ฉบับที่ ๑๔๒ เดือนสิงหาคม ๒๕๕๗

“สัมมา อะระหัง” นี่สิเป็นทางมรรคผล เพราะไปนิพพานได้

อานุภาพ “สัมมา อะระหัง”
เรื่อง : พระบริบูรณ์ ธมฺมวิชฺโช

 

 

“สัมมา อะระหัง” 

นี่สิเป็นทางมรรคผล เพราะไปนิพพานได้

 

      คุณครูไม่ใหญ่เคยเล่าว่า ในสมัยที่พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ยังมีชีวิตอยู่ สมัยนั้นหลวงพ่อวัดลำพญาท่านเป็นเด็กวัด อายุ ๑๒ ขวบ มีหน้าที่ช่วยหลวงปู่รับแขก วันหนึ่งมีพระธุดงค์ ๓ รูป ห่มจีวรสีกรักออกมาจากป่า มาขอเรียนวิชาไสยเวทจากหลวงปู่ และขอร้องให้หลวงปู่แสดงวิชาให้ดู หลวงปู่ท่านเลยปั้นตุ๊กตาดินเหนียว ๒ ตัว วางไว้      ห่าง ๆ กัน ซึ่งปกติแล้วเวลาปั้นเสร็จ จอมขมังเวททั่วไปจะต้องท่องคาถาหรือเสกก่อน ตุ๊กตาถึงจะขยับได้ แต่สำหรับหลวงปู่ ท่านแค่มองเฉย ๆ ไม่ต้องเสก ไม่ต้องเป่า แต่จู่ ๆ ตุ๊กตาดินเหนียวก็พุ่งเข้าชนกัน จากนั้นหลวงปู่ก็สาธิตวิธีการทำนะหน้าทอง หลักการของวิชานี้ก็คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้แผ่นทองคำเปลวเข้าไปอยู่ในร่างกายมนุษย์ ซึ่งส่วนมากเขาจะเสกให้ไปอยู่ที่กระหม่อมและตามส่วนต่าง ๆ ของใบหน้า พอเสกเข้าไปแล้ว แผ่นทองนี้จะอยู่ในร่างกายไปจนตาย ในการเสกนั้น พวกที่มีอาคมแก่ในระดับเทพ แค่เอาแผ่นทองคำเปลวที่ยังไม่ได้ลอกกระดาษหุ้มวางไว้ที่มือตามจำนวนที่ต้องการ แล้วเสกคาถา เป่าทีเดียวทองก็จะเข้าไปในร่างกายคนทันที แต่ถ้าเป็นพวกที่อาคมแก่กล้าสุด ๆ จะสามารถเป่าให้ทองเข้าไปติดกะโหลกมาตั้งแต่เกิด และจะติดไปจนตายเวลาเอาศพไปเผา กะโหลกจะไม่ไหม้ และจะเป็นสีทอง 


    แต่การทำนะหน้าทองของหลวงปู่นั้น ท่านเริ่มจากการไม่มีทองคำเปลวเลยสักแผ่น ท่านให้หลวงพ่อวัดลำพญาวิ่งไปเอาผ้าอาบน้ำฝนที่ตากไว้ที่ราวมาให้ แล้วเอาผ้าอาบน้ำฝนลูบขึ้นไปบนหน้าของท่าน พอเอาผ้าออก หน้าท่านกลายเป็นทองสุกปลั่งทั้งใบหน้า และพอท่านเอาผ้าลูบลง หน้าทองนั้นก็หายไป พอพระธุดงค์ทั้ง ๓ รูป เห็นหลวงปู่ทำนะหน้าทองได้โดยไม่ต้องใช้แผ่นทองคำเปลวเหมือนปรมาจารย์ท่านอื่น  ก็เลยรีบก้มกราบหลวงปู่กันยกใหญ่ และขอเรียนวิชา แต่หลวงปู่ท่านไม่สอน ท่านบอกว่า “อย่าเลย เรียนแล้วมันไปเพิ่มกิเลส ไม่ใช่วิชชาของพระพุทธเจ้า          เรียนแล้วก็ไปนิพพานไม่ได้ แต่ ‘สัมมา อะระหัง’ นี่สิเป็นทางมรรคผล เพราะไปนิพพานได้”


    เรื่องราวดังกล่าวเป็นสิ่งยืนยันคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงปู่ว่า การภาวนา “สัมมา อะระหัง” นั้น “ศักดิ์สิทธิ์และมีความสำคัญ” จริง ๆ และแม้ในปัจจุบัน การภาวนา “สัมมา อะระหัง” ก็ยังคงสร้างความอัศจรรย์ให้บังเกิดขึ้นแก่ผู้ประพฤติปฏิบัติตลอดมา ดังเรื่องราวของ    ผู้มีบุญต่อไปนี้...

 

 

พระธวัชชัย ญาณสนฺโต 

ศูนย์อบรมเยาวชนวัดส่องแดด จังหวัดอุตรดิตถ์


    เริ่มแรกหลวงพี่นั่งสมาธิไม่ค่อยได้ เคยลองภาวนา “สัมมา อะระหัง” แต่ภาวนาได้ไม่ถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็หลับบ้าง ง่วงบ้าง ต่อมาได้ดู DMC พอดีพระอาจารย์ปรเมษฐ์ท่านเล่าถึงญาติโยมที่ภาวนา “สัมมา อะระหัง” แล้วมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี ก็เลยนึกว่า โยมทำได้ ทำไมเราจะทำไม่ได้    แค่ “สัมมา อะระหัง” วันละ ๕๐๐ ครั้ง เท่านั้น


    หลังจากนั้นจึงลองดู เริ่มแรกภาวนาไป ๒๐๐ ครั้ง รู้สึกว่าตัวโล่ง โปร่ง เบาสบาย แต่ก็ยังเผลอหลับไป วันต่อมาเริ่มภาวนาใหม่ “สัมมา อะระหัง ๆ ๆ” ถึง ๔๐๐ ครั้ง รู้สึกว่าตัวลอย ตอนนั้นตกใจมาก ก็เลยลืมตาขึ้นมา พระอาจารย์ท่านให้นั่งและภาวนา “สัมมา อะระหัง” ใหม่อีกครั้ง พอภาวนา “สัมมา อะระหัง” ไปถึง ๕๐๐ ครั้งแล้ว รู้สึกว่าตัวเราหายไป แล้วก็โล่ง โปร่ง เบาสบาย เหมือนไร้น้ำหนัก จิตก็นิ่งอยู่ที่ศูนย์กลางกาย


    พอลองกับตัวเองได้ผล ก็เลยบอกคนข้าง ๆ และโทร.ไปบอกโยมแม่ว่า “พระอาจารย์ท่านเปิด VCD เรื่องการภาวนา “สัมมา อะระหัง” ให้ดู ภาวนาแล้วเพลี้ยไม่ลงนาข้าว” พอดีที่บ้านทำนาอยู่ประมาณ ๑๐ กว่าไร่ โยมแม่ก็เลยลองภาวนา “สัมมา อะระหัง” บ้าง แรก ๆ ก็ไม่ค่อยเชื่อว่าภาวนาแล้วจะช่วยได้จริง แต่ก็ภาวนาไปเรื่อย ๆ ดูแล้วข้าวก็ไม่น่าจะได้ผลดี ทุกปีได้ประมาณ ๓-๔ เกวียน แต่พอได้ภาวนา “สัมมา อะระหัง” ไม่รู้ผลผลิตเพิ่มมาเป็น ๖ เกวียน ได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ปีนี้ไม่ค่อยมีน้ำด้วย อัศจรรย์มาก โยมพ่อโยมแม่ปลื้มมาก 


    พอได้ผลดี หลวงพี่ก็ลองไปบอกแม่ค้าที่ขายข้าวแกงที่จังหวัดนครสวรรค์ ที่รู้จักกันตอนเป็นโยม เขาบอกว่า ขายข้าวแกงไม่ดีเลย หลวงพี่ บอกให้เขาท่อง “สัมมา อะระหัง” วันละ ๕๐๐ ครั้ง และบอกว่าหลายคนเขาลองมาแล้วได้ผล ตอนนั้นหลวงพี่มีโปสเตอร์รูปหลวงปู่นั่งบนเทวรถ ที่มีคำว่า “สัมมา อะระหัง” อยู่ ก็เลยให้เขาติดที่หน้าร้าน โยมเขาก็ภาวนาไปเรื่อย ๆ แค่ครึ่งชั่วโมง ยังไม่ทันคุยกันรู้เรื่องเลย ลูกค้าเข้ามาเต็มร้าน นี่คือ อานุภาพ “สัมมา อะระหัง” ที่หลวงพี่เจอมา ก็เลยอยากให้ทุกคนได้ลองภาวนากัน


พระอาจารย์ท่านให้นั่งและภาวนา 
‘สัมมา อะระหัง’ ใหม่อีกครั้ง 
พอภาวนา ‘สัมมา อะระหัง’ ไปถึง ๕๐๐ ครั้งแล้ว 
รู้สึกว่าตัวเราหายไป แล้วก็โล่ง โปร่ง เบาสบาย 
เหมือนไร้น้ำหนัก จิตก็นิ่งอยู่ที่ศูนย์กลางกาย

 

 


คุณกรเดช จันทรัตน์ 

จังหวัดกำแพงเพชร 


    ตอนแรกผมไม่รู้ว่าอานุภาพของ “สัมมา อะระหัง” ดีอย่างไร แต่พอได้ปฏิบัติไปนิดหน่อยก็เริ่มทึ่งว่า ทำไมมีอานุภาพเยอะจัง และเมื่อได้ยิน พระอาจารย์ท่านมาเล่าให้ฟังก็มีศรัทธาแรงขึ้น จึงนำไปเล่าให้ลูกสาวฟัง ลูกสาวก็ได้พบประสบการณ์ดี ๆ เขาบอกว่า เวลานั่งสมาธิ ภาวนา “สัมมา อะระหัง” ไปเพียง ๒๕๐ ครั้ง รู้สึกว่าตัวลอย แต่ของผมภาวนาได้วันละ    เช้า ๕๐๐ ครั้ง เย็นอีก ๕๐๐ ครั้ง 


    ตั้งแต่ผมภาวนา “สัมมา อะระหัง” มานี้ อานุภาพก็เกิดขึ้นเรื่อย ๆ ผมก็เลยมั่นใจมาก และเอาไปแนะนำคนทั่วไป ตอนที่ผมไปคุยงานที่พัทยา ผมไปเจอร้านก๋วยเตี๋ยวร้านหนึ่งที่กำลังจะเจ๊ง ผมเลยบอกให้คนขายลองภาวนา“สัมมา อะระหัง” หลังจากนั้นพอผมย้อนกลับไปอีกที เขาบอกว่า  “ผมขายของดีน่าดูเลย ตอนนี้ผมไม่ต้องย้ายแล้ว” 


    อีกรายอยู่ที่อำเภอขาณุ (ขาณุวรลักษบุรี) เป็นพ่อค้าขายกาแฟที่ตลาดนัดตอนแรกขายไม่ค่อยได้ ผมเลยบอกว่าให้ภาวนา “สัมมา อะระหัง” อย่างเดียวเลย แล้วจะมีเงินเยอะ กำไรก็ดี รสชาติอร่อย ตอนนี้เขามาบอกผมว่าขายดีแล้ว และมีเงินเก็บด้วย เราก็เลยบอกให้ภาวนาไปเรื่อย ๆ กิจการจะดีทำอะไรก็จะสำเร็จอย่างอัศจรรย์

 

    เมื่อปรากฏอย่างชัดเจนแล้วว่า การภาวนา “สัมมา อะระหัง” เพื่อยังจิตใจของเราให้สะอาดบริสุทธิ์ ผ่องใส ดียิ่งถึงเพียงนี้ เราจึงไม่ควรรอรี ในการภาวนา “สัมมา อะระหัง” แม้แต่สักวินาทีเลย ดังนั้นนับแต่บัดนี้ เป็นต้นไป เรามาเริ่มภาวนา “สัมมา อะระหัง ๆ ๆ”..และวางใจนิ่ง ๆ       เบา ๆ สบายๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ กันดีกว่า..

 

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล