตกใจกันพองาม เพราะไม่นึกว่าจะมาพบกันในยามนี้

          รีบบอกหลวงพ่อให้ท่านทราบ ท่านหยุดเดิน แล้วก็มองดูนิ่ง ๆ เป็นการทักทายกันแบบไม่ใช้เสียง แล้วอาคันตุกะรายนี้ก็ค่อย ๆ เลื้อยหายไป

การปฏิสันถารกับอาคันตุกะที่มีเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษเมื่อราว ๆ เกือบสี่ร้อยล้านปีที่ผ่านมา คือความน่าสนใจล่าสุดของผม

          ทุกครั้งที่เห็นอาคันตุกะรายนี้มาต้อนรับหลวงพ่อ เขาจะหอบเอาบ้านทั้งหลังของเขามาด้วย โดยเขาจะมารอต้อนรับที่บริเวณสวนน้ำล้น

          ทุกวันเมื่อหลวงพ่อจะเดินเข้าห้องปฏิบัติธรรม ท่านจะต้องหยุดแวะมองหรือทักทายอาคันตุกะนี้ก่อนทุกครั้ง ทำไมท่านถึงเป็นเช่นนั้น

          ความสงสัยนี้ทำให้ผมเริ่มคิดทบทวน หลวงพ่อเพิ่งเดินออกมาจากห้องปั้น ในห้องปั้นท่านเพิ่งปั้นพระ เพิ่งประชุม และเพิ่งคุยงานเสร็จ ออกจากห้องปั้นท่านก็จะเดินเข้าไปยังห้องปฏิบัติธรรม แต่ระหว่างทางท่านจะมาหยุดที่สวนน้ำล้น มองดูอาคันตุกะ ก่อนทุกครั้ง ที่เป็นเช่นนี้ผมว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการ ปรับอารมณ์

          การปรับอารมณ์ ผมยกให้เป็นวิชาศิลปะอีกวิชาหนึ่งในหลักสูตรชีวิต เราจำเป็นต้องปรับอารมณ์ ปรับความคิดที่ยังติดค้างกับงานหยาบให้เป็นอารมณ์กลาง ๆ เสียก่อน เพื่อจะได้เริ่มต้นเข้าไปสู่อารมณ์ละเอียด ในการปฏิบัติธรรมได้อย่างราบรื่น

          การปรับอารมณ์เช่นเดียวกับการรับประทานอาหาร ยิ่งเมื่ออายุมากขึ้นการรับรสจากรสเผ็ดไปหวาน จากร้อนไปเย็น จากของมันของทอดไปยังรสชาติอื่น ๆ สารพัดนั้นลิ้นอาจปรับความรู้สึกไม่ทัน

          ขณะที่ทานรสเผ็ดอยู่ จะตักอาหารอย่างอื่นทานเลยก็ได้ แต่หากตักน้ำต้มจืดมาซดเพื่อปรับการรับรสของลิ้นให้เป็นกลาง คลายรสเผ็ดลงเสียก่อน ย่อมทำให้การรับรสชาติอร่อยของอาหารคำต่อไปเป็นไปอย่างสมบูรณ์

          ผมยืนอยู่ที่สวนน้ำล้น เห็น หอยทาก ที่หลวงพ่อหยุดมอง

          การปฏิสันถารของท่านลึกซึ้งอย่างที่คาดไม่ถึง

          ระยะหลัง ๆ มานี้ การรับแขกของหลวงพ่อน้อยลงกว่าเดิม ใช้เวลาสั้น และกระชับกว่าเดิมอีกด้วย การรับแขกในปัจจุบันอยู่ในลักษณะรับเป็นหมู่ใหญ่โดยรวมพร้อม ๆ กันด้วยผ้ารับประเคนยาวที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น

          ผมมั่นใจว่า หลวงพ่อก็ปรารถนาจะต้อนรับปฏิสันถารให้ดีที่สุด อยากทักทาย ผู้มีบุญทุกคนที่มาจากทุกสารทิศ ที่รอนแรมเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลจากที่ไกล ๆ เพื่อมาร่วมงานด้วยความตั้งใจ แต่ด้วยเวลาในพิธีมีจำกัด และปัญหาสุขภาพของท่าน หลวงพ่อจึงจำเป็นต้องต้อนรับ และทักทายทุกคนด้วยถ้อยคำที่ไพเราะที่สุดในโลก

คำทักทายที่ไร้เสียง!

แม้ภารกิจการช่วยหลวงพ่อรับแขกจะน้อยลง
แต่การเรียนรู้วิชาปฏิสันถารนั้นยังคงดำเนินต่อไป

          หลังจากที่ได้สังเกตการปฏิสันถารของหลวงพ่อ เพื่อจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาลงทะเบียนสอบซ่อม ผมจึงเริ่มทำแบบฝึกหัดวิชานี้มากขึ้น

          ในแต่ละวันเมื่อตื่นนอนและก่อนจะเข้านอน ผมจะฝึกซ้อมการต้อนรับด้วยการยืนที่หน้ากระจก แล้วก็เริ่มต้นทักทายกับตัวเองด้วยการ ยิ้ม

          ยิ้ม เป็นคำทักทายที่ง่าย สุภาพ มีความจริงใจ และเป็นมิตรที่สุด

          การเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการยิ้มทักทายกับตัวเอง เป็นการปลุกปลอบตัวเราให้หายจากความโศกเศร้า และเป็นการสะกิดกำลังใจไม่ให้ง่วง

          ยิ้ม! คำทักทายที่ไร้เสียง

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล