ฉบับที่ ๑๘๘ เดือนสิงหาคม ๒๕๖๑

ลาก่อนมนุษย์ป้า

หนึ่งชีวิต หนึ่งเรื่องราว
เรื่อง : กลุ่มดาวมีน

 

ลาก่อนมนุษย์ป้า
 

       “ความโกรธ” ไม่ว่าใคร ๆ ก็มีทั้งนั้น แต่โกรธขนาดรู้สึกว่าตัวเองเหมือนยักษ์คงไม่ได้มีกันทุกคน

     วันนี้ พรธิวา วงษ์สอาด (อ๋อ) ครูสอนวิชานาฏศิลป์-การละครในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งมาเปิดเผยเรื่องราวของเธอเพื่อเป็นธรรมทาน

      “อ๋อเป็นคนขี้โมโหมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ แค่พ่อมารับที่โรงเรียนช้า ก็หงุดหงิดแล้ว และถ้ามีใครมาทำให้ไม่ถูกใจจะโมโหมาก อย่างตอนเรียนมัธยมมีเพื่อนมาค้นกระเป๋าของเรา อ๋อโกรธมากกกกกกกถึงขนาดอยากบีบคอให้ตายเลย ทำไมถึงไร้มารยาทขนาดนี้ คือ อ๋อไม่รู้จักปล่อยวาง ไม่มีสติ จัดการกับอารมณ์ของตัวเองไม่ได้

       “มีอยู่ครั้งหนึ่ง อ๋อไปทานอาหาร เมนูที่สั่งไม่เป็นอย่างที่ต้องการ ตอนพนักงานมาคิดเงินเลยพูดกับเขาไปว่า ‘รสชาติแย่มาก’ ใช้น้ำเสียงทุ้มต่ำ ตาเขียวเหมือนยักษ์ พนักงานก้มหัวขอโทษแล้วหน้าเสียไปเลย ยังไม่พอ อ๋อยังตามไปคอมเมนต์ว่าเขาในเพจอีก ตอนนั้นอ๋อเป็นมนุษย์ป้า!!”


       ปี พ.ศ. ๒๕๔๘ ขณะศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เธอมีโอกาสเข้าค่ายสมาธิ ๗ วันกับชมรมสมาธิเพื่อชีวิต ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของเธอ และหลังจากได้เข้าวัดฟังธรรมทำทาน รักษาศีล ทำสมาธิต่อเนื่อง ไฟโทสะในใจที่มักปะทุออกมาทำร้ายจิตใจผู้อื่นและทำลายความสัมพันธ์อันดีกับผู้คนรอบข้างก็ค่อย ๆ บรรเทาลง

       “ชีวิตอ๋อเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นมากค่ะ การเรียนก็ดีขึ้น จากนั้นก็ฝึกนั่งสมาธิและรักษาศีลมาเรื่อย ๆ แต่ใจไม่ได้เย็นลงภายในไม่กี่วันนะคะแรก ๆ เวลาสอนนักเรียนก็ยังใจร้อนอยู่ ตอนฝึกประสบการณ์สอน ถ้าให้อ๋อสอนซ้ำ ๆ อ๋อจะหงุดหงิด ทำไมทำไม่ได้สักที ดุนักเรียนจนครูพี่เลี้ยงต้องบอกให้ใจเย็น ถึงดึงสติกลับมาได้

        “เข้าวัดหลายปีเลยค่ะถึงเย็นลงได้ขนาดนี้ แต่อ๋อว่าความโกรธมันยังอยู่นะคะ เพียงแต่เรามีสติมากขึ้น ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากขึ้น ไม่ก่อกรรมกับใครง่าย ๆ พยายามไม่ไปกระทบกับใครให้มากที่สุด ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะลูกหลวงพ่อเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมกันอยู่แล้ว”

       หลังจากทำสมาธิและปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อไปเรื่อย ๆ วันหนึ่งทุกคนก็เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนของเธอ

      “ตอนหลังอ๋อใจเย็นขึ้นมากค่ะ มีอยู่วันหนึ่งกำลังนั่งทำงานอยู่ดี ๆ มีครูคนหนึ่งเข้าใจเราผิด เข้ามาด่าเราอย่างนั้นอย่างนี้ ด่า ๆ ๆ ๆ เสียงดังมาก ในใจเราก็เดือดเหมือนกัน แต่มีสติพอ เราเลยนิ่ง เขาเห็นเรานิ่ง ก็เลยไม่รู้จะว่าอย่างไรต่อ เลยเสียหลักแล้วเดินจากไปเอง ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนเรื่องคงใหญ่และไม่จบง่าย ๆ ตายเป็นตาย ด่ามาด่ากลับ ไม่รอให้เขาพูดจบแน่นอนค่ะ”


      สมาธินอกจากช่วยให้มีสติดีขึ้นและใจเย็นขึ้นแล้ว ยังมีประโยชน์อีกมากมาย อาทิ ทำให้เราได้บุญ ช่วยให้มีความสุข ผ่อนคลายความเครียด ช่วยให้ผิวพรรณอ่อนเยาว์ สุขภาพดีและยังช่วยให้ความจำดีขึ้น สมองทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

      “การฝึกสมาธินอกจากทำให้เรานิ่งขึ้น ใจเย็นขึ้นแล้ว จากที่เป็นคนขี้หลงขี้ลืมไม่มีสติก็หายไปค่ะ ก่อนเข้าเรียนที่มศว อ๋อเรียนอยู่ที่วิทยาลัยนาฏศิลป์ เวลาเรียนจำอะไรไม่ค่อยได้เลยค่ะ เวลาครูต่อท่ารำเพลงต่าง ๆ ให้ ก็จำไม่ค่อยได้ ความจำแย่มาก ๆ

      “พอฝึกสมาธิแล้ว ความจำดีขึ้นมากเลยค่ะ เหมือนเกิดใหม่ มีละครอยู่เรื่องหนึ่งที่จะต้องสอบ บทยาวมาก ๆ เต็มหน้ากระดาษเลย ซึ่งต้องใช้ความจำล้วน ๆ ตอนนั้นเพื่อน ๆ ที่ได้รับบทนี้ไม่มีใครจำบทพูดได้หมดสักคน แต่อ๋อจำได้ Amazing มาก ๆ ค่ะ ทั้งรุ่นมีเราคนเดียวที่จำได้ จนเพื่อนสนิทที่เรียนจบมัธยมมาด้วยกันแปลกใจว่าทำไมเราถึงจำได้ ปกติไม่ใช่แบบนี้ก็เลยบอกเพื่อนไปว่านั่งสมาธิมา แล้วช่วงนั้นอ๋อนั่งสมาธิดีและต่อเนื่องด้วย

     “หลังจากเรียนจบมาทำงานแล้ว ถ้ามีโอกาสอ๋อจะหาเวลาไปชาร์จแบต ไปปฏิบัติธรรมบ่อย ๆ ไปแล้วมีพลังค่ะ ได้พักสมอง พักใจ ได้อารมณ์สบาย พร้อมที่จะกลับไปทำงานต่อเข้าพรรษานี้อ๋อก็ตั้งเป้านั่งสมาธิไว้ในใจแล้วค่ะ”

      สมาธิทำให้เกิดสิ่งดี ๆ มากมาย เปลี่ยนยักษ์หรือมนุษย์ป้าให้เป็นนางฟ้าก็ยังได้ แล้วเรื่องอะไรเราจะไม่นั่งสมาธิ

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล