ฉบับที่ 131 กันยายน ปี 2556

๙๖ ปี วันครูวิชชาธรรมกาย

ทบทวนบุญ
เรื่อง : พราวน้ำเพชร

 

ทบทวนบุญ

 

           คืนวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ พระจันทร์เต็มดวงทอแสงงามสว่างไสว มักเป็นคืนที่ผังสำเร็จของผู้มีบารมีแก่กล้าสัมฤทธิผลเป็นอัศจรรย์...

           ดังเช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรง  มีวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ตรงกับ  วันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ แม้วันแสดงปฐมเทศนา  (วันอาสาฬหบูชา) วันที่ทรงประทานโอวาทปาติโมกข์ (วันมาฆบูชา) ก็ตรงกับวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เช่นกัน

           สองพันกว่าปีหลังพุทธกาล ก็มี “วันเพ็ญ” ที่สำคัญอย่างยิ่งปรากฏขึ้นเช่นกัน วันเพ็ญนี้นับเป็นวันเริ่มต้นแห่งการพลิกผันชีวิตของมวลมนุษยชาติในยุคปัจจุบันเลยทีเดียว

 

ทบทวนบุญ

 

          ย้อนไปเมื่อ ๙๖ ปีที่ผ่านมา เมื่อวันเพ็ญ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ พ.ศ. ๒๔๖๐ หลังจากลงอุโบสถเพื่อฟังพระปาติโมกข์แล้ว พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงปู่วัดปากน้ำ  ภาษีเจริญ  พระผู้ปราบมาร ซึ่งขณะนั้นบวชได้ ๑๒ พรรษา ก้าวเดินเข้าไปยังอุโบสถวัดโบสถ์ (บน) ตำบล  บางคูเวียง  อำเภอบางกรวย  จังหวัดนนทบุรี   ด้วยจิตมุ่งมั่นที่จะกระทำความเพียรให้รู้เห็นของจริงในพระพุทธศาสนา

          ท่านนั่งลงเบื้องหน้าองค์พระประธาน แล้วตั้งสัจจาธิษฐานเอาชีวิตเป็นเดิมพันว่า “ถ้าเรานั่งลงไปครั้งนี้ ไม่เห็นธรรมที่พระพุทธเจ้าต้องการ เป็นอันไม่ลุกจากที่นี้จนหมดชีวิต” จากนั้นบำเพ็ญเพียรอย่างกลั่นกล้าจนกระทั่งบรรลุธรรมกาย นำวิชชาธรรมกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากลับคืนมาสู่ โลกนี้อีกครั้งหนึ่ง

          เมื่อค้นพบวิชชาธรรมกายแล้ว พระเดชพระคุณหลวงปู่เลือกที่จะเผยแผ่วิชชาธรรมกาย ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปสู่ใจมหาชน แทนที่จะหลีกเร้นไปบำเพ็ญเพียรตามลำพังในป่าเขาดังเช่นพระปฏิบัติในยุคนั้น ทั้งนี้ด้วยความเมตตาอยากให้มนุษย์ทุกคนมีที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง

           เมื่อออกพรรษาแล้ว ท่านเดินทางไปสอนธรรมปฏิบัติที่วัดบางปลา อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม สอนอยู่ราว ๆ ๔ เดือน มีพระภิกษุ ๓ รูป และคฤหัสถ์ ๔ คน เข้าถึงพระธรรมกาย ถือเป็นพยานชุดแรกในการบรรลุธรรมของท่าน

           นับจากนั้น พระเดชพระคุณหลวงปู่ทุ่มเทศึกษาค้นคว้าวิชชาธรรมกายไปพร้อม ๆ กับสอนธรรมปฏิบัติเผยแผ่วิชชาธรรมกายจนตลอดชีวิต

          การเผยแผ่วิชชาธรรมกายเป็นสิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นนอกจากทุ่มเทสอนธรรมปฏิบัติด้วยตนเองแล้ว ท่านยังส่งลูกศิษย์ออกไปสอนธรรมปฏิบัติตามจังหวัดต่าง ๆ ด้วย ทำให้ผู้คนหันมาใส่ใจปฏิบัติธรรมกันอย่างแพร่หลายเป็นประวัติการณ์ และมีผู้เข้าถึง พระธรรมกายเป็นจำนวนมาก ซึ่งนอกจากเป็นการยืนยันว่า มรรค ผล นิพพาน เป็น “อกาลิโก” คือ ไม่จำกัดกาลเวลาแล้ว ยังทำให้ผู้คนเกิดความเชื่อมั่นว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีจริง คำสอนของ     พระสัมมาสัมพุทธเจ้าดีจริง ปฏิบัติตามได้จริง

          การทุ่มเทเผยแผ่วิชชาธรรมกายของท่าน ช่วยพลิกผันชีวิตของมหาชนจากที่เคยตกอยู่ใน  โลกมืดให้ก้าวไปสู่โลกที่สว่างไสว จากที่เคยล่องลอยเคว้งคว้างไปตามยถากรรมให้มีพระรัตนตรัยเป็น  ที่พึ่งที่เกาะ

 

ทบทวนบุญ

 

          หากไม่มีพระเดชพระคุณหลวงปู่ ชาวโลกยุคนี้จะไม่รู้จัก “ธรรมกาย” ไม่รู้จัก “ศูนย์กลางกาย” และไม่มีโอกาสเข้าถึง “ธรรมกาย” เพราะความรู้เรื่องธรรมกายเลือนหายไปเป็นเวลานานถึง ๒,๐๐๐ กว่าปีแล้ว ถึงแม้มีคำว่าธรรมกายปรากฏอยู่ใน พระไตรปิฎก แต่ก็ไม่มีวิธีปฏิบัติเพื่อเข้าถึงธรรมกายบ่งบอกไว้แต่อย่างใด

          ความลับของชีวิตเรื่อง “ธรรมกาย” จึงถูกปิดตายเหมือนมีใครเอากุญแจมาล็อกไว้แล้วขว้างกุญแจทิ้งไปเลย การที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ ค้นพบวิชชาธรรมกาย จึงเหมือนกับท่านเอากุญแจมาปลดล็อกเรื่องราวที่เป็นความลับสุดยอดของชีวิต ทำให้ผู้คนในยุคนี้รู้จัก “ธรรมกาย” รู้วิธีเข้าถึง “พระธรรมกาย” ซึ่งเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันประเสริฐที่มีอยู่ในตัวของมนุษย์ทุกคน

 

ทบทวนบุญ

 

           สิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ค้นพบเป็นความจริงที่ยิ่งใหญ่ในสังสารวัฏ และเป็นสิ่งที่  รู้เห็นได้ยากยิ่ง ต้องเป็นผู้มีบารมีธรรมมากจึงจะสามารถรู้เห็นได้ พระเดชพระคุณหลวงปู่จึงเป็น มหาปูชนียาจารย์ผู้นำแสงสว่างมาสู่โลกและจักรวาล เป็นผู้นำสิ่งที่ดีที่สุดมามอบแก่มวลมนุษยชาติ และการที่ท่านนำสัจธรรมที่ท่านค้นพบมาเปิดเผย กนับเป็นมหากรุณาของท่านที่มีต่อชาวโลกทั้งมวล พระคุณของท่านจึงมากล้นเกินกว่าจะพรรณนา    ได้หมด แม้โลกใบนี้จะสลายลงไปแล้ว และกลับ  ตั้งขึ้นมาใหม่ ก็ไม่มีใครสามารถทดแทนพระคุณ  ของท่านได้หมดสิ้น

           นอกจากนี้ ท่านยังเป็นยอดกัลยาณมิตร   ที่นำพาชีวิตเราให้สูงส่งยิ่งขึ้น ทำให้เราทั้งหลาย รู้จักหนทางพระนิพพาน รู้ว่าคนเราเกิดมาทำไม อะไรคือเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต และรู้วิธีที่จะทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง บริสุทธิ์บริบูรณ์ยิ่ง ๆ ขึ้นไป

           การที่เราได้มาพบท่านหรือได้ยินคำสอนของท่าน จึงถือเป็นบุญลาภอันประเสริฐ และนับได้ว่า เราคือผู้มีบุญมากคนหนึ่ง

 

พระเดชพระคุณหลวงปู่
จึงเป็นมหาปูชนียาจารย์
ผู้นำแสงสว่างมาสู่โลก
และจักรวาล เป็นผู้นำสิ่งที่ดีที่สุดมามอบแก่
มวลมนุษยชาติ

 

ทบทวนบุญ

 

          ดังนั้น “วันครูวิชชาธรรมกาย” หรือ  วันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ จึงเป็นวันมหามงคล ที่ไม่เพียงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพระเดชพระคุณหลวงปู่เท่านั้น แต่ยังมีความหมายและความสำคัญต่อพระพุทธศาสนา ต่อชีวิตของเราและมวลมนุษยชาติ ด้วย ดังที่คุณครูไม่ใหญ่เคยกล่าวไว้เมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๔ ว่า

          “วันนี้เป็นวันที่สำคัญสำหรับพระเดชพระคุณหลวงปู่ แม้ท่านละจากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม ยามใดที่ถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ท่านจะหวนนึกถึงสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ที่ได้สละชีวิตเป็นปรมัตถบารมี ได้ค้นคว้าคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้หวนกลับคืนมาใหม่ ท่านปลื้มใจทั้งที่อยู่ในเมืองมนุษย์และในเทวโลก เพราะฉะนั้นวันนี้จึงเป็นวันสำคัญ ที่ลูกทุกคนซึ่งเป็นลูกหลานของท่าน จะอยู่ในสายตาของท่านตลอด เพราะฉะนั้นให้ลูกทุกคนตั้งใจตรึกระลึกนึกถึงพระเดชพระคุณหลวงปู่ด้วยจิตที่เลื่อมใส ด้วยความเคารพเทิดทูนอันสูงสุดอย่างไม่มีประมาณ”

 

ทบทวนบุญ

 

          ด้วยเหตุนี้ ใน “วันครูวิชชาธรรมกาย”  ซึ่งปีนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๖ วัดพระธรรมกายจึงจัดพิธีบูชาครูวิชชาธรรมกาย เพื่อบูชาพระคุณอันหาที่เปรียบมิได้ของท่าน และเพื่อแสดงความเคารพรัก ความกตัญญูกตเวทีต่อท่าน

 

ทบทวนบุญ

 

ทบทวนบุญ

 

           นอกจากนี้ ยังมีพิธีอัญเชิญรูปหล่อทองคำพระเดชพระคุณหลวงปู่ ที่พวกเราอัญเชิญท่าน เวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์ เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๖ เข้าประดิษฐานในมหาวิหาร พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) เป็นการถาวร  ให้รูปหล่อทองคำของท่านสถิตสถาพรคู่โลกตราบสิ้นกาลนาน เพื่อเป็นเครื่องสักการบูชาของมนุษย์และเทวาสืบไป

          บุญใหญ่ที่เราพร้อมใจกันบูชาครูวิชชาธรรมกายและอัญเชิญรูปหล่อทองคำพระเดช-พระคุณหลวงปู่ประดิษฐานในมหาวิหารฯ ด้วยความเคารพเลื่อมใสอย่างไม่มีประมาณนี้ จะไปเชื่อมโยงสายบุญ สายสมบัติ และวิชชาธรรมกายจากท่านมาสู่ตัวเรา ท่านไปบังเกิดที่ไหน เราก็ไปเกิดที่นั่น เพื่อไปสร้างบารมีและศึกษาวิชชา   ธรรมกายกับท่าน ธรรมอันใดที่ท่านบรรลุ เราจะมีส่วนในการบรรลุธรรมนั้นด้วย และจะเป็นผู้ที่สมบูรณ์ด้วยมนุษยสมบัติอันเลิศ ทิพยสมบัติอันโอฬาร และนิพพานสมบัติอันประเสริฐ จะถึงพร้อมด้วยที่สุดแห่งรูปสมบัติ ที่สุดแห่งทรัพย์สมบัติ ที่สุดแห่งคุณสมบัติ ที่สุดแห่งลาภ ยศ สรรเสริญ สุข มรรค ผล นิพพาน และได้บรรลุวิชชาธรรมกายไปทุกชาติ ตราบวันถึงที่สุดแห่งธรรม

 

ทบทวนบุญ

 

          วันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ เมื่อ ๙๖ ปี ที่ผ่านมา พระเดชพระคุณหลวงปู่เอาชีวิตเป็น   เดิมพันปฏิบัติธรรมจนกระทั่งบรรลุธรรมกาย     นำวิชชาธรรมกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากลับคืนมาสู่โลกนี้อีกครั้งหนึ่ง

          วันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีนี้ หลังจากที่เราเข้าร่วมพิธีกรรมต่าง ๆ มาตลอดทั้งวัน เริ่มตั้งแต่ร่วมพิธีบูชาครูวิชชาธรรมกาย พิธีอัญเชิญรูปหล่อทองคำหลวงปู่ประดิษฐานในมหาวิหารฯ และร่วมใจกันทำบุญสร้างมหาทานบารมีเพื่อหล่อหลวงปู่ทองคำองค์ที่ ๗ แล้ว หากค่ำคืนเพ็ญอันศักดิ์สิทธิ์และทรงพลานุภาพนี้ เราทุ่มเททำสมาธิภาวนายิ่งขึ้นกว่าปกติ นอกจากจะทำให้บุญบารมีของเราแก่กล้าขึ้น และผังสำเร็จแห่งการบรรลุธรรมหนาแน่นขึ้นแล้ว พระเดชพระคุณหลวงปู่ที่เล็งแลพวกเราอยู่ ก็จะปลื้มอกปลื้มใจว่า เราให้ความสำคัญกับวิชชา ธรรมกายที่ท่านสละชีวิตค้นพบมา และปฏิบัติตนได้สมกับเป็นลูกหลานของมหาปูชนียาจารย์ผู้เห็นธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสำคัญยิ่งกว่าชีวิต..

 

ทบทวนบุญ


คืนวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ พระจันทร์เต็มดวงทอแสงงามสว่างไสว
มักเป็นคืนที่ผังสำเร็จของผู้มีบารมีแก่กล้าสัมฤทธิผลเป็นอัศจรรย์

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล