ฉบับที่ ๒๐๕ เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๖๓

ทอดผ้าป่าต้นสมบัติจักรพรรดิ ๒๑๔ ศูนย์ส่งเสริมศีลธรรมทั่วโลก

ทบทวนบุญ
เรื่อง : พระมหาศุภณัฐ จนฺทชโย ป.ธ.๙

 

ทอดผ้าป่าต้นสมบัติจักรพรรดิ ๒๑๔ ศูนย์ส่งเสริมศีลธรรมทั่วโลก


      กลางวันมิอาจขาดตะวัน กลางคืนนั้นก็มิอาจขาดจันทรา ด้วยว่าทั้ง ๒ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่คงอยู่ขนานคู่โลกมานานแสนนาน หากวันใดเกิดผิดแผกแตกต่างไป คงจะไม่มีคำว่า “กลางวันและกลางคืน”


    ชีวิตคนก็เฉกเช่นเดียวกัน บางเวลาก็สว่างสดใสสมปรารถนา บางเวลาก็มืดมนหมองเศร้า เป็นเสมือนเหรียญที่มี ๒ ด้าน ที่มิอาจแน่ใจได้เลยว่า เวลาใดจะออกหัว เวลาใดจะออกก้อย ซึ่งคำตอบของคำถามนี้ องค์สมเด็จพระจอมมุนีได้ทรงค้นพบและตรัสไว้อย่างแจ่มชัดแล้วว่า “บุญและบาป” นี้แหละ คือ ตัวเหตุตัวปัจจัยที่คอยชักใยกลไกชีวิตของพวกเราท่านทั้งหลายให้ประสบพบเจอเรื่องราวทั้งดีและไม่ดีแตกต่างกันไป


       ด้วยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องของบาปว่าเป็นสิ่งที่พึงละ และบุญว่าเป็นสิ่งที่จำต้องทำให้เกิด ให้มี และให้เจริญในตน วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี จึงได้จัดงานบุญอยู่เสมอ และในวันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ นี้ ก็จัดงานบุญวันอาทิตย์ต้นเดือน โดยมีพิธีตักบาตร พิธีปฏิบัติธรรมสาย-บ่าย พิธีบูชาข้าวพระ พิธีกล่าวคำถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน พิธีทอดผ้าป่าต้นสมบัติจักรพรรดิ พิธีมอบต้นสมบัติจักรพรรดิ ปีที่ ๘ พิธีบูชาพระมหาธรรมกายเจดีย์และบูชามหาปูชนียาจารย์ เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พิธีทอดผ้าป่าต้นสมบัติจักรพรรดิ ปีที่ ๘ นั้น ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อประโยชน์เกื้อกูลในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายไปทั่วโลก โดยได้มอบถวายกองทุนต้นสมบัติเหล่านี้แด่เจ้าอาวาสและประธานสงฆ์ที่ปฏิบัติพุทธศาสนกิจประจำอยู่ที่ศูนย์ส่งเสริมศีลธรรมทั่วโลก ซึ่งต้นสมบัติทั้งหลายเหล่านี้จะได้แปรเปลี่ยนเป็นแรงกาย แรงใจ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการสร้างบารมีแก่ผู้ที่จรมาจากทุกสารทิศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระภิกษุ-สามเณร อุบาสกและอุบาสิกา ที่ปฏิบัติศาสนกิจ ณ ที่นั้น ๆ ก็จะได้มีความสะดวกราบรื่นในการทำหน้าที่ยอดกัลยาณมิตรจุดประทีปธรรมให้สว่างไสวในใจตนและหมู่ชนผู้กระหายใฝ่รู้ธรรม  อาจเรียกได้ว่าต้นสมบัติจักรพรรดิเหล่านี้ เป็นประหนึ่งแก้วชัยที่มาในห้วงเวลาที่ต้องการชัยชนะ พร้อมอำนวยอวยกุศลให้เกิดสิ่งที่น่าพอใจ ดี เลิศ และประเสริฐ แด่ผู้ที่ได้รับไป และการบำเพ็ญกุศลที่ยิ่งใหญ่นี้ ก็จะทำให้บังเกิดผลอันยิ่งใหญ่แก่ผู้ให้อีกเช่นกัน สมดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า

ผู้ให้ของที่พอใจ ย่อมได้ของที่พอใจ
ผู้ให้ของที่เลิศ ย่อมได้ของที่เลิศ
ผู้ให้ของที่ดีย่อมได้ของที่ดี และผู้ให้ของ
ที่ประเสริฐ ย่อมเข้าถึงสถานที่ประเสริฐ

องฺ ปญฺจก. (ไทย) ๓๖/ ๔๔/ ๑๐๒


      ท้ายที่สุดนี้ ผู้เขียนพร้อมทั้งทีมงานทุกท่านขออนุโมทนาบุญกับผู้มีบุญทุกท่าน ที่ได้ผนึกหลอมรวมใจเป็นหนึ่ง จึงทำให้ภาพงานของพุทธศาสนาก้าวไปข้างหน้าอีกหลายก้าว และใช่หรือไม่ว่า ภาพที่ชัดเจนที่สุด คือ ภาพที่ปรากฏในใจของทุกท่านเอง ดังนั้นภาพแห่งความดีนี้แหละจะเป็นเพื่อนในยามเหงา เป็นพี่ในยามเศร้าและต้องการกำลังใจ อีกทั้งยังเป็นหลักประกันชีวิตชั้นเยี่ยมที่สุดที่จะนำไปใช้ในสัมปรายภพได้ จึงได้ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านมา ณ โอกาสนี้
 

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล