เจ้าช้างเกเรเดินจากไป ไม่แยแสต่อความปวดร้าว เฉกเช่นสตรีเพศ ไม่ว่าคนหรือสัตว์ก็ย่อมรักลูกตนเป็นธรรมดา จิตใจของนางนกไส้แตกสลาย ไปพร้อมกับกายที่แหลกเละของลูกน้อย อนิจจา น่าสงสารนางนกไส้ ที่ต้องแลเห็นลูกน้อยถูกบดขยี้ตายอย่างน่าอนาจต่อหน้าต่อตา โดยที่ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรลูกน้อยได้เลย
"โธ่ ลูกรักของแม่ ทำไมถึงได้โหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ลูกของเราตัวนิดเดียว แต่ยังฆ่าได้ลงคอ เจ้าช้างเชือกนี้ใช้กำลังกายอันมหาศาล ฆ่าลูกของเราได้ คอยดูเถอะ เราก็ใช้กำลังที่มีเพียงน้อยนิดของนกเช่นเรานี่แหละ แก้แค้นเจ้าให้สุดเหมือนกัน ลูกแม่ แม่จะแก้แค้นให้เจ้า แม่จะแก้แค้นให้เจ้าเอง"
เสียงร้องคร่ำครวญด้วยความโศกเศร้า บัดนี้กลายเป็นความอาฆาตจองเวรไปซะแล้ว นางจึงคิดวางแผนอุบายในทันที นางนกไส้ไม่รอช้า ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พ่อกาฟัง และขอให้พ่อกาให้ช่วยเหลือแก่นาง
"ข้าแต่พ่อกา ข้านี้มาขอความช่วยเหลือจากเจ้า ขอให้เจ้าช่วยเอาจะงอยปากจิกในตาทั้งสองข้างของช้างเชือกเชือกหนึ่ง ที่มักหากินตามลำพังเพียงเชือกเดียวจักได้หรือไม่"
"ได้สินางนกไส้ ฮ่าๆ เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะจัดการมันให้สาสมเลยทีเดียว"
"ขอบใจท่านมาก"
เมื่อนางนกไส้ ขอร้องกาเสร็จแล้ว จึงบินไปหาแมลงวันหัวเขียวให้ช่วยเหลือนางแก้แค้นช้างเกเรเชือกนั้นต่อในทันที
"มาหาข้าถึงที่นี่ จะให้ข้าช่วยอะไรก็บอกมาเถิด แม่นกไส้ผู้น่าสงสาร"
"ข้ามาขอร้องท่าน เมื่อในตาทั้งสองของเจ้าช้าง โดนพ่อกาจิกแตกแล้ว ข้าขอให้ท่านช่วยไปไต่ตอม และหยอดไข่ของท่านลงในตาของช้างเชือกนั้นจะได้หรือไม่"
"ได้สิ เรื่องแค่นี้ทำไมจะช่วยท่านไม่ได้ล่ะ สบายอยู่แล้ว เดี๋ยวข้าจะให้พรรคพวกข้ามาช่วยตอมอีกแรง ฮ่าๆๆ"
"ขอบใจเจ้ามากนะ เจ้าแมลงวัน"
จากนั้นนางก็บินไปหากบตัวหนึ่งที่ริมบึงใหญ่ในป่า เพื่อขอความช่วยเหลือเช่นกัน
"ข้ามาขอความช่วยเหลือจากท่าน"
"เจ้ามาขอความช่วยเหลือจากข้าด้วยเรื่องอันใด"
"หากท่านพบเห็นช้างเชือกหนึ่งตาบอด เที่ยวเซาะหาน้ำดื่ม ข้าขอให้ท่านไปขอบเกาะข้างๆ ปากเหว เมื่อช้างนั้นขึ้นถึงยอดเขา ก็ให้ท่านส่งเสียงร้องที่ปากเหวนั่น ท่านจะช่วยเหลือข้าได้หรือไม่"
"ได้สิ ข้าก็ได้ยินว่าช้างตัวนั้นเที่ยวเกะกะเกเรไปทั่ว ตายเสียได้คงจะดี ฮ่าๆๆ"
เมื่อครั้นวางแผนแล้ว นางนกไส้ จึงออกบินตามหาช้างเกเรเชือกนั้นทันที ในที่สุดก็พบตัวเข้าจนได้
"นั่นไงพ่อกา เจ้าข้างเกเรมันอยู่ตรงชายป่านั่น ท่านไปจัดการจิกตามันเลยนะ ระวังตัวนะท่าน"
"ฮ่าๆๆ สบายมาก เสร็จข้าล่ะ"
พ่อกาบินด้วยความคล่องแคล่วว่องไว โฉบใช้จะงอยปากอันแหลมคม บรรจงจิกเข้าไปที่ตาทั้งสองข้างของเจ้าช้างอย่างแม่นยำ ในตาดำแตกทะลัก เลือดสีแดงฉานไหลอาบเสมือนหนึ่งน้ำตาแห่งความเจ็บปวดแสนสาหัส ตาของมันบอดสนิท
"จิกๆๆๆ นี่แน่ะ เกเรนักใช่ไหม ทีนี้เจ้าได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดทรมานเป็นยังไง"
ช้างเกเรส่งเสียงร้องอย่างทรมาน ดังสะท้านไปทั่วทั้งป่า มันเดินโซซัดโซเซอย่างไม่มีจุดหมาย ส่วนเจ้ากาก็บินกลับอย่างไม่ใยดี ไม่นานช้าพวกแมลงวันหัวเขียวก็พร้อมทำหน้าที่ของมันตามที่ตกลงกับนางนกไส้ไว้
"ฮ่าๆๆ เอาเลยพวกเรา เป้าหมายที่ตาเจ้าช้าง หยอดไข่ชอนไชตามันให้เน่าไปเลย"
"ออกไปเจ้าพวกแมลงวัน อย่ามาตรอมตาข้า จะทำอย่างไรดี ทรมานเหลือเกิน โอ้ย ปวดตาไปหมดแล้ว"
วิบากกรรมที่เจ้าช้างทำไว้ยังไม่เจือจาง บัดนี้มันไม่สามารถช่วยตัวเองได้เลย ต้องเดินหิวโซโดยไม่รู้ทิศทาง แสงตะวันอันแรงกล้าสาดส่องจนช้างเกเรอ่อนแรงเพราะความกระหายน้ำ
"กระหายน้ำเหลือเกินตาก็ปวด ทำไมถึงได้ทรมานเช่นนี้นะ นั่นเสียงกบร้องนี่นา รอดตายแล้วเรา ข้างหน้าน่าจะเป็นหนองน้ำแน่เลย เดินตามเสียงกบไปดีกว่า ถึงตาข้าจะบอด แต่หูข้าก็ยังดี ไม่ตายง่ายๆ หรอก ไหนน้ำอยู่ไหน"
จนในที่สุดวินาทีสุดท้ายของช้างก็มาถึง เสียงกบที่มันหลงคิดว่าอยู่ในแหล่งน้ำ แท้ที่จริงคือเสียงเรียกของพญามัจจุราชนั่นเอง เจ้าช้างเดินปรี่เข้าไปยังเสียงอย่างรุกรน
อนิจจา ช้างเกเรตกหน้าผาตายอย่างอนาจ ร่างกายของมันกระแทกกับโขดหินแหลกเละ ไม่ผิดอะไรกับร่างของลูกนกที่มันบดขยี้ ฝ่ายนางนกไส้เมื่อเห็นช้างเกเรตัวนั้นตายสมดังปรารถนาแล้ว ก็เริงร่าดีใจบินเข้าไปที่ร่างของเจ้าช้าง แล้วเหยียบย่ำไปมาอย่างสะใจในความแค้น
"ในที่สุดช้างตัวใหญ่มีพละกำลังมหาศาล ก็สิ้นชื่อ เพราะนกไส้ตัวเล็กกระจ่อยร่อยอย่างเรา ฮ่าๆๆ"
เมื่อแก้แต้นสำเร็จนางนกไส้ก็บินไปตามยะถากรรม ทิ้งไว้แต่ร่างอันแหลกแหลวของช้างเกเรให้เน่าเปื่อย เสมือนหนึ่งเป็นข้อคิดให้สรรพสัตว์ได้รู้ว่า เวรไม่ควรกระทำกับผู้ใดทั้งสิ้น เพราะไม่วันใดก็วันหนึ่งเวรนั่นย่อมคืนสนอง
ภิกษุทั้งหลายท่านจงดูเอาเถิด นางนกไส้ กา กบ และแมลงวันหัวเขียว สัตว์ทั้งสี่เหล่านี้ถึงแม้ตัวจะเล็กกระจ่อยร่อย หากแต่ได้ร่วมใจแล้วก็สามารถฆ่าช้างผู้ซึ่งมีร่างกายใหญ่โตกว่า มีพละกำลังมากกว่าเสียได้ ท่านจงเห็นคติของคน มีเวรแก่คนมีเวรทั้งหลายหรือไม่ เพราะฉะนั่นแลท่านทั้งหลายจงอย่าได้กระทำเวรกับใครๆ ถึงจะไม่เป็นที่รักใคร่กันก็ตาม
ในพุทธกาลสมัยต่อมา
ช้างผู้เกเรผู้เที่ยวไปแต่ลำพัง กำเนิดเป็น พระเทวทัต
พญาช้างจ่าโขลง เสวยพระชาติเป็น พระพุทธเจ้า
พระคาถาประจำชาดก
กากญฺจ ปสฺส ลฏุกิกํ มณฺฑูกํ นีลมกฺขิกํ
เอเต นาคํ อฆาเตสุํ ปสฺส เวรสฺส เวรินํ
ตสฺมา หิ เวรํ น กยิราถ อปฺปิเยนปิ เกนจิฯ
ท่านจงเห็นคติแห่งเวรของคนมีเวรทั้งหลาย
เพราะฉะนั้นแล ท่านทั้งหลายอย่าได้กระทำเวรกับใครๆ
ถึงจะไม่เป็นที่รักใคร่กันเลย