ฉบับที่ ๑๙๔ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๒

จุดความสว่างในวันมาฆบูชา

เรื่องจากปก
เรื่อง : พระมหาศุภณัฐ จนฺทชโย ป.ธ. ๙

 

จุดความสว่าง ในวันมาฆบูชา

“บุญทั้งหลาย ย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายในโลกหน้า”
มาจากภาษาบาลีที่ว่า
“ปุญฺญานิ ปรโลกสฺมึ ปติฏฺฐา โหนฺติ ปาณินํ”
(สุ.องฺ. (บาลี) ๒๒ / ๓๖ / ๔๔)


      นับเป็นหลักธรรมที่ไม่ว่าจะผ่านกาลเวลาไปกี่ร้อยกี่พันปี ก็คงยังใช้กระตุ้นเตือนใจของเราได้เสมอ เพราะโลกหลังความตายจะเอาสมบัติพัสถานใด ๆ ติดตามตัวไปไม่ได้เลย

       ดังนั้น ในวันเพ็ญเดือน ๓ หรือ “วันมาฆบูชา” (๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒) ที่จะถึงนี้ จึงนับเป็นโอกาสอันดีในการสั่งสมบุญสำหรับใช้เป็นเสบียงเดินทางในสังสารวัฏอันยาวไกล โดยเฉพาะบุญอันเกิดจากการบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยโคมมาฆประทีป และยังได้ชื่อว่า ดำเนินรอยตามผู้มีบุญในกาลก่อน ที่ประพฤติปฏิบัติเป็นแบบอย่างและแบบแผนอันดีให้เราได้มาตามศึกษากัน ดังเรื่องราวอดีตชาติของพระมังคลพุทธเจ้า (อภิ.สํ.อ. ๗๕ / ๑ / ๑๑๑ - ๑๑๔) ที่ปรากฏในพระอภิธรรมปิฎกธรรมสังคณี ต่อไปนี้


      พระมังคลพุทธเจ้าในสมัยที่ยังบำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์อยู่นั้น ท่านได้เห็นพระเจดีย์ของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง แล้วเกิดจิตเลื่อมใสอย่างไม่มีประมาณ คิดอยู่ว่า“เราควรสละชีวิตบูชาพระพุทธเจ้าพระองค์นี้” จึงได้เอาไส้ประทีปชุบเนยใสจนชุ่ม แล้วเอาเนยใสใส่ถาดทองคำใบใหญ่ สูง ๑ ศอก มีราคาแสนกหาปณะจนเต็มถาด จากนั้นจึงพันสรีระด้วยไส้ประทีปนั้นดุจพันประทีปคบเพลิง แล้วใส่ไส้ประทีปในถาดนั้นด้วย พร้อมกับยกถาดทองคำทูนไว้เหนือเศียร แล้วจึงจุดประทีปที่ไส้ประทีปในถาดนั้น ทำให้ร่างกายทั้งสิ้นสว่างโพลง แล้วเวียนประทักษิณรอบพระเจดีย์นั้นตลอดคืนจนอรุณรุ่ง

     ด้วยอานุภาพแห่งบุญอันไม่มีประมาณนี้ เปลวประทีปที่แผดเผาสิ่งต่าง ๆ ให้เป็นจุณกลับไม่อาจพรากขนแม้เพียงเส้นเดียวของพระโพธิสัตว์ไปได้ กลับเป็นความรู้สึกเย็นสบายชุ่มฉํ่าปานประหนึ่งได้เข้าไปอาศัยอยู่ในกอดอกปทุม เพราะว่า “ธรรมแล ย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม” และผลบุญอันน่าอัศจรรย์นี้ก็อำนวยอวยผลให้พระโพธิสัตว์ประสบความสุขความสำเร็จระหว่างเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ และในพระชาติสุดท้ายได้ตรัสรู้ธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า “มังคลพุทธเจ้า” ที่พิเศษยิ่งไปกว่านั้นพระฉัพพรรณรังสี (รัศมี ๖ ประการ) ที่แผ่ออกจากพระวรกายของพระองค์ มีการแผ่ออกไปตลอดหมื่นโลกธาตุตลอดกาลเป็นนิจทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ภูเขา มหาสมุทร เป็นต้น ก็เป็นเหมือนถูกหุ้มไว้ด้วยแผ่นทองคำ ซึ่งพระฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้าพระองค์อื่น ๆ แผ่ออกไปได้ประมาณ ๘๐ ศอกเท่านั้น


   ดังนั้น จึงขอเชื้อเชิญผู้มีบุญทุกท่าน ผู้มีไฟในใจที่จะจรรโลงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองดั่งครั้งพุทธกาล มาร่วมกันเอาบุญใหญ่ทุกบุญ และจุดโคมมาฆประทีปเป็นพุทธบูชา ณ ลานธรรมพระมหาธรรมกายเจดีย์ พระมหาเจดีย์พระพุทธเจ้าล้านพระองค์ เพราะบุญที่เนื่องด้วยพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หากจิตเลื่อมใสเท่ากัน ไม่ว่าพระองค์จะมีพระชนม์ชีพอยู่หรือไม่ก็ตาม ผลบุญย่อมมีอานิสงส์เสมอกัน

     ดังปรากฏในพระสุตตันตปิฎกที่ว่า “ติฏฺฐนฺเต นิพฺพุเต วาปิ สเม จิตฺเต สมํ ผลํ, เจโตปณิธิเหตู หิ สตฺตา คจฺฉนฺติ สุคฺคตึ [ขุ.วิ. (บาลี) ๒๖ / ๔๗ / ๘๒ - ๘๓] แปลว่า “เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังพระชนม์อยู่ก็ดีปรินิพพานแล้วก็ดี เมื่อจิตเสมอกัน ผลก็ย่อมมีเสมอกัน, เพราะว่าสัตว์ทั้งหลายย่อมไปสู่สุคติ เพราะเหตุแห่งความตั้งมั่นแห่งจิต”

     นอกจากสาธุชนที่มาร่วมงานจะได้จุดประทีปเป็นพุทธบูชาในตอนค่ำแล้ว ยังมีงานบุญตลอดทั้งวัน เช่น พิธีตักบาตร นั่งสมาธิเจริญภาวนา สวดธรรมจักร และมีพิธีมอบโล่รางวัลการตอบปัญหาธรรมะทางก้าวหน้าดังนั้นให้เราเตรียมใจใส ๆ มารองรับบุญใหญ่กันทุก ๆ คน...

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล