ฉบับที่ ๑๘๗ เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๑

ในวันที่ความสุขเลือนหาย เรายังคงก้าวไปด้วยกัน

ดับไฟใต้
เรื่อง : มาตา

ในวันที่ความสุขเลือนหาย เรายังคงก้าวไปด้วยกัน
 

     ทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย มีเมืองเล็ก ๆ อยู่เมืองหนึ่งชื่อ “ออโรวิลล์” แปลว่า “เมืองแห่งรุ่งอรุณ” เมืองนี้เป็นต้นแบบของเมืองในอุดมคติ ก่อตั้งมา ๔๐ ปีแล้ว ปัจจุบันมีผู้คนต่างชาติต่างศาสนาจากกว่า ๔๐ ประเทศนับพันคน มาใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสงบ ไม่มีความขัดแย้งเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา หรือการเมือง นอกจากนี้ยังมีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโดยใช้พลังงานสีเขียวซึ่งไม่ทำร้ายโลกด้วย

        โครงการสร้างเมืองออโรวิลล์ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอินเดีย และยูเนสโกก็ยอมรับว่าเป็นโครงการที่มีผลต่ออนาคตของมนุษยชาติในเรื่องการสร้างโลกที่ดีกว่าเดิม จึงพร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่
 

       ตัดฉากกลับมาที่ภาคใต้ของประเทศไทยย้อนไปเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๗ ขณะนั้นจังหวัดชายแดนภาคใต้ลุกเป็นไฟ ประชาชนต่างหวาดหวั่นขวัญเสีย ชีวิตประจำวันปั่นป่วนพระภิกษุสามเณรได้รับผลกระทบอย่างหนักทั้งถูกข่มขู่ กดดัน ลอบทำร้าย และประทุษร้ายซึ่งหน้า ทำให้หลายรูปได้รับบาดเจ็บ บางรูปพิการ บางรูปถึงกับมรณภาพ บรรยากาศในพื้นที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวง เวลาพระเณรออกบิณฑบาตต้องมีทหารคุ้มกันเป็นที่หดหู่ใจแก่ผู้พบเห็น ดังที่พระรูปหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า “เวลาออกบิณฑบาตเหมือนกับนักโทษ ทหารอยู่หัวแถว ท้ายแถว ดูแล้วน่าสังเวช น่าสลดใจ”
 

พิธีถวายสังฆทานแด่คณะสงฆ์ใน ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้
ที่จังหวัดปัตตานีและนราธิวาส เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๘

 

พระภาวนาธรรมวิเทศ (ภูเบศ ฌานาภิญฺโญ)
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
เยี่ยมพุทธบุตรที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบ


   ที่หนักไปกว่านั้นก็คือ เมื่อเหตุการณ์เข้าขั้นวิกฤต คณะสงฆ์ในหลายพื้นที่ของจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส จำต้องประกาศงดบิณฑบาต ในขณะที่ญาติโยมชาวพุทธซึ่งตกอยู่ในภาวะย่ำแย่พอ ๆ กันก็ไม่กล้าออกไปทำบุญที่วัด ทำให้พระเณรลำบากเรื่องการขบฉันและขาดแคลนสิ่งของอุปโภคบริโภค

         เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความร้าวรานใจแก่พุทธศาสนิกชนเป็นอันมาก

        ด้วยความห่วงใยพุทธบุตรทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง ทำให้หลวงพ่อธัมมชโยมิอาจทนนิ่งดูดาย ท่านจึงดำริให้มีโครงการถวายสังฆทานแด่คณะสงฆ์ในจังหวัดยะลา ปัตตานีและนราธิวาส (ภายหลังเพิ่มบางอำเภอในจังหวัดสงขลา) เพื่อถวายปัจจัยไทยธรรมอันควรแก่สมณะบริโภคแด่พุทธบุตรที่กำลังบำเพ็ญปรมัตถบารมี เอาชีวิตเป็นเดิมพันรักษาพระศาสนาให้คงอยู่คู่ด้ามขวานทอง

       การนำปัจจัยไทยธรรมไปถวายแด่คณะสงฆ์ชายแดนภาคใต้ครั้งแรกมีขึ้นในเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๘ โดยจัดพิธีถวายที่วัดมุจลินทวาปีวิหาร จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน และวัดทองดีประชาราม จ.นราธิวาส วันที่ ๘ มิถุนายน
 

พิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง


พิธีถวายปัจจัยไทยธรรม


พิธีมอบกองทุนหนุนแรงใจช่วยครูใต้


         ในระยะแรกมีวัดในโครงการ ๒๓๘ วัด ต่อมาเพิ่มเป็น ๒๖๖ วัด และในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ปรับเป็น ๒๘๖ วัด แล้วเป็น ๓๒๓ วัด ในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยจัดหมุนเวียนในพื้นที่ ๔ จังหวัด ได้แก่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาสและสงขลา ปัจจุบันโครงการนี้ใช้ชื่อว่า “พิธีถวายสังฆทานแด่คณะสงฆ์ ๓๒๓ วัดและพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่ผู้วายชนม์ในเหตุการณ์ความไม่สงบ ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้”

     นอกจากให้ความช่วยเหลือพุทธบุตรแล้ว หลวงพ่อธัมมชโยยังเมตตามอบเครื่องอุปโภคบริโภคและพระของขวัญแก่เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่อีกด้วย และยังดำริให้มี “พิธีมอบกองทุนหนุนแรงใจช่วยครูใต้” เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่คุณครูผู้ยืนหยัดให้แสงสว่างแก่อนาคตของชาติในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยจัดพิธีครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑ และจัดต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันเป็นปีที่ ๑๑ รวม ๑๐๐ ครั้งแล้ว และจะให้ความช่วยเหลือต่อไปจนกว่าเหตุการณ์จะสงบลง
 

มอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่เจ้าหน้าที่ทหารตำ รวจเพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่


ทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่ผู้วายชนม์ในเหตุการณ์ความไม่สงบ


      ส่วน “พิธีถวายสังฆทานแด่คณะสงฆ์ ๓๒๓ วัด และพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่ผู้วายชนม์ในเหตุการณ์ความไม่สงบ ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้” นั้น จัดมาแล้วถึง ๑๓๕ ครั้ง เป็นระยะเวลา ๑๔ ปี รวมปัจจัยไทยธรรมที่ส่งไปถวายเป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งปัจจัยไทยธรรมเหล่านี้จะแปรเปลี่ยนไปเป็นกำลังกาย กำลังใจของท่านและเติมเต็มสิ่งที่ขาดไป เช่น ค่าไฟ ค่าน้ำ และสิ่งจำเป็นอื่น ๆ ทำให้ท่านมีความเป็นอยู่ดีขึ้น บำเพ็ญสมณธรรมได้สะดวกสบายขึ้น ซึ่งเท่ากับว่าเราทุกคนมีส่วนร่วมในการรักษาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้คงอยู่คู่โลก เป็นแสงสว่างในการดำเนินชีวิตแก่มวลมนุษยชาติต่อไป

     การที่วัดพระธรรมกาย คณะศิษยานุศิษย์และองค์กรภาคี ยังคงมอบความช่วยเหลือแด่พุทธบุตรใน ๔ จังหวัดภาคใต้อย่างสม่ำเสมอแม้ในบางคราท้องฟ้าเหนือวัดพระธรรมกายมืดมนจนแทบมองไม่เห็นหนทางก็ตาม เป็นเพราะพวกเราตระหนักดีว่า พระพุทธศาสนามีคุณค่าเพียงใด และพุทธบุตรที่ยืนหยัดรักษาพระศาสนาอยู่ในพื้นที่ ๔ จังหวัดภาคใต้ มีความสำคัญต่อพระพุทธศาสนามากแค่ไหนสิ่งที่เราทำจึงถือว่าเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย เมื่อเทียบกับคุณงามความดีที่พุทธบุตรทั้งหลายสละชีวิตรักษาแสงแห่งธรรมไม่ให้ดับลงไป
 

พิธีถวายสังฆทานแด่คณะสงฆ์ ๓๒๓ วัด และพิธีทำ บุญอุทิศส่วนกุศลแด่ผู้วายชนม์
ในเหตุการณ์ความไม่สงบใน ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ ๑๓๕ เมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน ที่ผ่านมา
ทำให้หลายคนหวนระลึกถึงพิธีกรรมครั้งแรกเมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๘ และรู้สึกปลื้มปีติ
ที่เรายืนหยัดเคียงข้างพุทธบุตรใน ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้มาตลอด


พิธีมอบกองทุนหนุนแรงใจช่วยครูใต้ ครั้งที่ ๑๐๐


       ตลอด ๑๔ ปีที่ผ่านมา แม้ว่าพวกเราต่างเต็มใจส่งความช่วยเหลือไปยังวีรบุรุษแห่งกองทัพธรรมมาโดยตลอด และจะยังส่งต่อไปก็ตาม แต่คงจะดีกว่านี้มากมายถ้าเราอยู่ร่วมกันได้ด้วยความสามัคคีคล้าย ๆ กับที่เมืองออโรวิลล์

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล