ฉบับที่ ๒๙ ประจำเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๘

ทำไม่ต้องนั่งสมาธิด้วย "การทำทาน รักษาศีล ไม่พอหรือ"

 

ลูกเคยชวนเพื่อนมานั่งสมาธิ เขากลับบอกว่าคนอยู่ทางโลกอย่างเรา แค่ทำทาน รักษาศีล ก็พอแล้ว ทำไมต้องมานั่งสมาธิด้วย ลูกจะอธิบายให้เขาเข้าใจได้อย่างไรเจ้าคะ ?

ในการตอบคำถามเพื่อให้เห็นความสำคัญของการนั่งสมาธินั้น ในขั้นต้นต้องดูก่อนว่า เขาสนใจคำสอนในพระพุทธศาสนามากน้อยแค่ไหน

              คนบางประเภท แม้ไม่ค่อยได้สนใจคำสอนในพระพุทธศาสนามากนัก แต่ว่าเขาก็ยังตักบาตร ให้ทาน รักษาศีล ไปตามประเพณี

              เพราะฉะนั้น ถ้าปรากฏว่าเพื่อนของเราเป็นคนประเภทนี้ เราต้องไปช่วยชี้ ช่วยแนะให้เขาดูว่า การทำทานทำให้เขามีความสบายใจดี แต่ถ้าจะให้มีความสบายใจและได้บุญมากยิ่งขึ้น ก่อนทำทานลองนั่งสมาธิดูสักหน่อย ใจจะได้ใสๆ บุญที่ได้ก็จะมีคุณภาพมากกว่าการทำทานอย่างเดียว

              ในทำนองเดียวกัน ถ้าเขารักษาศีล ดีอยู่แล้วก็บอกกับเขาว่า รักษาศีลดีๆ อย่างนี้ ถ้าได้นั่งสมาธิอีกสักหน่อยให้ใจใสๆ ศีลที่เขารักษาก็จะได้มั่นคงยิ่งขึ้น

              สำหรับระยะแรกๆ เราคงอธิบายให้เขาเข้าใจได้ในระดับนี้ แต่ว่าหลังจากที่เขานั่งสมาธิไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว เราจึงค่อยๆ อธิบายให้เขาเข้าใจลุ่มลึกยิ่งขึ้นไปอีกตามลำดับๆ ตามแต่จะเห็นสมควร โดยเอาประสบการณ์จากที่เราเคยมีในการนั่งสมาธิมาแรมปี ไปค่อยๆ อธิบายให้เขาฟัง เขาก็จะเข้าใจได้ง่ายขึ้น

              ส่วนคนอีกประเภทหนึ่งนั้น ทั้งตั้งใจให้ทาน ตั้งใจรักษาศีล แล้วก็ศึกษาธรรมะด้วย เช่น ศึกษาว่ารักษาศีลอย่างไรศีลของตนจึงจะบริสุทธิ์ ทำทานอย่างไรจึงจะได้บุญมากๆ แต่ว่ายังมอง ไม่เห็นคุณค่าที่แท้จริงของการฝึกสมาธิ

              เช่น มีครูบาอาจารย์บางท่านทั้งที่เป็นพระภิกษุ แต่กลับพูดว่าท่านมีสมาธิดีอยู่แล้ว จะต้องมาฝึกสมาธิอีกทำไม อย่างนี้ก็มีเหมือนกัน สำหรับคนประเภทนี้ ถ้าไม่ถึงกับต่อต้าน ก็ยังพอจะอธิบายให้เขาเข้าใจได้บ้างในระดับหนึ่ง

              ยกตัวอย่าง อธิบายให้เขาฟังง่ายๆ ว่า ถึงแม้จะให้ทาน จนสามารถกำจัดความตระหนี่ออกไปจากใจได้แล้ว ถึงแม้จะตั้งใจรักษาศีล จนทำให้สามารถควบคุมกิริยามารยาท ควบคุมความวิปริตทางกาย ทางวาจา ทางใจ ได้ดี

              แต่ว่าที่ทำมาทั้งหมดนั้น ก็ยังทำให้ใจของเขาใสไม่พอ เมื่อใจใสไม่พอ คุณต้องคิดนะว่า ขณะที่คุณให้ทาน รักษาศีล เป็นประจำ แต่ว่าหลายๆ ครั้งก็ยังมีเรื่องที่มาทำให้คุณขุ่นใจ ทำให้นอนไม่หลับ ทำให้คิดฟุ้งซ่าน หรือบางครั้งถึงกับต้องกระทบกระทั่ง แตกหักกับพรรคพวกเพื่อนฝูง ก็ยังมี แล้วคุณไม่คิดที่จะแก้ไขสิ่งเหล่านี้บ้างหรอกหรือ

              วิธีที่จะแก้ไขความใจขุ่นได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องลงทุนอะไรเลยก็คือ คุณลองมาฝึกสมาธิ สักหน่อย เพราะการฝึกสมาธิเป็นเรื่องของการฝึกหักห้ามใจลักษณะหนึ่ง คือให้เขาฝึกสมาธิเพื่อสำหรับใช้เป็นเครื่องหักห้ามใจนั่นเอง

              หรือถ้าเขาเป็นนักทำงาน ที่ไม่ค่อยได้กระทบกระทั่งอะไรกับใคร แต่นักทำงานพอถึงจุดหนึ่งเข้าแล้วมักจะล้า วิธีที่จะทำให้ใจหายล้า หายเพลีย หายเหนื่อย หายหน่าย ได้ง่ายๆ ซึ่งเป็นเรื่องของการฟื้นฟูใจ การให้กำลังใจ ตัวเองขึ้นมา ก็ไม่มีอะไรเกินการทำสมาธิ

              พูดง่ายๆ ก็คือนำอานิสงส์ของการฝึกสมาธิในแง่มุมต่างๆ มาอธิบายให้เขาฟัง ให้เหมาะกับจริตอัธยาศัยของเขาให้ได้ ก็จะสามารถชวนให้เขามาเข้าวัด ปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิภาวนาร่วมกับคุณได้ไม่ยากจนเกินไป

              ขอแถมอีกนิดหนึ่งก็แล้วกัน ในวาระที่จะชวนคนมาเข้าวัด มาปฏิบัติธรรมได้ง่ายๆ ทั้งที่ธรรมดาเขาค่อนข้างจะเป็นคนดื้อ ก็คือ
              ๑. ตอนที่เขาป่วย
              ๒. ตอนที่เขามีทุกข์
             
              ตอนกำลังป่วยก็คือทุกข์กาย ไม่ว่าจะทุกข์กาย ทุกข์ใจ ทุกข์ในเรื่องของครอบครัว ทุกข์จากที่ทำงาน หรือทุกข์จากอะไรก็ตาม ตอนกำลังมีทุกข ์คนเราย่อมต้องการที่พึ่งกันทั้งนั้น เราก็อาศัยจังหวะนั้น ชวนเขามาทำสมาธิ แล้วจะไม่พลาดสักราย

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล