The Science of Meditation ,TIME Magazine
|
|
|
The Science of Meditation TIME Magazine พาดหัวข่าวไว้อย่างน่าทึ่งว่า...
“ นักวิทยาศาสตร์” ก็ “ ศึกษาวิจัย” เรื่องสมาธิ...
|
||||||||
|
|
ในสหรัฐอเมริกาคนอเมริกันสิบล้านคน นั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอ เป็นสองเท่าของสิบปีก่อนสถานที่หลายแห่ง ในสหรัฐอเมริกา เช่น ที่นิวยอร์กเปลี่ยนเป็นที่นั่งสมาธิหลายแห่ง จนคนเรียกแถบนั้นว่าเป็นแถบของชาวพุทธ นักเรียนนั่งสมาธิก่อนเข้าห้องเรียนทุกเช้า นักกฎหมาย นักธุรกิจ คนทำงานสาขา อาชีพต่างๆ นั่งสมาธิตามที่หน่วยงานของตน จัดให้นั่งอย่างสม่ำเสมอ ดาราภาพยนตร์ นักการเมือง นักเขียน ต่างก็นั่งสมาธิ
การนั่งสมาธิทำให้ร่างกายมีสภาวะเหมือน ก่อนจะหลับแต่ไม่ได้หลับ มีสติรู้ตัวอยู่เสมอ และทำให้จิตใจ สดชื่นแจ่มใส สมาธิยังช่วย ขจัดความขัดแย้งในจิตใจ ทำให้ ใจอยู่นิ่ง ท่ามกลาง ความสับสนว่าจะเอาอย่างไรดี เมื่ออยู่นิ่งแล้วจะเข้าใจสถานการณ์และเรื่องราวต่างๆได้ดีขึ้น ยอมรับมันด้วย ความสงบและมีความสุขมากขึ้น และเป็นเหตุผล ที่ทำให้แพทย์แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เข้าใจว่าทำไม มนุษย์ถึงนั่งสมาธิมาหลายพันปีแล้ว แพทย์ก็แนะนำ ให้คนไข้นั่งสมาธิเป็นประจำ และสม่ำเสมอมากขึ้น เพราะผลการทดลอง ทางวิทยาศาสตร์จากการสแกนคลื่นสมองพบว่าสมอง จะมีระบบปิดกั้นเรื่องราวต่างๆ ไม่ให้เข้ามา และไม่ส่งเรื่องเข้าไปย่อยในส่วนลึกของเนื้อสมอง อย่างเคย แต่ทำให้ระบบลิมปิค ซึ่งเป็นส่วนควบคุมด้านอารมณ์ และความจำดีขึ้น ทำให้อัตราการเต้น ของหัวใจ ลมหายใจและการเผาผลาญในร่างกาย เป็นปรกติ ( ไทม์ ฉบับวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2546) |