ฉบับที่ ๑๕๑ เดือนพฤษภาคม ๒๕๕๘

สลักไว้ในความทรงจำ วันคุ้มครองโลก...ด้วยบุญ

ทบทวนบุญวันคุ้มครองโลก
เรื่อง : แป้นแก้ว

 

สลักไว้ในความทรงจำ
วันคุ้มครองโลก...ด้วยบุญ

 


    ๒๒ เมษายน หรือวันคุ้มครองโลก (Earth Day) ของทุกปี     เป็นวันแห่งการสั่งสมมหาทานบารมีครั้งยิ่งใหญ่ ที่มีพระสังฆาธิการจากทั่วประเทศ และพุทธบุตรใน ๔ จังหวัดภาคใต้ ร่วมใจกัน     เดินทางไปเป็นเนื้อนาบุญ ณ วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี ในพิธีถวายมหาสังฆทานพุทธบุตร ๓๐,๐๐๐ กว่าวัดทั่วประเทศ และพุทธบุตร ๓๒๓ วัด ๔ จังหวัดภาคใต้ (ปีที่ ๑๑ ครั้งที่ ๑๑๑) นอกจากนั้น วันนี้ยังเป็นวันมอบกองทุนหนุนแรงใจช่วยครูใต้ จาก ๔ จังหวัดภาคใต้ และที่พิเศษก็คือ มีพิธีตอกเสาเข็ม     ต้นสุดท้ายสร้างอาคารบุญรักษา เพื่อใช้เป็นที่ดูแลรักษาและฟื้นฟูสุขภาพของพระภิกษุ-สามเณรอาพาธ ทุกเหตุการณ์เกิดจากหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความกตัญญูกตเวทิตาของศิษยานุศิษย์ผู้ปรารถนาที่จะน้อมนำบุญมหาศาลถวายเป็นของขวัญอันล้ำค่าแด่พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย)        เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เนื่องในวาระอายุวัฒนมงคล ๗๑ ปี 


    วันที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงเป็นอีกหนึ่งวันประวัติศาสตร์ในชีวิตนักสร้างบารมีที่สลักไว้ในความทรงจำและนำมาซึ่งมหาปีติ      สุดประมาณ

 

 

วันบุญใหญ่ ธรรมะสว่างไสว

มอบขวัญกำลังใจช่วยครูใต้

 

    ในวันคุ้มครองโลก ผู้มีบุญทั้งในประเทศและ    ต่างประเทศ ทั้งพระภิกษุสงฆ์และนักบวชชาวต่างชาติ   เดินทางไปร่วมงานบุญที่วัดพระธรรมกายเป็นจำนวนมาก ทำให้ทั่วทั้งสภาธรรมกายสากลและมหารัตนวิหารคด     รอบมหาธรรมกายเจดีย์เนืองแน่นด้วยมหาชนที่เดินทาง  ไปปฏิบัติธรรมในวันบุญใหญ่ วันที่ธรรมะสว่างไสวคุ้มครองทุกดวงใจให้ประสบสุขและพร้อมจะขยายคุ้มครองโลก    ให้พบกับความสงบร่มเย็น

 


    ในภาคเช้า หลังจากปฏิบัติธรรมกลั่นจิตกลั่นใจแล้ว มีพิธีมอบกองทุนหนุนแรงใจช่วยครูใต้ โดยมีพระภาวนา-ธรรมวิเทศ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เป็นผู้แทนพระเทพญาณมหามุนี มอบกองทุนหนุนแรงใจช่วยครูใต้แก่ตัวแทนคณาจารย์จากจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ทั้งนี้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและช่วยเหลือสนับสนุนครูอาจารย์ผู้เอาชีวิตเป็นเดิมพันในการอบรม     สั่งสอนศิษย์ให้เป็นคนดีและทุ่มเททำหน้าที่แม้ในยามประสบทุกข์ภัย

 


    ต่อจากนั้น สาธุชนร่วมกันถวายปัจจัยบูชาธรรม  ร่วมบุญมหาสังฆทาน ๓๐,๐๐๐ กว่าวัดทั่วประเทศ ตามด้วยพิธีกล่าวคำถวายอาคารบุญรักษาและพิธีกล่าวคำถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน

 

 

มหาสังฆทาน มหาปีติ 
หนึ่งปีที่รอคอย

 

    พิธีถวายมหาสังฆทานในวาระมหามงคลปีนี้ ได้รับความเมตตาจากเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก    เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร และพระเดชพระคุณ           พระวิสุทธิวงศาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ รองเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นประธานในพิธี 


    พิธีเริ่มจากพระเดชพระคุณพระเทพญาณมหามุนีนำสาธุชนปฏิบัติธรรมเนื่องในวันคุ้มครองโลก ต่อจากนั้น พระเดชพระคุณพระพรหมเมธี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค ๔,๕,๖,๗ (ธ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม วรวิหาร นำพระเถรานุเถระ พระสังฆาธิการ ๓๐,๐๐๐ กว่าวัดทั่วไทย เจริญพระพุทธมนต์ ต่อจากนั้น พระเดชพระคุณพระวิสุทธิวงศาจารย์กล่าวสัมโมทนียกถา

 

อภิลักขิตสมัย วันคุ้มครองโลก


สัมโมทนียกถาพระวิสุทธิวงศาจารย์ 
กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ
รองเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ 


    วันนี้เป็นวันคุ้มครองโลก กำหนดตรงกับอภิลักขิตสมัยวันคล้ายวันเกิดของพระเทพญาณมหามุนี ทุกปีเมื่อถึงวันที่ ๒๒ เมษายน เราก็มาประกอบพิธีเสริมบุญ สร้างบารมี มาร่วมบุญร่วมกุศลกัน 


    ในการร่วมบุญร่วมกุศลกันนั้น นอกจากสมาทานศีลแล้ว ยังบำเพ็ญทาน และเจริญจิตภาวนา ในการสมาทานศีลนั้น ศีล ๕ เป็นสมบัติของมนุษย์ เพราะว่ามนุษย์ทำบุญด้วยการรักษาศีล ๕ ได้ แต่ในภพภูมิต่าง ๆ ไม่ว่าอบายภูมิหรือเทวโลกก็ตาม สร้างไม่ได้ ได้แต่ไปเสวยผลกรรมและผลบุญของตนที่ทำไว้ในโลกมนุษย์ เพราะฉะนั้น ศีล ๕ จึงเป็นศีลของมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม และสร้างได้เฉพาะในโลกมนุษย์นี้เท่านั้น      ทุกคนจะได้เกิดเป็นมนุษย์ก็เพราะสมาทานศีล ๕ จะมั่งมีศรีสุขก็เพราะอานิสงส์ของ ศีล ๕ อย่างน้อยก็มีชีวิตยืนยาวนาน ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ อันนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนปรารถนา 


    ศีลข้อที่ ๑ นั้น ทำให้เราปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ มีอายุยืนยาวนาน ข้อที่ ๒ ทำให้มั่งมีศรีสุข มากด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ ข้อที่ ๓ ทำให้มีคู่ครองอยู่กันยืดยาว ไม่หย่าร้างกัน ข้อที่ ๔ นั้น เราจะเจอแต่คำไพเราะเสนาะโสต ไม่หยาบคาย และข้อที่ ๕ จะปราศจากความมึนเมาทั้งหลายที่ทำให้ขาดสติสัมปชัญญะ 


    เมื่อเกิดมาแล้ว ถ้ามีศีลก็จะได้เสวยบุญต่อไป นอกจากนั้นก็คือ ทาน ในการให้ทานแต่ละครั้งนั้น ท่านก็ตั้งจิตอธิษฐานให้ได้มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ และนิพพานสมบัติ ทานเป็นปฐมแห่งบารมีที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อทรงได้รับการพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าทีปังกร ว่าในภพต่อ ๆ ไปจะได้ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าสมณโคดม จากวันนั้นเมื่อได้รับการพยากรณ์แล้ว ก็เริ่มบำเพ็ญทานบารมีเป็นเบื้องต้น 


    ท่านทั้งหลายคงเคยทราบประวัติพระมงคลเทพมุนี หลวงพ่อวัดปากน้ำ ตอนที่ได้บรรพชาจากวัดสองพี่น้องแล้วมาอยู่ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ในวันแรกบิณฑบาตได้ข้าวทัพพีเดียวกับกล้วยหนึ่งลูก ต่อจากนั้นก็กลับมาที่กุฏิ เห็นสุนัข        แม่ลูกอ่อนนอนท้องกิ่ว ก็เลยพิจารณาว่า มันก็ชีวิต เราก็ชีวิต แต่มันอยู่ในภูมิของสัตว์เดรัจฉาน เราอยู่ในภูมิของมนุษย์ เมื่อมันก็หิว เราก็หิว เลยแบ่งข้าวกับกล้วยกันคนละครึ่ง นี่เรียกว่า เป็นการสร้างทานบารมี 


    ในวันนี้ พระเทพญาณมหามุนีได้นิมนต์พระใน ๔ จังหวัดภาคใต้มาด้วย และได้ถวายปัจจัย วัตถุสิ่งของที่จะเป็นปัจจัยเครื่องอาศัยของบรรพชิตที่อยู่อย่างยากลำบาก แต่ปฏิบัติกิจเพื่อพระศาสนา จึงได้ทนสู้ยาก สู้ลำบาก แม้กระทั่งเสี่ยงชีวิต พระเหล่านั้นได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นพุทธบุตร พระเทพญาณมหามุนีท่านอยู่ภายหลัง ก็ส่งกำลังให้   พระเหล่านั้นไม่ต้องอยู่อย่างฝืดเคืองจนเกินไป เรียกว่าด้วยปัจจัยสี่ มีจีวร บิณฑบาตที่อยู่อาศัย หยูกยารักษาไข้ เป็นการส่งเสริมเพิ่มกำลังให้ อยู่เบื้องหลังก็ไม่นิ่งดูดาย ทำให้ตลอด 


    ในวันนี้ ถือเป็นอภิลักขิตสมัยวันคล้ายวันเกิดของท่าน ซึ่งเป็นวันคุ้มครองโลก เหล่าศรัทธาสาธุชน กัลยาณมิตรทั้งหลายได้ร่วมบุญ ร่วมกุศล เสริมบุญบารมีแก่ตนด้วยการมาประกอบกิจบำเพ็ญบุญ ด้วยการสมาทานศีล บำเพ็ญทาน และเจริญสมาธิ ด้วยการที่ปรารภวันนี้เป็นต้นเหตุ จะทำให้ท่านได้บุญกิริยาทั้ง ๓ ประการ ทาน ศีล และภาวนา เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลายทั้งฝ่ายบรรพชิตและคฤหัสถ์ที่มาพร้อมกันอยู่ ณ สถานที่ที่เป็นบุญเขต เขตแห่งการเกิดบุญเกิดกุศลนี้ จะว่าไปแล้วเป็นจำนวนแสน ท่านทั้งหลายจงตั้งจิตอธิษฐาน ประมวลเอากุศลกรรม ความดี  มีการรักษาศีล การบำเพ็ญทาน การเจริญภาวนา ตั้งจิตตั้งใจอธิษฐานขอให้ท่านเจ้าคุณพระเทพญาณมหามุนีปราศจากการเจ็บไข้ได้ป่วย ปราศจากการอยู่ร้อนนอนทุกข์ ให้มีชีวิตยืนยาวนาน เพื่ออยู่ร่วมสร้างบุญกับเราต่อไป 

 


    ก่อนที่สาธุชนจะร่วมกันถวายมหาสังฆทาน กัลยาณมิตรบุญชัย เบญจรงคกุล ทำพิธีนำกล่าวอัญเชิญเทวดาและกล่าวคำถวายจตุปัจจัยไทยธรรม 


    เมื่อถวายมหาสังฆทานเรียบร้อยแล้ว พระเดชพระคุณพระเทพญาณมหามุนีกล่าวขอบพระคุณคณะสงฆ์

 

 

กล่าวคำปวารณา 
ขอโอกาสอาราธนาพระเถรานุเถระ

 

    พิธีถวายมหาสังฆทานครั้งนี้ พระสังฆาธิการจากวัดต่าง ๆ ทั่วไทย รวมทั้งพุทธบุตรจาก ๓๒๓ วัด ใน ๔ จังหวัดภาคใต้ ผู้เอาชีวิตเป็นเดิมพันในการปกปักรักษาพระพุทธศาสนา ต่างพากันวางภารกิจ ศาสนกิจ ไปเป็น
เนื้อนาบุญแก่พุทธศาสนิกชน ดังนั้นวันที่ ๒๒ เมษายน ของทุกปี จึงเป็นวันที่มีความสำคัญมากและบังเกิดขึ้นได้ยากอย่างยิ่ง 


    ด้วยความปลาบปลื้มในมหาทานบารมีครั้งนี้ พุทธศาสนิกชนจึงพร้อมใจกล่าวคำปวารณาขอโอกาสอาราธนาพระเถรานุเถระไปเป็นเนื้อนาบุญในพิธีถวาย  มหาสังฆทานที่วัดพระธรรมกายในปีต่อไป โดยมีกัลยาณมิตรอนันต์ อัศวโภคิน เป็นผู้แทนนำกล่าวคำอาราธนา


    พิธีถวายมหาสังฆทานแด่พุทธบุตร ๓๐,๐๐๐ กว่าวัดทั่วประเทศ นอกจากสร้างมหาปีติให้บังเกิดขึ้นแล้ว   ยังแสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่า หากพุทธบริษัท ๔  เป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว พระพุทธศาสนาย่อมคุ้มครองโลกให้กลับมาสงบสุขและ  นำไปสู่สันติสุขที่แท้จริงได้

 


กราบขอบพระคุณพระมหาเถรานุเถระ


พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย

 

    กราบแทบเท้าท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม พระเดชพระคุณพระวิสุทธิวงศาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ รองเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และพระมหาเถระที่เคารพทุก ๆ รูป


    กระผมกราบขอโอกาส ขออนุญาตกราบขอบพระคุณพระเถรานุเถระ เจ้าคณะ       พระสังฆาธิการ และเพื่อนสหธรรมิกทุกรูป ที่เมตตาให้เกียรติเดินทางมาเป็นเนื้อนาบุญให้กระผมและลูก ๆ ผู้นำบุญยอดกัลยาณมิตร ได้สร้างบุญถวายมหาสังฆทาน ๓๐,๐๐๐ กว่าวัดทั่วประเทศ และในวันนี้พระเดชพระคุณยังเมตตาให้ศีล ให้พร และเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันคุ้มครองโลก         


    กระผมดีใจและสุขใจเป็นอย่างมาก ที่ได้เห็นความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของ       พุทธบริษัททั้งสี่ ที่ตั้งใจทุ่มเทสร้างบารมีเพื่อที่จะยังพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง และรู้สึกปลาบปลื้มใจในความเสียสละอย่างไม่ย่อท้อและไม่หวั่นไหวของพุทธบุตรผู้อุทิศตน ที่มีหัวใจเป็นดวงเดียวกันเหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว ในการที่จะพิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนา         ให้มั่นคงเจริญวัฒนาถาวรสืบต่อไป โดยไม่เกรงกลัวต่อภัยคุกคามใด ๆ ทั้งสิ้น     


    กระผมและหมู่คณะขอแสดงเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์ใจว่า เรารักพระพุทธศาสนา และมีมโนปณิธานอันแน่วแน่ที่จะฟื้นฟูกอบกู้พระพุทธศาสนาอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ดังนั้นเราจะร่วมกันปกป้อง จรรโลงรักษาพระพุทธศาสนาให้คงอยู่คู่โลกตลอดไป ตราบจนกว่าชีวิตจะหาไม่ 


    ภาพแห่งมหาปีติในวันนี้ เป็นภาพที่งดงามน่าเลื่อมใส เป็นทัสนานุตริยะ คือ การได้เห็นอันประเสริฐ เป็นภาพที่แสดงออกถึงพลังสามัคคีของพุทธบริษัททั้งสี่ ผู้ที่รักและหวงแหนพระพุทธศาสนายิ่งชีวิต 


    กระผมรู้สึกซาบซึ้งและขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง  ที่พระเดชพระคุณทุกรูปได้เมตตาให้ความอนุเคราะห์ และสนับสนุนงานพระพุทธศาสนา     ด้วยดีตลอดมา  


    ท้ายที่สุดนี้ หากมีส่วนหนึ่งประการใดบกพร่องผิดพลาดไปบ้าง กระผมกราบขออภัยไว้ในที่นี้ด้วย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความเมตตา อีกทั้งคำแนะนำจากพระเดชพระคุณ เพื่อการปรับปรุงแก้ไขในครั้งต่อไป  


    ขอกราบแทบเท้าขอบพระคุณพระเดชพระคุณทุกรูปมา ณ โอกาสนี้ กราบขอบพระคุณครับ 

 


ตอกเสาเข็มต้นสุดท้าย 
สร้างอาคารบุญรักษา

 

    วันนี้มหาปีติเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ช่วงเย็นมีพิธี  ตอกเสาเข็มต้นสุดท้ายเพื่อสร้างอาคารบุญรักษา โดยมี  พระราชภาวนาจารย์ (หลวงพ่อทัตตชีโว) รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เป็นประธานในพิธี 


    หลังจากปฏิบัติธรรมกลั่นจิตกลั่นใจให้ใสบริสุทธิ์ เหมาะสมเป็นภาชนะรองรับบุญใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว ผู้แทนพระเทพญาณมหามุนี คือ กัลยาณมิตรเพียงใจ   หาญพาณิชย์ และกัลยาณมิตรอนันต์ อัศวโภคิน ขึ้นรับพานแผ่นทองและรัตนชาติจากท่านประธานสงฆ์ เพื่อประกอบพิธีปิดแผ่นทองเสาเข็มต้นสุดท้ายสร้างอาคาร   บุญรักษาและโปรยรัตนชาติ


    จากนั้น พระราชภาวนาจารย์กดปุ่มประกอบพิธีตอกเสาเข็มต้นสุดท้ายสร้างอาคารบุญรักษา ผู้แทน     พระเทพญาณมหามุนีปิดแผ่นทองเสาเข็ม ประกอบพิธี   โยกปั้นจั่นตอกเสาเข็มสร้างอาคารบุญรักษา และร่วมโปรยรัตนชาติบริเวณศูนย์กลางพิธี 


    ทุกอนุวินาทีในพิธีอันศักดิ์สิทธิ์นี้ สาธุชนผู้มีบุญจำนวนมากได้หลอมรวมดวงใจเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อ    ร่วมประกอบพิธีด้วยความปีติยินดีที่ได้มีส่วนแห่งบุญ     ในการสถาปนาอาคารบุญรักษา เพื่อใช้ในการดูแลรักษาฟื้นฟูสุขภาพของพระภิกษุ-สามเณรอาพาธ


    ปิดท้ายความปลื้มด้วยการที่คณะสงฆ์มอบเหรียญที่ระลึกวันคุ้มครองโลกประจำปี ๒๕๕๘ แก่สาธุชนผู้มีบุญ เพื่อนำกลับไปตรึกระลึกนึกถึงบุญให้สลักในความทรงจำ พร้อมนับถอยหลังจากวันนี้ไปอีกหนึ่งปี ที่จะได้กลับมา     สร้างมหาปีติเฉกเช่นครั้งนี้ให้บังเกิดขึ้นอีกครั้ง

 


พิธีตอกเสาเข็มต้นสุดท้าย
อาคารบุญรักษา


พระธรรมเทศนาพระราชภาวนาจารย์ (หลวงพ่อทัตตชีโว)
รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย

 

    ในการสร้างบุญสร้างบารมีต่อไปในภายภาคหน้า สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งก็คือ     ต้องมีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง เราจึงตั้งใจมาสร้างบุญใหญ่เพื่อเป็นหลักประกันว่า ตราบใดที่ยังต้องเวียนว่ายในวัฏสงสาร นับแต่นี้ต่อไปเราจะต้องมีบุญใหญ่ที่จะป้องกันไม่ให้เรามีโรคภัยไข้เจ็บ ป้องกันให้เราไม่อายุสั้น ให้อายุยืนยาวอยู่คู่กับพระพุทธศาสนา เพราะฉะนั้นจึงตั้งใจมาร่วมกันสร้างอาคารบุญรักษา ซึ่งเป็นที่มาของบุญที่จะทำให้เราไม่รู้ป่วย ไม่รู้ไข้ ทำให้เราอายุยืนยาวยิ่ง ๆ ขึ้นไป ทั้งภพนี้และภพหน้า 


    วันนี้เป็นวันดี เราได้สร้างบุญใหญ่มาตั้งแต่เช้า สร้างบุญกับพระที่เป็นผู้บริหารการคณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน ที่อยู่ในวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศถึง ๓๐,๐๐๐ กว่าวัดด้วยกัน ท่านมาเป็นเนื้อนาบุญให้เรา เพราะฉะนั้นวันนี้จึงเป็นวันดีอย่างยิ่งของเรา เป็นวันสว่าง       ที่เราได้มาพร้อมใจกันประกอบพิธีตอกเสาเข็มมงคลต้นสุดท้ายสถาปนาอาคารบุญรักษา ให้บุญติดตามคุ้มครองปกป้องรักษาเรา เพราะอาคารหลังนี้จะเป็นอาคารซึ่งก่อให้เกิดบุญใหญ่จากการดูแลรักษาพระภิกษุ-สามเณรนักสร้างบารมีที่อาพาธในภายภาคหน้า 


    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่า “ผู้ใดปรารถนาจะอุปัฏฐากดูแลเราตถาคตให้เป็นสุข ผู้นั้นพึงอุปัฏฐากดูแลภิกษุไข้” การที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสอย่างนี้ก็เพราะทรงเห็นความสำคัญในเรื่องสุขภาพพลานามัยของพระภิกษุ เนื่องจากพระภิกษุจะต้องเป็นเนื้อนาบุญของชาวโลก เป็นอายุของพระพุทธศาสนา ถ้าพระภิกษุผู้สืบทอดคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีความแข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน จะสามารถทำหน้าที่ของท่าน คือเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนที่พระองค์ทรงค้นคว้ามาชนิดเอาชีวิตเป็นเดิมพันไว้ได้ ท่านจะเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนได้เต็มที่เต็มกำลัง และจะสามารถขยายพระธรรมวินัยให้กว้างไกล ครอบคลุมไปตลอดโลก ตลอดจักรวาล ตลอดภพสามกันทีเดียว แล้วก็ยังจะเป็นบุญใหญ่ของผู้ที่บำรุงอุปัฏฐากท่านด้วย พระภิกษุก็ทำหน้าที่ได้เต็มที่ ผู้อุปัฏฐากดูแลทำบุญกับท่านก็ได้บุญใหญ่ พระศาสนาก็จะรุ่งเรืองอยู่คู่โลกต่อไปอีกนานแสนนาน พระองค์จึงตรัสอย่างนี้ว่า 


    “ผู้ใดปรารถนาจะอุปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้นพึงอุปัฏฐากดูแลภิกษุไข้เถิด” 


    ยิ่งกว่านั้น พระองค์ยังตรัสพุทธพจน์เอาไว้อีกบทหนึ่ง ให้พวกเรามีความระมัดระวังดูแลสุขภาพตัวเอง จะต้องสร้างบุญใหญ่ซึ่งจะส่งผลให้สุขภาพของเราดี    ทั้งชาตินี้ ชาติหน้า และชาติไหน ๆ โดยตรัสว่า 


    “อาโรคฺยปรมา ลาภา ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ” 


    คือ ใครที่ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน ผู้นั้นถือว่าเป็นผู้ที่มีโชคมีลาภมากมายมหาศาลจริง ๆ เพราะถ้าเราไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่ไข้ จะนั่งสมาธิ จะสร้างความดี สร้างบุญบารมีแค่ไหน ใครขวางไม่ได้ทีเดียว ไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่ไข้ จึงนับว่ามีมหาโชค มหาลาภยิ่งกว่าการได้มหาสมบัติใด ๆ ทั้งสิ้น ยิ่งถ้าหากเราช่วยกันสนับสนุนบำรุง
พระภิกษุ-สามเณรให้แข็งแรง ไม่ยอมให้ท่านเจ็บป่วย ท่านก็จะสามารถสร้างบารมีได้เต็มที่เต็มกำลังอย่างสะดวกง่ายดาย ส่วนตัวของพวกเราก็จะได้รับอานิสงส์ให้เรา    แข็งแรง สุขภาพกายและสุขภาพใจก็ดีเลิศ แถมได้ความเป็นผู้มีอายุยืนยาวทั้งชาตินี้ ชาติหน้า และชาติไหน ๆ อีกด้วย เหมือนพระพากุละในสมัยพุทธกาล ซึ่งตลอดชีวิตของท่านไม่เคยอาพาธเลย แล้วท่านก็อายุยืนถึง ๑๖๐ ปี ไม่มีพระอรหันต์องค์ไหนสู้ท่านได้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงระลึกชาติไปดู แล้วทรงประกาศให้ชาวโลกรับทราบเอาไว้ เพื่อจะได้เป็นแนวทางให้อายุยืน ไม่ป่วย ไม่ไข้ เช่นเดียวกับพระพากุละ 


    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงระลึกชาติไปก็พบว่า ที่พระพากุละมีอายุยืนแข็งแรงอย่างนั้น เป็นผลบุญที่เคยถวายยารักษาโรคแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอโนมทัสสี ยิ่งกว่านั้นท่านยังถวายคิลานเภสัชหรือยาทุกชนิดแด่พระภิกษุสงฆ์ซึ่งเป็นสาวกของ        พระวิปัสสีพุทธเจ้า สาวกของพระกัสสปพุทธเจ้า รวมทั้งสาวกของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นบรมครูของพวกเราด้วย พระพากุละท่านทำบุญด้วยหยูกยา ทำบุญถูกเนื้อนาบุญต่อพระพุทธเจ้าหลายพระองค์ และต่อพระสาวกของพระพุทธเจ้า    ต่อเนื่องกันมาอย่างนี้ ด้วยเหตุนี้ท่านจึงอายุยืนเป็นพิเศษ แข็งแรงเป็นพิเศษ พระสัมมา-สัมพุทธเจ้าของเราจึงทรงสถาปนาพระพากุละไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะ ว่าเป็นภิกษุ   ผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งปวงในความเป็นผู้มีอาพาธน้อย 


    ตลอดระยะเวลา ๑๖๐ ปี ของท่านในชาตินี้ พระพากุละไม่เคยฉันยาชนิดใด ๆ เลย และมีความแข็งแรงในทุก ๆ วัย คือตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ท่านก็เจริญตามวัย ตามอายุ ไม่ป่วย ไม่ไข้ แม้มารดาของท่านก็พลอยแข็งแรงตามท่านไปด้วย บุญของท่านคุ้มครองมารดาของท่านไปในตัว แล้วตั้งแต่ท่านคลอดออกมา ตั้งแต่วัยทารก      วัยเด็กอ่อน จนกระทั่งโตเป็นวัยรุ่นขึ้นมา ก็ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บใด ๆ มารบกวน จนกระทั่งได้มาบวชก็ไม่รู้ป่วย ไม่รู้ไข้ จนกระทั่งเข้านิพพานเมื่อท่านอายุได้ ๑๖๐ ปี 


    วันนี้ เราตั้งใจมาร่วมกันสถาปนาอาคารบุญรักษา เพื่อจะได้เอาบุญใหญ่จากการสถาปนาอาคารบุญรักษานี้ติดตัวเราไปในภายภาคหน้า บุญนี้จะทำให้เราทั้งหลายมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง โรคภัยไข้เจ็บไม่บังอาจเข้ามาเบียดเบียนได้ ให้โรคภัย      ทั้งหลายถ้ามีอยู่ขณะนี้้ละลายหายไปให้เตียนด้วยบุญใหญ่นี้ และให้เรามีอายุขัยยืนยาวเช่นเดียวกับพระพากุละ เริ่มต้นตั้งแต่ชาตินี้เป็นต้นไป และไม่ว่าจะต้องเวียนว่าย     สร้างบารมีปราบมารไปอีกกี่ภพกี่ชาติเบื้องหน้า ก็ให้อายุยืนยาวสมยุคสมสมัย เมื่อร่างกายของเราแข็งแรงอย่างนี้ ปลอดโรคปลอดภัยไร้กังวลอย่างนี้ ถึงคราวเจริญภาวนาปฏิบัติธรรม ใจของเราก็จะได้หยุด ได้นิ่ง เข้าถึงพระธรรมกายภายในได้ง่าย เราจะได้มีความสุขกาย สุขใจ สร้างบารมีของเราด้วยความเบิกบานสดชื่นตลอดไป หลวงปู่    ครูไม่ใหญ่ คุณยายอาจารย์ฯ ท่านแตกฉานวิชชาธรรมกายไปถึงไหน เราก็จะได้แตกฉานตามท่านไปได้โดยง่ายทุกภพทุกชาติ 


    การที่พวกเราตั้งใจสร้างศาสนวัตถุ คืออาคารบุญรักษาที่จะอำนวยประโยชน์สุขแด่ภิกษุสงฆ์ ก็ยิ่งมีอานิสงส์เพิ่มพูนทำให้เราเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยสมบัติทั้งสามอีกด้วย ทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และคุณสมบัติ และจะได้รับการอุปถัมภ์ค้ำจุนทุกเมื่อ     เพราะได้ทำนุบำรุงพระภิกษุสงฆ์ด้วยความยินดีปรีดากันอย่างนี้ ตราบใดยังเวียนว่ายสร้างบารมีอยู่ เราจะเป็นที่รักของมนุษย์และเทวดา เทวดาก็รักที่จะติดตามคุ้มครองรักษาเรา เมื่อหมดอายุขัยในชาตินี้หรือในชาติไหน ๆ ก็จะมีสุคติโลกสวรรค์เป็นที่ไป ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษจะกลายเป็นที่พักถาวรของเราไปทุกภพทุกชาติที่ยังต้องสร้างบารมีอยู่ เพราะฉะนั้นให้ทุกท่านปลื้มปีติในบุญนี้  

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล