Dhammaforpeople
ธรรมะเพื่อประชาชน
ตอน ขอบข่ายของกาเมสุมิจฉาจาร
วิธีการง่ายๆในการปฏิบัติให้เข้าถึงพระรัตนตรัยนั้น เบื้องต้นต้องสมัครใจ เต็มใจ รักที่จะเข้าถึงธรรม แล้วก็ทำใจให้ใส ๆ หมั่นนึกถึงดวง นึกถึงองค์พระ หรือทำใจนิ่ง ๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ โดยมีสติสบาย สม่ำเสมอ เอาใจใส่ และหมั่นสังเกตว่าเราวางใจได้พอดีไหม อย่าให้ตึงเกินไป หรือหย่อนเกินไป
ความคุ้นเคยกับศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ กับการหยุดนิ่งทีละเล็กทีละน้อยอย่างเป็นธรรมชาติจะทำให้ใจของเราคลอเคลียอยู่ภายใน เราก็จะค่อย ๆ คุ้นกับการวางใจให้ถูกส่วน คุ้นกับการหยุดนิ่งกลางองค์พระหรือดวงใสอย่างสบาย ๆและในที่สุดเราก็จะสมปรารถนา
มีธรรมภาษิตที่ปรากฏในอาเสวนปัจจยตากถา ความว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กาเมสุมิจฉาจาร อันบุคคลช่องเสพแล้ว อบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปพร้อมเพื่อเกิดในนรก ในกำเนิดเดียรัจฉาน เพื่อเข้าถึงวิสัยแห่งเปรต วิบากของกาเมสุมิจฉาจารอย่างเบาที่สุด เมื่อเกิดเป็นมนุษย์จะทำให้เป็นผู้มีศตรูมาก มีเวรมาก กาเมสุมิจฉาจาราเวรมณี แปลว่าเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
คำว่ากามในที่นี้หมายถึงกิริยาที่รักใคร่ในทางประเวณี เป็นสิ่งที่ประพฤติกันทั่วไปของมนุษยชาติทั้งหลายผู้ยังมีกิเลสอยู่ ศีลข้อนี้บัญญัติขึ้นด้วยหวังจะป้องกันความแตกร้าวในสังคม ทำให้คนที่อยู่ในสังคมไว้วางใจกันและกันได้
เพราะความประพฤติผิดในทางประเวณีหรือคบกันฉันชู้สาวนั้นเป็นฉนวนที่จะให้เกิดความแตกร้าวในระหว่างสามีภรรยาได้ ความประพฤติผิดในกามนี้จัดเป็นบาปเป็นข้อห้ามทั้งหญิงและชายเพราะต่างก็เป็นอคมนียฐาน คือวัตถุต้องห้ามของกันและกัน
เรื่องของกาเมสุมิจฉาจารนั้นมีความละเอียดอ่อนมาก คนส่วนใหญ่ประพฤติผิดในกามเพราะความไม่รู้ และกิเลสบังตาทำให้เกิดปัญญามืดบอดและปัญหาตามมา แล้วยังมีวิบากกรรมที่เกิดจากการประพฤติผิดศีลข้อนี้อีกมากมาย
เพราะฉะนั้นเราจึงจำเป็นต้องศึกษาเอาไว้เพื่อชีวิตการสร้างบารมีในสังสารวัฏจะได้ไม่ผิดพลาดกัน สิ่งที่เราควรรู้คือหญิงที่เป็นวัตถุต้องห้ามของชายมีสามจำพวก
๑ ภรรยาของคนอื่น หมายถึงหญิง ๔ จำพวก คือ
๑.๑ หญิงที่แต่งงานกับชายแล้ว
๑.๒ หญิงไม่ได้แต่งงานแต่อยู่กินกับชายโดยเปิดเผย โดนที่พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายต่างรู้เห็นและยินยอมพร้อมใจให้บุตรธิดาของตนอยู่กินกันฉันสามีภรรยา แต่ยังไม่ได้จัดพิธีแต่งงานให้เพราะยังไม่พร้อมหรือเพราะยังไม่มีโอกาสที่เหมาะสมบ้าง
๑.๓ หญิงผู้รับสิ่งของ รับทรัพย์สมบัติของฝ่ายชายแล้วยอมอยู่กินกับเขา
๑.๔ หญิงที่ฝ่ายชายเลี้ยงไว้เป็นภรรยา
หญิงทั้งสี่ประเภทนี้นับตั้งแต่ยอมรับเป็นภรรยาของเขาแล้ว ชายอื่นจะประพฤติเป็นชู้กับหญิงเหล่านี้ไม่ได้ หากล่วงละเมิดถือว่าประพฤติผิดกาเมสุมิจฉาจาร
หญิงที่เป็นวัตถุต้องห้ามประการที่ ๒ คือ หญิงที่อยู่ในการพิทักรักษาของคนอื่น หมายถึงหญิงที่มีมารดาบิดา ญาติพี่น้อง หรือผู้ที่ตั้งอยู่ในฐานะคุ้มครองพิทักรักษา หากชายใดลอบไปสมสู่หรือลักพาตัวไป จัดว่าเป็นกาเมสุมิจฉาจาร
ประการที่ ๓ หญิงที่จารีตประเภณีห้าม หมายถึงหญิงสามจำพวกคือ
๓.๑ หญิงที่อยู่ในพิทักรักษาของตน มี แม่ ย่า ยาย ทวด และผู้เป็นเหล่ากอของหญิง คือ ลูก หลาน เหลน คอยดูแลรักษาอยู่
๓.๒ หญิงที่อยู่ภายใต้บทบัญญัติทางพระศาสนาที่ห้ามมีสังวาสกับชาย เช่น ภิกษุณี หรือแม่ชี
๓.๓ หญิงที่กฎหมายบ้านเมืองห้าม เช่น ในสมัยก่อน หญิงที่พระราชามหากษัตริย์ได้หมายมั่นเอาไว้และรับสั่งให้มหาดเล็กคอยดูแลเป็นพิเศษ ถือว่าเป็นหญิงของพระราชา ชายใดจะมาล่วงละเมิดไม่ได้เป็นอันขาด หญิงที่จารีตต้องห้ามเหล่านี้จะมีฉันทะร่วมด้วยหรือไม่ ไม่ได้ถือเป็นประมาณ เมื่อร่วมสังวาสด้วยก็เข้าข่ายกาเมสุมิจฉาจาร ส่วนหญิงที่เหลือถ้าหากเธอไม่มีความพอใจหรือถูกชายอื่นข่มขืนก็ถือว่าถูกประพฤติผิดในข้อกาเมสุมิจฉาจารเหมือนกัน
กล่าวถึงชายที่ต้องห้าม แม้ชายที่ต้องห้ามก็เป็นวัตถุต้องห้ามของหญิงเหมือนกัน ท่านแยกกล่าวไว้สองประเภทคือ ชายอื่นนอกจากสามี เป็นวัตถุต้องห้ามของหญิงที่มีสามี และสองชายที่จารีตห้ามเป็นวัตถุต้องห้ามของหญิงทุกประเภท
การที่หญิงมีสามีแล้วแอบไปคบชายเป็นชู้จัดเป็นกาเมสุมิจฉาจาร เว้นเสียแต่หญิงนั้นสามีตายหรือหย่าขาดจากสามีแล้ว ถือว่าเป็นอิสระในตนเอง พึงรับชายที่ไม่ต้องห้ามเป็นสามีได้ ไม่เป็นกาเมสุมิจฉาจาร
สำหรับชายที่จารีตห้าม เช่นภิกษุ สามเณร อยู่ภายใต้บทบัญญัติในพระพุทธศาสนา มีสิกขาบทห้ามการร่วมประเวณี และผู้ที่กฎหมายบ้านเมืองห้ามไม่ให้ร่วมประเวณีด้วย รวมถึงนักพรตผู้ถือเมถุนวิรัติในศาสนาอื่นก็เหมือนกัน
หญิงเมื่อล่วงละเมิดเข้าถือเป็นกาเมสุมิจฉาจาร กาเมสุมิจฉาจารนี้ถือเป็นความประพฤติชั่ว มีโทษทั้งทางโลกและทางธรรม ฝ่ายราชอาณาจักรมีกฎหมายสำหรับลงโทษผู้ประพฤติผิด ฝ่ายพระศาสนาก็จัดว่าเป็นบาปแก่ผู้ทำ เหมือนดังเรื่องของนันทมานพผู้ประพฤติผิดต่อพระอรหันตเถรี
ในสมัยก่อนมีมานพหนุ่มคนหนึ่งชื่อนันท เป็นญาติห่างๆของพระอุบลวรรณาเถรี เป็นผู้มีจิตปฏิพัทธ์ในพระเถรีตั้งแต่สมัยที่ท่านยังเป็นคฤหัสถ์ แม้ทราบว่าอุบลวรรณาได้ออกบวชแล้ว นันทมานพก็ยังไม่หมดความหวังที่จะได้นางเป็นคู่ครอง หมั่นสืบถามหาสถานที่พำนักของท่านเรื่อยมา
ครั้งหนึ่งเมื่อทราบว่าพระเถรีไปพำนักในป่าอันธวันอันเป็นที่เปล่าเปลี่ยวจากผู้คน ก็ได้แอบเข้าไปซ่อนอยู่ใต้เตียงในกุฏิของพระเถรี ครั้นพระเถรีเดินเข้ามาปิดประตู นั่งพักบนเตียง
ยังไม่ทันระวังตัว นันทมานพก็รีบออกจากที่ซ่อนและปลุกปล้ำพระเถรีด้วยจิตที่กลัดกลุ้มราคะ แม้พระเถรีจะห้ามปรามว่าเธออย่าฉิบหายเลย ก็ไม่ยอมเชื่อ ได้ปลุกปล้ำพระเถรีจนสมปรารถนาแล้วรีบเปิดประตูหนีไป การประพฤติผิดต่อพระอรหันตเถรีนับเป็นบาปมหันต์เพราะท่านเป็นผู้ทรงคุณธรรม
ฉะนั้นเมื่อนันทมานพพ้นจากสายตาของพระเถรี มหาปฐพี แม้ว่าจะสามารถทานภูเขาสิเนรุแต่ก็ไม่สามารถรองรับบาปหนักที่เขาทำไว้ได้จึงแยกออกจากกันแล้วเปลวเพลิงจากอเวจีมหานรกได้พุ่งขึ้นหอบเอานันทมานพไปสู่อเวจีมหานรกทันที
จะเห็นว่าโทษภัยประพฤติผิดในกามนั้นไม่เคยปรานีใคร จะต่างกันก็เพียงมีโทษหนักเบาเท่านั้นเอง ขึ้นอยู่ที่ว่าได้ประพฤติผิดกับบุลคลใด เจตนาและกิริยาที่ล่วงละเมิดมากหรือน้อย เช่น ชอบประพฤติผิดในผู้มีพระคุณมากเหมือนดังที่นันทมานพประพฤติผิดต่อพระอรหันตเถรี ซึ่งเป็นผู้มีคุณมาก ก็มีโทษมากถึงขั้นถูกธรณีสูบทันที
แต่หากผู้ที่ล่วงละเมิดเป็นไม่มีศีลไม่มีธรรมก็มีโทษน้อย หากเจตนาที่ทำลงไปได้ใช้ความยำมากก็มีโทษมาก ถ้าประพฤติผิดถึงขั้นร่วมประเวณีข่มขืนกระทำชำเราก็มีโทษหนักแก่ผู้ทำ โทษภัยของผู้ประพฤติผิดศีลกาเมอยู่เป็นประจำนั้นจะต้องตกไปในมหานรกขุมที่ ๓ คือจะถูกทัณฑ์ทรมานด้วยวิธีต่างให้ทุกข์ทรมานแสนสาหัสในสังฆาฏมหานรกเป็นเวลายาวนาน ถ้าหย่อนลงมาหน่อยก็ต้องไปปีนต้นงิ้วหนามนรก หรือถูกเครื่องทัณฑ์ทรมานลงทัณฑ์ด้วยวิธีน่าหวาดสะดุ้ง กว่าจะได้กลับเป็นมนุษย์ก็ต้องเสวยวิบากกรรมอันทุกข์ทรมานในทุคติภูมิอีกยาวนาน
แม้เป็นมนุษย์แล้วก็ยังเป็นผู้มากไปด้วยศตรูและเวรอีกและต้องถูกกระทำในทำนองเดียวกันกับที่ตัวเองเคยทำเอาไว้ เพราะฉะนั้นอย่าได้ตามใจกิเลสซึ่งเป็นอารมณ์ชั่ววูบ เพราะมันไม่คุ้มกันเลย ดีที่สุดให้ยินดีในคู่ครองของตัวเองและสมาธานมั่นในศีลทุกข้อพร้อมกับปฏิติบัติธรรมและชีวิตการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏจะได้ปลอดภัยกันทุกคน