"ชนไก่" ถือว่าเป็นเกมกีฬาชนิดหนึ่งซึ่งสืบทอดมาแต่ยุคโบราณกาล โดยอาศัยสัญชาตญาณการต่อสู้ของไก่สายพันธุ์ "ไก่ชน" ที่มีชั้นเชิง ต่างๆ ในการเอาชนะคู่ต่อสู้ แต่ในยุคปัจจุบัน วิถีของการชนไก่ได้เปลี่ยนแปลงไป โดยสิ้นเชิงอย่างไม่น่าเชื่อว่านี่คือ เกมกีฬา
คุณบรรเจิด ประสิทธิ์เพียรชัย ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี ท่านเป็นบุคคลที่เป็นที่นับถือของชาวสระบุรี โดยได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดมาแล้วหลายสมัย และถือว่าเป็นผู้กว้างขวางคนหนึ่งของจังหวัดสระบุรี โดยเฉพาะอำเภอวิหารแดง คุณบรรเจิด เป็นชาวอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก เมื่อจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีแล้ว จึงได้แต่งงานมีครอบครัวกับคุณจรูญศรี และได้ย้ายครอบครัวมาลงหลักปักฐานอยู่ที่จังหวัดสระบุรี แล้วจึง ก้าวสู่แวดวงทางการเมือง โดยได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดสระบุรี
ด้วยความเป็นผู้มีพรสวรรค์ในการเลี้ยงสัตว์ และมีความรู้ ความชำนาญในการเลี้ยงไก่ชนมาตั้งแต่ในวัยเด็ก ทำให้ในที่สุดชีวิตของคุณบรรเจิด ได้ก้าวเข้ามาสู่เส้นทางของวงการพนันระดับชาติอย่างเต็มตัว ในฐานะเจ้าของบ่อนไก่ชนที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี
เหตุการณ์อันก่อให้เกิดความสะเทือนใจและเป็นจุดพลิกผันในชีวิตที่สำคัญของคุณบรรเจิดได้เกิดขึ้น เมื่อคุณแม่ของคุณบรรเจิดได้เสียชีวิตลงด้วยโรคชรา เมื่อเดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๗ ด้วยความที่คุณบรรเจิดเป็นผู้ที่มีความเคารพเชื่อฟังคุณแม่เป็นทุนเดิมและได้รับชมรายการกฎแห่งกรรมจากช่อง DMC โดยการแนะนำของกัลยาณมิตรผู้นำบุญในจังหวัดสระบุรี ทำให้สามารถหักดิบตัดใจ ปิดบ่อนไก่ซึ่งจะต้องสูญเสียรายได้ในแต่ละเดือนจำนวนหลายแสนบาท
จากการทุ่มเททำหน้าที่ด้วยหัวใจของยอดกัลยาณมิตรอย่างเต็มกำลังของคุณเพียรใจและคุณดรุณี โรจนสินวิไล ในการขยายจานดาวธรรมไปสู่ทุกครัวเรือนในจังหวัดสระบุรี ได้ทำให้เกิดเหตุการณ์อันน่าปลื้มปีติใจในวันนี้ และยังเป็นผลให้บุคคลอีกหลายคนที่ได้หลงเดินไปในเส้นทางที่ผิดให้กลับใจมาสู่เส้นทางการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง
สนามชนไก่ที่ใหญ่ที่สุด แห่งอำเภอวิหารแดงที่เคยคึกคักคราคร่ำไปด้วยเซียนพนัน ที่เดินทางมาจากทุกสารทิศ ในวันนี้ มีแต่ความเงียบเหงา คงเหลือไว้แต่เพียงโครงสร้าง ที่คอยวันจะถูกรื้อถอน เพื่อนำพื้นที่ไปใช้ประโยชน์ในหนทางที่ถูกต้อง
จนกระทั่งคุณบรรเจิดได้ส่งจดหมายเพื่อ กราบเรียนถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เพื่อเป็นกรณีตัวอย่างแก่ชาวโลก ว่ามีผู้ที่สามารถตัดใจหักดิบเลิกอาชีพซึ่งถือว่าเป็นทางมา แห่งทรัพย์จำนวนมหาศาลแต่ผลกำไร และเงินนั้นไม่ได้มีค่าเกินไปกว่าความสุข และภาคภูมิใจที่ได้ตัดใจจากอบายมุข อันเป็นปากทางสู่ความเสื่อมได้อย่างเด็ดขาด ไม่มีวันหันกลับไปข้องเกี่ยวกับ มันอีก....
กราบนมัสการพระเดชพระคุณคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพอย่างสูง
กระผม นายบรรเจิด ประสิทธิ์เพียรชัย ลูกพระธัมฯ นักเรียนใหม่มากๆๆๆๆ ครับผม ขอกราบเรียนเรื่องราวความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของกระผมดังนี้ครับ
ตั้งแต่กระผมอายุประมาณ ๙ ขวบ ก็มีความสนใจเรื่องไก่ชน และได้ค่อยๆ ศึกษาลักษณะ ชั้นเชิงไก่ชนเรื่อยมา เพราะเห็นว่าเป็นภูมิปัญญา ชาวบ้านซึ่งต่อมาการชนไก่ก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปจากวัฒนธรรมพื้นบ้านที่เน้นชั้นเชิงการ หลบหลีกเป็นการชนที่รุนแรงขึ้น และเป็นการพนัน
กระผมเองมีตำแหน่งการเมืองท้องถิ่นเป็น สจ. หลายสมัย จึงเป็นที่รักของชาวบ้านทุกกลุ่ม รวมทั้งกลุ่มนักเลงชนไก่ และด้วยความรู้ความชำนาญด้านไก่ชน ทำให้กระผมได้มาเป็นเจ้าของสนามไก่ชน หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า "บ่อนไก่" ในที่สุด
บ่อนไก่ของกระผมในช่วงนั้นถือเป็นบ่อนที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลาง เรียกว่าเป็นอันดับ ๓ ของประเทศ สามารถรองรับคนได้นับพันคน ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักเลงไก่ ซึ่งหลั่งไหล มาจากทั่วทุกสารทิศ เปิดบริการสัปดาห์ละ ๑ วัน คือวันอาทิตย์ รายได้เป็นหลักแสน บางครั้งก็หลายแสนบาทต่อวัน แต่ก็แปลกครับเหมือนเป็นเงินร้อน ได้มาง่ายแล้วก็จากไปง่ายๆเหมือนกัน
คุณแม่ของกระผมก็เคยเตือนตั้งแต่ช่วงที่เริ่มเปิดบ่อนว่า "มันบาปนะลูก" กระผมฟังแล้วก็ยังไม่คิดอะไร
จนกระทั่งมีจานดาวธรรมมาติดที่บ้าน คุณแม่ของกระผมอายุ ๙๒ ปี แต่ท่านก็ยัง Alert สดชื่น ชอบดูดาวธรรมมากๆ ดูทุกวัน ดูทั้งวัน ท่านจะเคารพบูชาคุณครูไม่ใหญ่มาก เวลาเจอกระผม ท่านจะเรียกเข้าไปนั่งดูกับท่าน โดยเฉพาะเรื่องราวกฎแห่งกรรม
แล้ววันหนึ่งท่านก็ขอกระผมว่า "เลิกได้มั้ยลูก" ซึ่งกระผมเองระยะหลังก็เริ่มรู้สึกไม่ค่อยอยากไปบ่อน ไปแล้วใจไม่สบาย จึงตัดสินใจรับปากท่านว่า "กระผมจะเลิกทำบ่อนไก่"
ลูกน้องที่ทำงานที่บ่อนและซุ้มไก่ ๒๐ กว่าคน ต้องตกงาน กระผมต้องหาอาชีพใหม่ให้กับเขา บางส่วนก็ให้ไปทำงานในรีสอร์ท และส่วนตัวของกระผมเองก็ต้องหาอาชีพใหม่เสริม เพราะรายได้จากบ่อนไก่ที่หายไปก็ค่อนข้างมาก แต่กระผมกลับรู้สึกสงบและสุขใจมากขึ้น
ในวันนี้ แม้คุณแม่ของกระผมจะจากไปแล้ว แต่กระผมก็เชื่อมั่นว่า คุณแม่จากไปด้วยความสบายใจ และภาคภูมิใจที่ลูกชายของท่านได้เดินบนหนทางที่ถูกต้อง เป็นหนทางแห่งชีวิตที่สว่างสมดังที่ท่านตั้งใจ
กระผมขอกราบแทบเท้าขอบพระคุณคุณครูไม่ใหญ่เป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เมตตาเปิดเรื่องราวความจริงของชีวิตผ่านจานดาวธรรม เป็นที่พึ่งให้กับคุณแม่ของกระผม จนได้มาเป็นแรงบันดาลใจให้กระผมกล้าตัดสินใจประกาศปิดบ่อนไก่อย่างถาวรในวันนี้
กราบนมัสการมาด้วยความเคารพยิ่ง
นายบรรเจิด ประสิทธิ์เพียรชัย ลูกพระธัมฯ
จากคำขอร้องของคุณแม่ และเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตจากจานดาวธรรม ชีวิตของคุณบรรเจิดและครอบครัวในวันนี้ จึงมีแต่ความสุขสงบร่มเย็น โดยอาศัยธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดำเนินไปในหนทางที่ถูกต้องของการเกิดมาเป็นมนุษย์ เพื่อสั่งสมบุญบารมีอันจะเป็นปัจจัยให้พ้นจากโทษภัยของห้วงวัฏสงสาร ได้พบกับความสุขที่แท้จริง ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าเราขออนุโมทนาและขอเป็นกำลังใจแด่วีรบุรุษแห่งปี ๒๕๔๘ ปีแห่งการสร้างบารมี ให้ยิ่งกว่าปีที่ผ่านมา..