ฉบับที่ ๑๕๙ เดือนมกราคม ๒๕๕๙

Case Study : นักสร้างบารมีต้องไม่มีข้อแม้

ฝันในฝัน
เรื่อง : หัวหน้าชั้น วินิช พันธุ์วิริยรัตน์ [email protected] คอลัมน์นี้เฉพาะนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาเท่านั้น

 

 

Case Study กรณีศึกษา 
ฟื้นฟูศีลธรรมโลก หน้าที่เดิม ๆ ตอนที่ ๒ (๑๒-๑๕ มกราคม ๒๕๕๖)

กราบนมัสการคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพอย่างสูง
      ครอบครัวของลูกทำงานในแวดวงการศึกษา อาม่า (แม่ของพ่อ) เป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียน โดยมีน้องของอาม่าเป็นผู้บริหารกิจการโรงเรียนสมัยนั้นดีมาก มีนักเรียน ๑,๐๐๐ กว่าคน อาม่าหวังว่าเมื่อน้องของท่านไม่อยู่แล้ว จะส่งทอดกิจการโรงเรียนให้คุณพ่อของลูก แต่น้องชายของอาม่าไม่ได้ยกโรงเรียนให้คุณพ่อของลูก กลับยกให้กับหลานของเขาซึ่งเป็นลูกของลูกชาย

      วันหนึ่ง ลูกชายของน้องชายอาม่าไล่พ่อของลูกออกจากโรงเรียน ซึ่งขณะนั้นคุณพ่อ
มีตำแหน่งเป็นผู้จัดการโรงเรียน คุณพ่อกับคุณแม่จึงมาตั้งโรงเรียนใหม่ คือ โรงเรียนอนุบาลสุธีธรในปัจจุบัน

      ต่อมา คุณพ่อถูกลูกชายของน้องชายอาม่ายิง หลังจากถูกยิงคุณพ่อเป็นอัมพาตเนื่องจากคุณพ่อเป็นโรคเบาหวานอย่แู ล้วจงึ เกิดแผลกดทับ และอีก ๓ เดือนก็เสียชีวิต รวมอายุได้ ๕๕ ปี ซึ่งในครั้งนั้นลูกชายของน้องชายอาม่าตั้งใจมายิงทั้งครอบครัวของลูก เพราะเข้าใจผิดเรื่องมรดก เนื่องจากได้รับการยุยงจากพี่สะใภ้ สุดท้ายเขาก็ถูกตำรวจจับและเสียชีวิตในคุก

      ขณะที่คุณพ่อเสียชีวิต น้องสาวของลูกยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เธอเห็นคุณพ่อยืนอยู่ที่ประตูห้องเรียน เวลานั้นเธอดีใจมาก คิดว่าคุณพ่อหายป่วยแล้วไปเยี่ยมจึงรีบกลับหอพัก เพื่อจะไปหาคุณพ่อ แต่พอ
ไปถึงหอพักก็ได้รับโทรเลขว่าให้รีบกลับบ้านครั้งนั้นทำให้ลูกเชื่อว่าวิญญาณมีจริง

      สำหรับการจัดงานศพของคุณพ่อนั้นตอนแรกตั้งใจจะเผา แต่ต้องยกเลิกการเผาศพในวันงาน เพราะคุณพ่อไปเข้าฝันครูในโรงเรียนว่าไม่อยากให้เผา จึงต้องใช้วิธีฝังแทน

 

หลังจากส่งคำถามไปกราบเรียนถามคุณครูไม่ใหญ่แล้ว
ก็มีคำตอบจากโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ดังนี้

      ๑. ก่อนที่คุณพ่อของลูกจะเสียชีวิตขณะที่กำลังนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น ท่านคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ รวมทั้งเรื่องโรงเรียนที่ท่านเป็นผู้ก่อตั้ง ซึ่งทุก ๆ ครั้งที่ท่านนึกถึงโรงเรียนนี้ ท่านจะรู้สึกปลื้มปีติและภาคภูมิใจมาก เพราะท่านสร้างโรงเรียนนี้ขึ้นมาด้วยใจรักและอยากที่จะสร้างเด็กเก่งและดีขึ้นมาให้แก่สังคมจริง ๆในช่วงนั้น แม้ว่าคุณพ่อของลูกต้องมานอนป่วยเพราะถูกคนลอบยิงก็ตาม แต่ท่านไม่ได้รู้สึกผูกโกรธคนที่มาทำร้ายเลยแม้แต่น้อย
 

      ๒. เมื่อสังขารของท่านทนต่อโรคภัยไข้เจ็บที่รุมเร้าไม่ไหวแล้ว กายละเอียดของท่านก็หลุดออกจากกายหยาบ แล้วมายืนอยู่ข้าง ๆร่างของท่าน และยังไม่รู้ว่าตัวเองเสียชีวิตแล้วต่อมา ท่านเหลือบไปเห็นร่างของท่าน
พร้อมกับเห็นลูก ๆ กำลังเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของท่าน ท่านจึงรู้ว่าตอนนี้ท่านเสียชีวิตไปแล้ว

 

      ๓. ด้วยความที่คุณพ่อไม่ได้เรียนรู้เรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ ท่านจึงไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไปอีกทั้งยังรู้สึกเป็นห่วงทุกคนในครอบครัวขึ้นมาอย่างจับใจ ดังนั้นกายละเอียดของท่านจึงพยายามเข้าไปยืนใกล้ ๆ ทุกคน

      ขณะนั้นท่านก็พลันเกิดความคิดถึงลูกสาวคนเล็กขึ้นมาจับใจ และในเสี้ยววินาทีที่กายละเอียดของท่านคิดถึงลูกสาวคนเล็กท่านก็แว็บไปหาลูกสาวคนเล็กซึ่งกำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทันที
 

๔. ท่านรู้สึกอัศจรรย์ใจมากที่สามารถแว็บไปหาลูกสาวได้ และลูกสาวของท่านก็เห็นกายละเอียดคุณพ่อมายืนอยู่ที่ประตูห้องเรียนซึ่งเธอรู้สึกดีใจมาก เพราะเธอคิดว่า คุณพ่อหายป่วยแล้วจึงเดินทางไปเยี่ยมเธอถึงเชียงใหม่กายละเอียดคุณพ่อก็รู้สึกดีใจมากเช่นกันเพราะท่านสัมผัสได้ว่า ลูกสาวของท่านสามารถมองเห็นท่านได้

      ส่วนสาเหตุที่ทำให้น้องสาวของลูกเห็นกายละเอียดคุณพ่อได้นั้น เป็นเพราะผลบุญที่คุณพ่อของลูกเคยสั่งสมไว้ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ กับความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่ท่านอยากจะพบและอยากจะบอกลูกสาวคนเล็กว่าท่านเสียชีวิตไปแล้ว ได้ช่องส่งผลร่วมกันในช่วงจังหวะที่ตัวเธอเองก็กำลังมีความรู้สึกเป็นห่วงคุณพ่ออยู่ลูก ๆ จึงทำ ให้อายตนะ (ช่องทางการรับรู้) ของทั้งสองตรงกันพอดี น้องสาวของลูกจึงเห็นกายละเอียดคุณพ่อไปหา
 

       ๕. แต่ในขณะที่น้องสาวของลูกกำลังรู้สึกดีใจอยู่นั้น ภาพกายละเอียดของคุณพ่อก็พลันหายไป ซึ่งตอนนั้นเธอคิดว่า คุณพ่อเดินพ้นจากประตูห้องเรียนไปแล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้ว กายละเอียดของคุณพ่อยังอยู่ตรงนั้น และเดินมาใกล้น้องสาวของลูกด้วยความรักและเป็นห่วง

      ส่วนสาเหตุที่ทำให้ภาพกายละเอียดของคุณพ่อหายไปนั้น เป็นเพราะในขณะที่น้องสาวของลูกเกิดความรู้สึกดีใจ ใจของเธอก็กระเพื่อมออกจากจุดเดิม ทำให้อายตนะของทั้งสองที่เคยตรงกันเกิดการคลาดเคลื่อนแล้วก็หลุดไปในที่สุด (อุปมาเหมือนคลื่นวิทยุที่เคยจูนตรงกัน แล้วจู่ ๆ ก็ถูกบิดให้เคลื่อนไปจากจุดเดิม ทำให้ไม่สามารถรับคลื่นวิทยุช่องเดิมได้) ทำให้น้องสาวของลูกไม่สามารถเห็นกายละเอียดคุณพ่อได้เหมือนเดิม
 

       ๖. หลังจากที่คุณพ่อของลูกแว็บไปหาลูกสาวแล้ว ท่านก็รู้สึกสบายใจขึ้น และในเสี้ยววินาทีนั้น ท่านก็หวนคิดถึงโรงเรียนอนุบาลที่ท่านก่อตั้งขึ้นมา ทันใดนั้นกายละเอียดของท่านก็แว็บไปยังโรงเรียนอนุบาลทันที แล้วก็เดินวนเวียนไปมาอยู่ในโรงเรียนด้วยความภาคภูมิใจ ยิ่งได้เห็นเด็กนักเรียนก็ยิ่งเกิดความปลื้มปีติ ที่ท่านมีส่วนในการสร้างเด็กเก่งและดีขึ้นมาให้แก่สังคม

       ระหว่างนั้นท่านย้อนนึกถึงภาพเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนนี้ ตั้งแต่ภาพแรกที่ท่านทุ่มเทแรงกายแรงใจก่อตั้งโรงเรียนนี้ขึ้นมาไปจนถึงภาพที่ท่านดูแลเอาใจใส่เด็กนักเรียนทุกคนเป็นอย่างดี เป็นต้น

      แม้กระทั่งในช่วงที่เด็กนักเรียนเดินทางกลับบ้านกันไปหมดแล้ว กายละเอียดคุณพ่อก็ยังคงเดินเก็บเกี่ยวบรรยากาศแห่งความสุขและความภาคภูมิใจอยู่ในโรงเรียนอย่างไม่รู้เบื่อ
 

      ๗. ถ้าหากช่วงไหนท่านเกิดความรู้สึกคิดถึงคนในครอบครัวขึ้นมา ท่านก็จะแว็บกลับไปที่บ้าน และทุกครั้งที่กลับไปบ้าน ท่านก็จะไปพูดคุยกับภรรยาและลูก ๆ ด้วยความรักและคิดถึง ทั้ง ๆ ที่ท่านก็รู้ดีว่า ทุกสิ่งที่ท่านพูดไม่สามารถสื่อสารให้ทุกคนรับทราบได้เลย แต่ท่านก็รู้สึกเป็นสุขใจ
 

      ๘. ในช่วงที่จัดงานบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมให้คุณพ่อของลูกนั้น หลังจากที่ทุกคนในครอบครัวอุทิศส่วนกุศลส่งไปให้ท่านแล้ว ภาพของการสั่งสมบุญที่ทุกคนตั้งใจทำให้ก็ไปปรากฏอยู่ภายในใจของท่าน แต่ด้วยความที่ท่านมีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการสั่งสมบุญในพระพุทธศาสนาแค่เพียงระดับหนึ่ง ทำให้ท่านไม่ได้อนุโมทนาบุญ ผลบุญที่เกิดขึ้นกับท่านจึงมีปริมาณไม่เต็มที่อย่างที่ควรจะเป็นแต่ก็ส่งผลให้ใจของท่านเกิดความชุ่มเย็นและมีความสุขมาก กายละเอียดของท่านจึงเกิดความผ่องใสและสว่างไสวมากขึ้นกว่าเดิม
 

      ๙. ก่อนวันประกอบพิธีฌาปนกิจ กายละเอียดของคุณพ่อรู้ว่าร่างของท่านกำลังจะถูกเผา และด้วยความเข้าใจผิดว่า ถ้าถูกเผาแล้วท่านจะไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ ทุกคนในครอบครัวและโรงเรียนของท่านอีก ทำให้ท่านไม่สบายใจมากจนต้องไปเข้าฝันคนรู้จักหลาย ๆ คน เพื่อบอกให้รู้ว่า ท่านไม่อยากให้เผาร่างของท่านซึ่งในช่วงนั้นกายฝัน (กายละเอียด) ของคุณครูบางคนสามารถรับรู้ถึงสิ่งที่ท่านต้องการจะสื่อสารได้ ทำให้บางคนฝันเห็นคุณพ่อของลูกมาบอกในทำนองที่ว่า “ให้ยกเลิกพิธีฌาปนกิจ”

      ต่อมา เมื่อกายละเอียดคุณพ่อทราบว่ามีการเปลี่ยนแปลงจากการฌาปนกิจมาเป็นการฝัง ท่านก็ดีใจมาก เพราะท่านจะได้อยู่ใกล้โรงเรียนและทุกคนในครอบครัวต่อไป (ในความเป็นจริงแล้ว การที่กายละเอียดจะอยู่หรือจากทุกคนไปนั้น ไม่เกี่ยวกับการเผาร่างของท่านเลยแม้แต่นิดเดียว)
 

     ๑๐. เมื่อวันเวลาผ่านไป ผลบุญทุก ๆบุญที่ท่านตั้งใจสั่งสมไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่กับผลบุญที่ทุกคนในครอบครัวอุทิศไปให้ท่านก็ได้ช่องตามมาส่งผลอย่างเต็มที่ ทำให้กายละเอียดของท่านแว็บไปบังเกิดเป็นเทพบุตรภุมเทวาระดับไฮโซ ที่มีวิมานไม้แกะสลักแบบทรงจีน ๒ ชั้น ซ้อนอยู่กับโรงเรียนของท่านในเมืองมนุษย์ในทันที

      หลังจากไปบังเกิดเป็นเทพบุตรแล้วท่านก็รู้สึกดีใจและอัศจรรย์ใจมาก เพราะข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ในวิมานล้วนทำด้วยทองและเงินอันประณีต และมีลวดลายแกะสลักที่วิจิตรสวยงามกว่าในเมืองมนุษย์มาก อีกทั้งยังมีเหล่าบริวารคอยปรนนิบัติรับใช้ด้วย และที่สำคัญวิมานของท่านยังซ้อนอยู่กับโรงเรียนซึ่งท่านรักและภาคภูมิใจนอกจากนี้ท่านยังเป็นถึงเทพบุตรภุมเทวาระดับหัวหน้าเขต ทำหน้าที่ปกครองดูแลภุมเทวาระดับกลางและระดับล่างที่อยู่ในพื้นที่แถบนั้นทั้งหมดด้วย
 

      ๑๑. สำหรับกิจกรรมที่ท่านเทพบุตรชอบทำมากเป็นพิเศษก็คือ การเดินตรวจโรงเรียน พร้อมกับสั่งให้เหล่าภุมเทวาในสายการปกครองของท่านคอยปกป้องคุ้มครองคุณครูและนักเรียนทุกคนตลอดเวลา ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ด้วยผลแห่งบุญที่คุณพ่อของลูกตั้งใจสั่งสมเอาไว้กับผลแห่งบุญทุกบุญที่ทุกคนในครอบครัวอุทิศส่งไปให้ท่าน สามารถที่จะส่งให้ท่านไปบังเกิดในภพภูมิที่สูงกว่านี้ได้สบาย

      แต่ด้วยความที่ท่านรักและผูกพันอยู่กับโรงเรียนและครอบครัว ทำให้บุญยังไม่ได้ช่องส่งผลอย่างเต็มที่เต็มกำลังเท่าที่ควรจะเป็นกายละเอียดของคุณพ่อจึงต้องไปบังเกิดเป็นเทพบุตรภุมเทวาระดับไฮโซ
 

     ๑๒. ในช่วงที่คุณพ่อของลูกไปเกิดเป็นเทพบุตรภุมเทวาใหม่ ๆ ท่านดูคล้ายคนที่มีอายุ ๔๐-๔๕ ปี แต่พอเวลาผ่านไป เมื่อทุกคนในครอบครัวตั้งใจสั่งสมบุญและอุทิศส่วนกุศลส่งไปให้ท่านเรื่อย ๆ ท่านก็มีผิวพรรณวรรณะผ่องใสสว่างไสวมากขึ้น รูปร่างหน้าตาก็แลดูอ่อนเยาว์ลงมากด้วย วิมานไม้แกะสลักแบบทรงจีน ๒ ชั้น ก็ขยายใหญ่โตและมีประกายว็อบ ๆ แว็บ ๆ กว่าเดิม ทำให้ท่านมีความสุขมาก
 

     ๑๓. ต่อมา ขณะที่ท่านเทพบุตรภุมเทวากำลังชื่นชมและตรวจตราดูคุณครูและเด็กนักเรียนด้วยใจที่สว่างไสวเบิกบานอยู่นั้นพระธรรมกายก็เมตตาไปโปรดท่านถึงวิมานซึ่งท่านเทพบุตรภุมเทวาก็รู้สึกปลื้มปีติและอัศจรรย์ใจมาก เมื่อท่านทราบว่าพระธรรมกายต้องการให้ท่านฝากข้อความไปถึงทุกคนในครอบครัว ท่านก็ไม่รอช้าฝากสารแห่งความรักความคิดถึงมาในทำนองที่ว่า “ท่านอยากขอบใจที่อุทิศบุญส่งไปให้ท่าน ตอนนี้ท่านสุขสบายดีและยังอยู่กับทุก ๆ คน ไม่ได้หายไปไหน วิมานของท่านก็อยู่ที่โรงเรียน ท่านรู้สึกสบายใจและมีความสุขมากที่ได้อยู่ใกล้ ๆ คุณแม่ของลูกและลูก ๆ ทุกคน และปลาบปลื้มใจมากที่เห็นทุกคนช่วยกันบริหารโรงเรียนให้ประสบความ

      สำเร็จตามที่ท่านเคยมุ่งหวังไว้ ขอให้ทุกคนสามัคคีกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เอาใจใส่โรงเรียนเหมือนที่ท่านเคยทำ อีกทั้งขอให้ลูกทุกคนช่วยกันส่งเสริม สนับสนุน และปลูกฝังให้คุณครูในโรงเรียนรักเด็กนักเรียนมาก ๆให้มีศีลธรรม มีคุณธรรม จะได้เป็นตัวอย่างที่ดีและเป็นต้นแบบที่งดงามแก่เด็ก ๆ ซึ่งจะส่งผลให้การปลูกฝังศีลธรรมอันดีงามแก่เด็กนักเรียนเป็นไปได้โดยง่าย
 

      ๑๔. นอกจากนี้ คุณพ่อยังมีสารแห่งความรักความคิดถึงมาถึงตัวลูก ในทำนองที่ว่าท่านได้รับบุญทุกบุญที่ลูกตั้งใจทำและอุทิศไปให้ท่านแล้ว และด้วยผลบุญดังกล่าว ทำให้ท่านหนุ่มขึ้นและสุขสบายมากขึ้น และยังส่งผลใ ห้พระธรรมกายเมตตาไปโปรดท่านอีกด้วยซึ่งท่านรู้สึกดีใจ ซาบซึ้งใจ และปลื้มปีติมากขอให้ตัวลูกและลูกทุกคนช่วยกันดูแลคุณแม่ให้ดี และช่วยกันบริหารโรงเรียนให้เจริญรุ่งเรืองควบคู่ไปกับการปลูกฝังศีลธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปโดยเฉพาะเรื่องของบุญและบาปจะต้องให้เข้าไปอยู่ในใจของนักเรียนทุกคน เพราะตอนนี้ท่านเห็นและรับรู้ด้วยตาของท่านเองแล้วว่าบุญที่ทำในพระพุทธศาสนานั้นมีอานิสงส์มากมายจริง ๆ และขอให้อุทิศส่วนกุศลส่งไปให้ท่านอีกบ่อย ๆ เพราะท่านอยากที่จะอยู่อย่างนี้ไปอีกนาน ๆ

      ดังนั้น สำหรับคำถามที่ว่า ลูกชายของตัวลูกคือคุณพ่อกลับมาเกิดใหม่หรือเปล่าเพราะลูกชายของลูกมีตำหนิเหมือนกับที่ลูกทำเอาไว้ในตอนที่คุณพ่อเสียชีวิต ก็คงจะได้รับคำตอบแบบชัดเจนแล้วว่าไม่ใช่ เพราะตอนนี้คุณพ่อของลูกยังเป็นเทพบุตรภุมเทวาไฮโซสุดหล่ออยู่
 

     ๑๕. สำหรับบุพกรรมที่ทำให้คุณพ่อของลูกป่วยเป็นโรคเบาหวาน แล้วถูกยิงจนเป็นอัมพาต และเสียชีวิตด้วยวัยเพียง ๕๕ ปีนั้นเป็นเพราะวิบากกรรมปาณาติบาตที่ท่านเคยทำผิดพลาดเอาไว้ในภพชาติก่อน ๆ โน้นได้ช่องตามมาส่งผล เรื่องมีอยู่ว่า...

    ในภพชาติก่อน ๆ โน้น คุณพ่อของลูกเกิดเป็นกุลบุตรสุดหล่อผู้มีจิตใจงดงามและขยันขันแข็งอยู่ในครอบครัวที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมอยู่ในหัวเมืองแห่งหนึ่ง เมื่อเติบใหญ่ขึ้น ท่านได้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและทำฟาร์มปศุสัตว์ โดยเลี้ยงสัตว์เอาไว้ขายและนำไปฆ่าเป็นจำนวนมากมายหลากหลายชนิดตั้งแต่พวกปลาน้ำจืด กุ้ง เป็ด ไก่ หมู ไปถึงสัตว์ตัวใหญ่ ๆ เช่น โค กระบือ เป็นต้น
 

      ๑๖. ในภพชาตินั้น คุณพ่อของลูกมีเพื่อนบ้านที่สนิทสนมคุ้นเคยกันอยู่คนหนึ่ง เขาประกอบอาชีพแบบเดียวกับครอบครัวของท่านและด้วยความสนิทสนมคุ้นเคยกัน จึงทำให้ท่านและเพื่อนบ้านคนนี้ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันอยู่เสมอ
 

      ๑๗. ต่อมา เพื่อนบ้านคนนี้ล้มป่วยลงและเสียชีวิต ทำให้กิจการตกทอดไปสู่ลูกชายของเขา ซึ่งเป็นคนไม่ซื่อสัตย์ ขี้เกียจ ขี้อิจฉาเจ้าเล่ห์ และโลภมาก อีกทั้งไม่มีศิลปะในการทำงานและการครองใจคน ทำให้ไม่สามารถดูแลลูกน้องให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนสมัยที่พ่อของเขายังมีชีวิตอยู่ จากเหตุดังกล่าวนี้ได้ส่งผลกระทบแบบลูกโซ่ไปถึงผลผลิตทางการเกษตรต่าง ๆ ที่เดิมเคยผลิดอกออกผลและให้กำไรงาม กลับกลายเป็นทุนหายกำไรหด
 

      ๑๘. เมื่อคุณพ่อของลูกเห็นว่า ลูกชายของเพื่อนบ้านประสบปัญหาทางธุรกิจ ท่านจึงยื่นมือเข้าไปประคับประคองและถ่ายทอดเทคนิคการทำงานให้เสมอ ๆ แต่ลูกชายของเพื่อนบ้านมองไม่เห็นคุณงามความดีที่คุณพ่อของลูกทุ่มเททำให้เลย ตรงกันข้ามกลับรู้สึกระแวงและอิจฉาคุณพ่อของลูกอยู่ตลอดเวลาทำให้เขาหาเรื่องแกล้งคุณพ่อของลูก โดยสั่งให้ลูกน้องแอบไปเผาหญ้าที่ขึ้นรก ๆ อยู่ข้าง ๆสวนคุณพ่อของลูก ทำให้เกิดเพลิงไหม้ลุกลามเข้าไปทำลายผลผลิตทางการเกษตรของคุณพ่อของลูกอยู่เป็นประจำ ซึี่งในช่วงแรก ๆ คุณพ่อของลูกก็คิดว่าเพลิงไหม้เพราะความเลินเล่อของคนงานที่จุดไฟเผาหญ้า
 

      ๑๙. แต่พอเกิดเพลิงไหม้บ่อย คุณพ่อของลูกก็เริ่มเอะใจว่าคงไม่ใช่เรื่องอุบัติเหตุหรือความประมาทเลินเล่อ ยิ่งท่านได้ทราบความจริงจากคนงานของท่านว่า พวกเขาเห็นคนงานของลูกชายเพื่อนบ้านของท่านกำลังแอบจุดไฟเผาหญ้าบริเวณข้างสวนของท่าน ด้วยพฤติกรรมที่จงใจให้ไฟลามเข้ามาเผาสวนและผลผลิตทางการเกษตรของท่าน ท่านก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจมาก

      ในที่สุด เมื่อเกิดเพลิงไหม้ที่สวนของท่านอีกครั้งหนึ่ง คุณพ่อของลูกจึงเรียกตัวลูกชายของเพื่อนบ้านมาพูดคุยและซักถามต้นสายปลายเหตุของเพลิงไหม้ แต่ลูกชายของเพื่อนบ้านก็บ่ายเบี่ยงแบบข้าง ๆ คู ๆ ว่าไม่รู้ไม่เห็น

      ดังนั้น ความร้าวฉานระหว่างครอบครัวทั้งสองจึงเริ่มเกิดขึ้น และนับจากนั้นเป็นต้นมาคุณพ่อของลูกก็ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวหรือให้ความช่วยเหลือครอบครัวนี้อีกเลย
 

     ๒๐. ในขณะที่การค้าขายผลผลิตทางการเกษตรของคุณพ่อของลูกกำลังเจริญรุ่งเรืองและกำลังไปได้สวยอยู่นั้น จู่ ๆ ก็เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรงขึ้นภายในสวนของท่านทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเสียหายไปเป็นจำนวนมาก

      สาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ เกิดมาจากความประมาทเลินเล่อของหัวหน้าคนงานของท่านเอง แต่คุณพ่อของลูกเข้าใจผิดว่าเป็นฝีมือลูกชายเพื่อนบ้านของท่าน ทั้งนี้เพราะท่านฝังใจเรื่องเพลิงไหม้ครั้งที่ผ่าน ๆ มาเป็นทุนเดิม กอปรกับได้รับรายงานจากคนงานของท่านว่า คนงานทางฝั่งลูกชายเพื่อนบ้านของท่านขู่ว่าจะมาเผาสวน ทำให้ท่านโกรธแค้นลูกชายเพื่อนบ้านของท่านสุดขีด
 

     ๒๑. ท่านโกรธถึงขั้นหยิบธนูหน้าไม้บุกไปถึงบ้านของลูกชายของเพื่อนบ้าน ตั้งใจว่าจะไปฆ่าล้างครอบครัวเลยทีเดียว ทันทีที่ท่านเห็นหน้าลูกชายของเพื่อนบ้านเท่านั้น ท่านก็หยิบธนูหน้าไม้ยิงออกไปทันที ทำให้ลูกชายของเพื่อนบ้านถึงกับล้มลงไปนอนกองกับพื้นทันทีที่คุณพ่อของลูกเห็นเขาลงไปนอนกองกับพื้นแล้วท่านก็พลันได้สติขึ้นมาว่าไม่น่าทำอย่างนี้เลย จากนั้นท่านก็รีบวิ่งกลับบ้านด้วยความรู้สึกผิดบาปและเสียใจกับการกระทำของตัวเองเป็นอย่างมากถึงมากที่สุดและยิ่งท่านย้อนไปทบทวนถึงสิ่งที่ท่านกระทำลงไปแล้ว ท่านก็ยิ่งสลดใจอย่างสุด ๆ
 

      ๒๒. ลูกชายเพื่อนบ้านของคุณพ่อได้รับบาดเจ็บสาหัสจนกระทั่งต้องเข้ารับการรักษาเป็นการด่วน และในระหว่างที่นอนพักรักษาตัวอยู่นั้น เขาก็เกิดความรู้สึกอาฆาตแค้นคุณพ่อของลูกและทุก ๆ คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ จนถึงขั้นผูกพยาบาทและจองเวรว่า ถ้าหากมีโอกาสกลับไปแก้แค้น เขาจะฆ่าทุกคนให้หมด แต่ด้วยความที่อาการสาหัสเกินเยียวยา เขาจึงเสียชีวิตลงพร้อมกับใจที่ผูกพยาบาทและอาฆาตแค้น

      เมื่อคุณพ่อของลูกทราบข่าวว่า ลูกชายเพื่อนบ้านของท่านเสียชีวิตแล้ว ท่านก็รู้สึกเสียใจเป็นที่สุด อีกทั้งยังรู้สึกผิดบาปกับการกระทำของตัวเองเป็นอย่างมากด้วย
 

     ๒๓. ด้วยความรู้สึกผิดบาปที่ฝังแน่นติดอยู่ในใจคุณพ่อของลูกนี้เอง ทำให้ท่านมาคอยช่วยเหลือเกื้อกูลครอบครัวของลูกชายเพื่อนบ้านของท่านเป็นอย่างดี เพื่อเป็นการชดเชยและชดใช้ความผิดที่ท่านกระทำเอาไว้ นอกจากนั้น ท่านยังนำเงินที่สะสมเอาไว้มาช่วยเหลือสังคมและสั่งสมบุญในพระพุทธศาสนาจนกระทั่งหมดอายุขัย
 

     ๒๔. ด้วยผลแห่งบุญที่คุณพ่อของลูกตั้งใจสั่งสมเอาไว้นี้เอง ทำให้หลังจากที่ท่านละโลกไปแล้ว ท่านจึงไม่ต้องพลัดไปบังเกิดในอบาย แต่ไปบังเกิดเป็นภุมเทวาและอยู่แต่ในสุคติภูมิ แต่ถึงกระนั้นวิบากกรรมปาณาติบาตที่ทำผิดทำพลาดเอาไว้ในภพชาตินั้น ก็ถูกเซ็ตเป็นผังสำเร็จและกลายเป็นวิบากกรรมที่ติดตามท่านนับตั้งแต่ภพชาตินั้นเป็นต้นมา
 

     ๒๕. ด้วยวิบากกรรมปาณาติบาตทั้งสองอย่างนี้ ทำให้ในภพชาติต่อ ๆ มา คุณพ่อของลูกต้องมาล้มป่วยแล้วก็เสียชีวิตด้วยการถูกลอบทำร้ายคล้าย ๆ กับในชาตินี้ติดต่อกันมาหลายภพหลายชาติแล้ว และหากชาติไหนเกิดมาเจอกับลูกชายเพื่อนบ้าน ในชาตินั้นท่านก็จะถูกเขาลอบทำร้ายจนเสียชีวิต แต่ถ้าชาติไหนไม่ได้เกิดมาเจอกัน วิบากกรรมปาณาติบาตทั้งสองอย่างก็จะไปดึงดูดให้คนที่เคยคิดอาฆาตหรือจองเวรกับท่านเอาไว้ในภพชาติใดภพชาติหนึ่ง เกิดความคิดอยากที่จะมาลอบทำร้ายท่านจนเป็นเหตุให้ท่านต้องเสียชีวิตในที่สุด

      จวบจนกระทั่งมาถึงในชาติปัจจุบันนี้เมื่อวิบากกรรมปาณาติบาตทั้งสองอย่างดังกล่าวได้ช่องตามมาส่งผล ท่านจึงต้องมาป่วยเป็นโรคเบาหวาน แล้วก็ถูกยิงจนเป็นอัมพาต และเสียชีวิตด้วยวัยเพียง ๕๕ ปีเหมือนอย่างที่เป็นอยู่นี้
 

 


บทสัมภาษณ์เจ้าของ Cass Study

        เรื่องของคุณพ่อทำให้ครูแก้วเข้าใจเรื่องกฎแห่งกรรมและเรื่องของคู่กรรมคู่เวรได้ชัดเจนมากขึ้น แม้เป็นญาติกันในชาตินี้ แต่วิบากกรรมก็ไม่ยกเว้น

         คุณครูไม่ใหญ่บอกว่า แม้คุณพ่อเสียชีวิตไปแล้ว ก็ยังคอยช่วยเหลือเราอยู่ตลอด รู้สึกดีใจมากว่าเราไม่ได้คิดไปเอง เพราะจิตสัมผัสได้ตลอดว่า คุณพ่อคอยช่วยเหลือ โดยเฉพาะงานของโรงเรียน ครูแก้วมารับช่วงจากคุณพ่อในช่วงอายุยังน้อย ไม่มีประสบการณ์ เวลาหลับตานิ่ง ๆ คุณพ่อก็จะมาบอกว่า อันนี้ทำอย่างนี้
อันนี้ยังไม่ต้องทำ รอก่อน! ซึ่งก็จะเป็นอย่างที่คุณพ่อบอก มีปัญหาอะไรก็ถามไปคุณพ่อก็จะตอบมา ใคร ๆ ก็พูดว่า ครูแก้วเก่ง ความจริงแล้วครูแก้วไม่ได้เก่ง แต่มีคุณพ่อเป็นที่ปรึกษาให้ คนเราตายแล้วไม่สูญนะคะถ้ายังไม่หมดกิเลส เราเป็นผู้เลือกภพภูมิเองค่ะ คุณพ่อเป็นคนจีน อัธยาศัยดี ชอบช่วยเหลือผู้คน ท่านอยากบวชพระมาก ๆ เนื่องจากเป็นลูกคนจีน คุณพ่อคุณแม่ไม่สนับสนุนให้บวช ถ้าคุณพ่อได้บวช ชีวิตในปรโลกของท่านต้องดีกว่านี้ แต่พวกเราก็ทำบุญอุทิศไปให้ท่านตลอดค่ะ ซึ่งคุณครูไม่ใหญ่ก็บอกว่า บุญที่ลูก ๆ และหมู่ญาติอุทิศไปให้ ทำให้คุณพ่อได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ประณีต ดีใจมากเลยค่ะ

          เนื่องจากดิฉันเป็นลูกที่สนิทกับคุณพ่อมากที่สุด จึงได้รับฟังคำสอนเกี่ยวกับการให้อภัยคนรอบข้างโดยตลอดและบ่อยครั้ง แม้คนที่ยิงคุณพ่อ คุณพ่อและคุณแม่ก็ให้อภัย และมีเรื่องที่ดิฉันแปลกใจก็คือก่อนที่คนยิงคุณพ่อจะเสียชีวิตในคุก เขาฝากให้เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลบอกคณุ แม่ว่า เขามคี วามประสงค์ให้คุณแม่รับศพเขาออกมาจากคุก และขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนั้นดิฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงกล้าที่จะขอให้ครอบครัวที่เขาทำร้ายมาดูแลเรื่องศพของเขา แต่หลังจากฟัง Case Study เรื่องคุณพ่อและคนที่ทำร้ายคุณพ่อในชาติก่อนแล้ว ทำให้เข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ ได้ดีขึ้น และคิดว่าคุณพ่อคงจะหลุดพ้นจากกรรมนี้แล้วเพราะคุณพ่อมีแต่คำสอนว่า “ลูกอย่าโกรธอย่าเกลียดคนที่ทำร้ายทำลายน้ำใจเรานะ เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไร และทำให้เบื้องหน้าที่เราจะก้าวเดินต่อไปมีแต่ความทุกข์ ใครทำอะไรไว้ก็จะได้รับสิ่งนั้นคืนไป เชื่อพ่อนะ”แล้วคนที่ทำร้ายคุณพ่อก็น่าที่จะลดความอาฆาตพยาบาทลงแล้ว จาก Case Study ทำให้ดิฉันรักบุญ อยากที่จะอยู่ในบุญตลอดเวลา กลัวเหลือเกินว่าจะไปทำความผิดโดยประมาท แล้วต้องมาใช้หนี้กรรมกันอีกนานทำให้หนทางหลุดพ้นยิ่งยากและไกลออกไป ตอนคุณพ่อยังมีชีวิตอยู่ คุณพ่อเป็นคนที่มีอัธยาศัยชอบช่วยเหลือผู้อื่น ครั้งหนึ่งที่จำได้ประทับใจในวัยเด็กที่เห็นคุณพ่อเป็น Hero ก็คือ วันที่นั่งรถเมล์กลับบ้าน มีผู้ชายคนหนึ่งต้องการลงจากรถ เขาไปยืนรอที่ประตูหลังของรถขณะที่รถชะลอความเร็วลง แต่คงไม่ทันใจ เขาจึงกระโดดลงจากรถ แต่ก้าวพลาด ทำ ให้เขาโดนล้อหลังทับ เมื่อรถจอดสนิท คุณพ่อก็รีบลงไปช่วยพาเขาไปส่งโรงพยาบาล แล้วให้คุณแม่กลับบ้านกับดิฉันสองคน

      นอกจากนี้ คุณพ่อยังเป็นคนใจดี ชอบเป็นผู้ให้ ทำให้ดิฉันนำมาเป็นแบบอย่าง เช่น เมื่อครั้งที่ไปเที่ยวงานลำไยที่เชียงใหม่ คุณพ่อซื้อลำไยจากทุกร้านเท่า ๆ กัน ลูก ๆ ก็ถามว่า ทำไมถึงซื้อแบบนี้ คุณพ่อบอกว่าเป็นการกระจายรายได้ และสร้างขวัญกำลังใจให้แก่คนค้าขาย

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล