ฉบับที่ ๑๔๐ เดือนมิถุนายน ๒๕๕๗

ลมหายใจมีคุณค่า ด้วย “สัมมา อะระหัง”

อานุภาพ “สัมมา อะระหัง”
เรื่อง : พระบริบูรณ์ ธมฺมวิชฺโช

 

 

ลมหายใจมีคุณค่า

ด้วย “สัมมา อะระหัง”

 

 

 


   ตลอดทุกลมหายใจเข้าออกของชีวิต ถ้ากล่าวกันตามหลักธรรมแล้ว เรามีความเสื่อมแห่งสังขารอยู่ทุกลมหายใจ และที่สำคัญชีวิตมนุษย์ที่ดำรงอยู่ได้ทุกเวลานาทีก็ล้วนแต่ต้องอาศัยบุญประคับประคองให้สามารถหายใจอยู่ได้ทั้งสิ้น ดังนั้นสิ่งที่เราพึงต้องหมั่นคิด หมั่นตรึก หมั่นนึกเพื่อเป็นไปในความพิจารณาก็คือ ทำอย่างไรลมหายใจของเราจึงจะมีคุณค่า ไม่เสียบุญเสียบารมีไปฟรี ๆ อีกทั้งยังส่งผลเพิ่มพูนเป็นบุญเป็นบารมีได้อีกด้วย


   คอลัมน์ “สัมมา อะระหัง” ฉบับนี้ มีตัวอย่างของผู้มีบุญที่ดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาทคือ หมั่นสร้างบุญบารมีและเติมบุญให้แก่ชีวิตด้วยการภาวนา “สัมมา อะระหัง” มาฝาก และเมื่อใจอยู่ในบุญ ใช้ลมหายใจเป็นบุญ บุญก็สร้างความอัศจรรย์ให้บังเกิดกับชีวิตของพวกเขา....

 

 

 


เจ้าหญิงบ๊วย ร่ำรวยและหายป่วยด้วย “สัมมา อะระหัง”

คุณสุมิตรา นาคดี อาชีพค้าขาย

 

   เริ่มต้นจากไปปฏิบัติธรรมที่เวิลด์พีซในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม ระหว่างทางเขาเปิดซีดีของสัตวแพทย์ท่านหนึ่ง ซึ่งพูดเรื่อง “สัมมาอะระหัง” ตอนนั้นนึกว่า เราเป็นแม่ค้า ทำงานตั้งแต่ตีสี่จนถึงห้าทุ่มจึงจะได้เข้านอน จะเอาเวลาที่ไหนไปทำเหมือนเขา คือเราอยากได้ทั้งทำทานรักษาศีล และเจริญภาวนาพร้อม ๆ กันเหมือนกับคนอื่น แต่ด้วยความที่เราทำงานเต็มเวลา เราจะทำอย่างไรถึงจะได้เจริญสมาธิด้วย เพราะว่าพอเริ่มหลับตาปุ๊บ เราก็คอตกทันที เพราะมันเหนื่อยอ่อนเต็มที วันไหนไม่เหนื่อยมาก พอนั่งสมาธิปุ๊บก็กังวลว่า เหลือเวลาอีกแค่ ๔ ชั่วโมง ก็ต้องตื่นแล้วเราจะนั่งสมาธิได้นานเหมือนคนอื่นไหม กลายเป็นความกังวลมากกว่าจะได้นั่งสมาธิแบบใจใส ๆ เลยลองใช้วิธีภาวนา “สัมมา อะระหัง” ดู


   ดิฉันเคยถามพระอาจารย์ว่า ถ้าจะภาวนา “สัมมา อะระหัง” ทั้งวันใช้ได้ไหม ท่านตอบว่า “ใช้ได้” ก็เลยมีกำลังใจในการ “สัมมา อะระหัง” จริง ๆแล้วเริ่มต้นไม่ได้ “สัมมา อะระหัง” ถึง ๕๐๐ ครั้ง เหมือนคนอื่นเขา ได้แค่๑๐-๒๐ ครั้ง แล้วหายวูบไป บางรอบไปไกลเลยกว่าจะกลับมา “สัมมาอะระหัง” ใหม่ แต่ก็พยายาม “สัมมา อะระหัง” ทั้งวันไปเลย อาจจะได้ทีละ ๒๐-๕๐ ครั้ง แต่ก็จดจ่ออยู่กับ “สัมมา อะระหัง” ทั้งวัน บางวันขับรถไปเอาของไกล ๆ ไม่ต้องคุยกับใครก็จะได้ถึง ๒๐๐ ครั้ง เพราะเวลาขายของเดี๋ยวก็เจอลูกค้า ต้องพูดทั้งวันเลยค่ะ แต่เมื่อเรา “สัมมา อะระหัง”แล้ว มีหลายคนทักว่าหน้าเรายิ้ม และเวลาเราจะตอบคำถามลูกค้า ซึ่งบางคนจุกจิกจู้จี้สารพัดอย่าง เราก็มีปัญญาที่จะตอบได้ดีมากขึ้น


   ตอนที่เริ่ม “สัมมา อะระหัง” นั้น ไม่ได้คิดว่าจะเกิดประโยชน์มากมายหรือจะมีทรัพย์มหาศาลเกิดขึ้นกับเรานะคะ คิดแค่ว่าอยากได้บุญจากการนั่งสมาธิ เพราะเราไม่มีเวลา แต่พอใจเราจดจ่ออยู่กับ “สัมมา อะระหัง”เรื่องวุ่นวายใจอื่น ๆ จะไม่เข้ามาเลยค่ะ ค่อย ๆ หายไปทีละเรื่องสองเรื่องจนกลายเป็นเราอยู่แบบเงียบ ๆ มีความสุข ไม่ว่าขายดีหรือขายไม่ดีอย่างไรว่างเมื่อไรจะต้อง “สัมมา อะระหัง” นับหนึ่ง ๑, ๒, ๓, ๔,......ไปเรื่อย ๆอาจจะนับได้น้อย แต่ก็พยายามทำทั้งวัน ให้ติดอยู่กับ “สัมมา อะระหัง”ทั้งวันค่ะ


   ประมาณกลางเดือนมีนาคม ลูกค้าที่เดินผ่านหน้าร้านย้อนกลับมาถามว่า “เธอไปทำอะไรมา หน้าเธอใสขึ้น” คนนี้เป็นลูกค้าที่ซื้อของเราประจำ เราก็งงว่าเราไม่ได้ทำอะไร ครีมก็ไม่ได้ใช้ขายของตากแดดเป็นปกติเหมือนเดิม และไม่ว่าจะไปขายที่ไหน ลูกค้ามักชมว่า หน้าเราใส หน้าเรายิ้ม อย่างที่เสือป่า ลูกค้าจู้จี้มาก ถามโน่นถามนี่ ชิมโน่นชิมนี่ เราต้องใจเย็นอยู่ตลอดเวลาแต่ลูกค้าพูดว่า “ชิมได้ ซื้อได้เยอะ ๆ นะคะ เพราะแม่ค้าร้านนี้เขายิ้ม” ในความรู้สึกของเราตอนนั้นสงสัยว่าเรายิ้มจริงหรือ เราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ จนมาเห็นใน DMC ว่าเวลาขายของเรายิ้มจริง ๆ


   ทุกวันนี้ เราขายบ๊วยขีดละ ๒๐ บาท ขณะตักต้องใช้สมอง คือต้องทอนเงินด้วย บางทีลูกค้าซื้อ ๒๐ บาท จ่ายแบงก์พัน แล้วมารุมซื้อพร้อม ๆ กัน อย่างเวลาเช้าก่อนที่เขาจะเข้าทำงาน ช่วงเวลาก่อน ๙ โมง หรือ ๑๑ โมงครึ่งถึงบ่ายโมง ลูกค้าจะมาซื้อพร้อม ๆ กัน เราต้องตักให้ทัน ไม่ให้เขาเดินหนี ต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่องทุก ๆ คนค่ะ ตอนนั้นคิดเลยว่า “สัมมา อะระหัง” ช่วยได้ทำให้เรามีสติมากขึ้น และมีปัญญาที่จะตอบคำถามให้โดนใจเขา ไม่ให้เขาไปไหนเลย ลูกค้าบางคนบอกว่า ”ฉันสบตาเธอไม่ได้เลย สบตาเธอทีไรต้องแวะซื้อของเธอทุกที ไม่รู้มีอะไร”


   ดิฉันคิดว่า ไม่ต้องรอให้เกิดอุปสรรคก่อนแล้วค่อย “สัมมา อะระหัง” นะคะ ให้ลองฝึก“สัมมา อะระหัง” ไปเรื่อย ๆ ให้ติดอยู่กับ “สัมมา อะระหัง” ติดอยู่กับสิ่งดี ๆ ติดอยู่กับบุญ เหมือนอย่างถ้าเราเล่นเกมบ่อย ๆ เรายังติดเลยใช่ไหมคะ “สัมมา อะระหัง” บ่อย ๆ ก็ติดได้เหมือนกันค่ะ ดิฉันท่องแล้วเกิดความโล่งใจ สบายใจ มีความสุข เรื่องร้าย ๆ ไม่เข้ามาเลย ขายของก็ดีขึ้นอุปสรรคต่าง ๆ นานาไม่ค่อยมี


   อานุภาพของการภาวนา “สัมมา อะระหัง” ที่ประสบกับตัวเองอีกอย่างก็คือ ก่อนเดือนเมษายน ดิฉันเป็นโรคลำไส้ติดเชื้อ ท้องเสียอยู่ ๔ เดือนเต็ม ๆ ในหนึ่งอาทิตย์ท้องเสีย ๔ วันวันหนึ่งถ่ายไม่ต่ำกว่า ๑๕ ครั้ง อีก ๓ วัน ท้องไม่เสีย ๓ วันที่เหลือดิฉันจะกินอาหารตุนไว้มาก ๆเพราะช่วงที่ท้องเสียกินอะไรไม่ได้ คลื่นไส้อาเจียนอย่ตู ลอดเวลา แต่ไม่ได้หยุดขายของนะคะ เพราะเป็นแม่ค้าถ้าไม่ขายของก็ไม่มีรายได้ และล็อกที่เราขายของ ถ้าเราไม่ไปขาย เขาจะหาคนมาแทนช่วงนั้นค่อนข้างลำบาก


   ตอนนั้นเพื่อนที่นั่งรถมาทำบุญด้วยกันที่วัดอธิษฐานขอหลวงปู่ ขอให้เราหาย แล้วเราก็ “สัมมาอะระหัง” มาเรื่อย ๆ ตอนนั้นไปหาหมอ หมอบอกว่าอาการรุนแรงมากแล้ว ไม่รู้จะทำอย่างไร ให้ยาฆ่าเชื้อแล้วก็ไม่หาย เวลาถ่ายท้อง ถ้าเริ่มเที่ยงคืนจะถ่ายถึงเช้าเลย อ่อนแรงเต็มที กลางคืนก็ไม่ได้นอน แล้วท้องเสียด้วย ดิฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ได้แต่ภาวนา “สัมมา อะระหัง” ไปเรื่อย ๆ


   น่าอัศจรรย์ที่ดิฉันรอดจากจุดนั้นมาได้ อยู่ ๆ อาการท้องเสียก็หายไปเลยค่ะ ไม่ต้องใช้ยาตอนนั้นท้องเสียอยู่ ๔ เดือน น้ำหนักเหลือแค่ ๔๕ กิโลกรัม ปัจจุบัน หนัก ๕๒ กิโลกรัม ไม่น่าเชื่อว่า อานุภาพของ “สัมมา อะระหัง” และการอธิษฐานจิตกับหลวงปู่จะทำให้ดิฉันผ่านวิกฤตเหล่านั้นมาได้ คำพูดของหลวงพ่อที่ว่า “ขอให้รอดตาย หายป่วย รวยอัศจรรย์” มันเกิดขึ้นกับดิฉันจริง ๆ ค่ะ

 

 

 


กล้วยเครืองาม ความสุขเพิ่ม

คุณเจนณ์ พินยะเพียน เจ้าของบ้านสวนผู้ใหญ่ทุเรียน

 

   ตั้งแต่เริ่มภาวนา “สัมมา อะระหัง” ก็มีแต่สิ่งที่ดี ๆ เข้ามาในครอบครัวครับ ตอนที่ได้ดูเคสคนปลูกแก้วมังกร ก็นึกว่าทำไมเคสนี้ตรงกับตัวเรามากท่อง “สัมมา อะระหัง” แล้วผลผลิตเขาดีขึ้น อยากทำอย่างเขาเหมือนกันเราทำมานานแล้ว ๔ - ๕ ปี แต่ไม่ได้ท่องต่อเนื่อง เพราะเราไม่รู้ว่า “สัมมาอะระหัง” สามารถท่องได้ทั้งวัน เคยใช้สำหรับเวลานั่งสมาธิและเวลาเข้าไปดูสวนกล้วยเท่านั้น พอเริ่มปลูกกล้วยตั้งแต่ลงหน่อแรก เราก็ท่อง “สัมมาอะระหัง” นึกถึงคุณยาย นึกถึงหลวงปู่ นึกถึงเรื่องตัวอย่างที่บอกว่า มีคนปลูกฝรั่งมาหาหลวงปู่ ท่านบอกให้ไปท่อง “สัมมา อะระหัง” พอรดน้ำต้นฝรั่งแล้ว สามารถเก็บฝรั่งขายซื้อที่ได้เลย เราก็เอามาใช้ในสวนกล้วยของเราบ้าง ปลูกไปเราก็ท่อง “สัมมา อะระหัง” ไป แล้วก็อัศจรรย์ใจว่า “เอ๊ะ!ทำไมกล้วยถึงโตวันโตคืน ขยายไปขยายมา มีเยอะขึ้น แย่งกันออกเครือ”

 

   พอกล้วยออกเยอะอย่างนี้ เราก็นึกว่าจะต้องทำทานก่อน เราเริ่มทำกับคนใกล้บ้านก่อน แจกกล้วยเป็นทาน มันก็แย่งกันออกอีก ยิ่งแจกทานกล้วยก็ยิ่งแย่งกันออก เป็นเวลา ๔ - ๕ ปี เข้าสวนมาก็ท่อง “สัมมา อะระหัง”ขนาดผมไม่ได้ทำติดต่อกันนะครับ เพราะว่าผมไม่รู้สูตรที่ว่าเราสามารถท่องได้ทั้งวัน เพิ่งมารู้ตอนเข้าโครงการของพระอาจารย์ปรเมษฐ์นี่แหละครับ


   ผมดีใจมากครับที่รู้ว่าเราสามารถทำได้ ๒๔ ชั่วโมง ทุกวันนี้ถึงผมยังไม่เห็นองค์พระ ไม่เห็นดวงแก้วเหมือนใคร แต่ผมก็มีความสุขครับ เพราะว่าผมมีสติ จะทำอะไรผมก็ “สัมมา อะระหัง” จนผู้ใหญ่เขาบอกว่า “ช่วงหลัง ๆทำไมอารมณ์ดีจัง” คือใจเราไม่คิดถึงเรื่องอื่นครับ บางทีพอเราจะเครียดเรื่องอะไร ผมก็นั่ง “สัมมา อะระหัง” ทำให้จิตใจเบิกบาน ไม่หงุดหงิด ต่างจากสมัยก่อนมาก สมัยก่อนคนย่านนี้เขาพูดกันว่า ผมเกเร หมายังวิ่งหนี ก็อยากจะเชิญชวนครับว่า อานุภาพของ “สัมมา อะระหัง” นี้ ถ้าใครทำได้เชื่อเถอะครับ ดีแน่

 

    การให้รางวัลกับชีวิตตนเองตลอดทุกลมหายใจเข้าออกที่ดีที่สุด คือการเปิดโอกาสให้ชีวิตได้ภาวนา “สัมมา อะระหัง” เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้อานุภาพแห่งพระรัตนตรัยเข้าไปชำระใจจากวิบัติบาปศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย และดึงดูดบุญเก่าที่เราเคยกระทำมา มาเป็นเครื่องคุ้มครองป้องกันและดลบันดาลความสุข ความสำเร็จ ความสมปรารถนาเป็นอัศจรรย์ เพราะอานุภาพแห่งพระรัตนตรัยนั้นเป็นอัปปมาโณ คือ ไม่มีประมาณนั่นเอง..

 

 

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล