นิทานอีสป พร้อมคติสอนใจ

สรรพสัตว์กับโรคระบาด

นิทานอีสป เรื่อง สรรพสัตว์กับโรคระบาด
ผู้แต่ง : อีสป
 


               กาลครั้งหนึ่ง มีโรคระบาดร้ายแรงเกิดขึ้นท่ามกลางหมู่สัตว์ทั้งหลาย หลายตัวต้องตายไป ส่วนที่รอดก็ป่วยหนักจนพวกมันไม่สนใจที่จะหากินและดื่มน้ำ อีกทั้งยังต้องลากสังขารไปมาอย่างเชื่องซึม แม้แต่ไก่สาวอ้วนพีก็ยังไม่อาจยั่วน้ำลายเพื่อเป็นมื้อเย็นจองเจ้าจิ้งจอก ลูกแกะเนื้อนุ่มก็ไม่กระตุ้นความอยากอาหารให้หมาป่าจอมตะกละ

               ท้ายที่สุด สิงโตก็ตัดสินใจเรียกประชุม เมื่อสัตว์ทุกตัวมารวมตัวกันมันก็ยืนขึ้นและกล่าวว่า

               "เพื่อนรักทั้งหลาย ข้าเชื่อว่าพระเจ้าส่งโรคระบาดนี้มาเพื่อลงโทษในบาปชองพวกเรา ดังนั้นสัตว์ที่ทำผิดที่สุดในหมู่เราจะถูกนำไปบูชายัญ บางทีเราอาจจะได้รับการอภัยและเป็นการเยียวยาสัตว์ทุกตัว"

               "ข้าจะสารภาพบาปของข้าก่อน ข้ายอมรับว่าข้าตะกละและสวาปามแกะไปมากมาย พวกมันไม่ได้เป็นภัยแกข้าเลย ข้ากินแพะ วัวป่า และกวาง ถ้าจะว่าไปแล้วบางครั้งบางคราวข้าถึงขั้นกินคนเลี้ยงแกะด้วย"

               "ทีนี้ หากข้าเป็นสัตว์ที่ผิดมากที่สุด ข้าก็พร้อมจะถูกบูชายัญ แต่ข้าคิดว่ามันจะดีที่สุดหากให้แต่ละตัวสารภาพบาปของตนเองเหมือนอย่างที่ข้าทำ จากนั้นพวกเราค่อยตัดสินอย่างยุติธรรมว่าใครคือผู้ที่ทำผิดมากที่สุด"

               "ท่านผู้สูงส่ง" หมาจิ้งจอกเอ่ย "ท่านดีเกินไป การกินแกะกับเจ้าแพะหน้าโง่มันจะเป็นอาชญากรรมไปได้ยังไง ไม่ ไม่เลยขอรับท่าน ท่านให้เกียรติพวกมันด้วยซ้ำที่กินมันเข้าไปน่ะ"

               "และว่าด้วยเรื่องที่เกี่ยวกับคนเลี้ยงแกะ พวกเราทุกตัวต่างรู้ดีว่าพวกเขาก็เป็นแค่เผ่าพันธุ์เล็กกระจ้อยร่อยที่แสร้งทำเป็นเจ้านายของพวกเราเท่านั้นเอง"

               สัตว์ทุกตัวปรบมือให้เจ้าหมาจิ้งจอก จากนั้นทั้งเสือ หมี หมาป่า และสัตว์ดุร้ายทั้งหลายก็พร่ำพรรณนาถึงความเลวร้ายที่สุดที่พวกมันทำ ซึ่งทั้งหมดได้รับการอภัยและดูจะบริสุทธิ์ไร้เดียงสาราวกับการกระทำของนักบุญ

               ทีนี้ก็มาถึงคราวของลาที่จะสารภาพ

               "ข้าจำได้ดี" มันกล่าวด้วยความรู้สึกผิด "ว่าวันหนึ่ง ข้าเดินผ่านทุ่งหญ้าซึ่งเป็นของนักบวช หญ้านุ่มๆ และความหิวโหยช่างเชิญชวนข้ายิ่งนักจนข้าอดใจไม่ไหวต้องและเล็มหญ้านั้นเข้าไปเล็กน้อย ข้าไม่มีสิทธิ์จะทำอย่างนั้น ข้าขอยอมรับ..."

                เสียงคำรามของเหล่าสัตว์ป่าดังสนั่นขัดคอเจ้าลา นี่เองวายร้ายที่นำมาซึ่งความหายนะของหมู่สัตว์ทั้งปวง ช่างเป็นอาชญากรรมชั่วช้าเสียนี่กระไรที่กินหญ้าซึ่งเป็นของคนอื่น แค่นั้นก็เพียงพอที่จะแขวนคอใครสักคนได้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งลาตัวหนึ่ง

                ทันใดนั้น สัตว์ทั้งหลายก็เข้ามากลุ้มรุมเจ้าลาโดยมีหมาป่าเป็นผู้นำ ไม่นานเจ้าลาก็พบจุดจบ ร่างของมันถูกบูชายัญแด่พระเจ้าอย่างไม่รอช้า โดยไม่ต้องมีแท่นบูชาอย่างเป็นพิธีการใดๆ ทั้งสิ้น

 

:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
ผู้อ่อนแอถูกลิขิตมาให้เจ็บปวดจากการกระทำอันชั่ว

:: พุทธภาษิต ::
อถ ปาปานิ กมฺมานิ กรํ พาโล น พุชฺฌติ
เสหิ กมฺเมหิ ทุมฺเมโธ อคฺคิทฑฺโฒว ตปฺปติ.
เมื่อคนโง่มีปัญญาทราม ทำกรรมชั่วอยู่ก็ไม่รู้สึก
เขาเดือดร้อนเพราะกรรมของตน เหมือนถูกไฟไหม้.

(พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/ ๓๓.

 



THE ANIMALS AND THE PLAGUE

              Once upon a time a severe plague raged among the animals. Many died, and those who lived were so ill, that they cared for neither food nor drink, and dragged themselves about listlessly. No longer could a fat young hen tempt Master Fox to dinner, nor a tender lamb rouse greedy Sir Wolf's appetite.

                 At last the Lion decided to call a council. When all the animals were gathered together he arose and said:

               "Dear friends, I believe the gods have sent this plague upon us as a punishment for our sins. Therefore, the most guilty one of us must be offered in sacrifice. Perhaps we may thus obtain forgiveness and cure for all."

           "I will confess all m sins first. I admit that I have been very greedy and have devoured many sheep. They had done me to harm. I have eaten goats and bulls and stags. To tell the truth, I even ate up a shepherd now and then.

              "Now, if I am the most guilty, I am resdy to be sacrificed. But I think it best that each one confess his sins as I have done. Then we can decide in all justice who is the most guilty."

              "You majesty," said the Fox, "you are too good. can it be a crime to eat sheep, such stupid mutton heads? No, no, your majesty, You have done them great honor by eating them up."

               "And so far as shepherds are concerned, w all knoe they belong to that puny race that pretends to be our masters."

                  All the animals applauded the Fox loudly. Then, Though the Tiger, the Bear, the Wolf, and all the savage beasts recited the most wicked deeds, all were excused and made to appear very saint-like and innocent.

                   It was now the Ass's turn to confess.

                   "I remember," he said guiltily, "that one day as I was passing a field belonging to some priests, I was so tempted by the tender grass and my hunger, that I could not resist nibbling a bit of it. I had no right to do it, I admit-"

                A great uproar among the beasts interrupted him. Here was the culprit who had brought misfortune on all of them! What a horrible crime it was to eat grass that belonged to someone else! It was enough to hang anyone for, much more an Ass.

                   Immediately they all fell upon him, the Wolf in the lead, and soom had made an end to him, sacrificing him to the gods then and there, and without the formality of an altar.

 

:: The moral of this story is ::
The weak are made to suffer for the misdeeds of the powerful.

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -
 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล