ธรรมะเพื่อประชาชน พร้อมภาพประกอบ คติธรรม ข้อคิดสอนใจ

ดูก่อนท่านผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร ท่านทั้งหลายอย่ากลัวต่อบุญเลย เพราะคำว่าบุญนี้เป็นชื่อของความสุข ดูก่อนท่านผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร เราย่อมรู้ชัดผลแห่งบุญอันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ ที่เราเสวยแล้วตลอดกาลนาน

ชาดก : ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for peopleรวมนิทานอีสปพร้อมภาพประกอบ  ข้อคิดสอนใจ

ธรรมะเพื่อประชาชน : พระเตมีย์ ผู้ยิ่งด้วยเนกขัมมบารมี ๐๒


ธรรมะเพื่อประชาชน : พระเตมีย์ ผู้ยิ่งด้วยเนกขัมมบารมี ๐๒

Dhamma for people
ธรรมะเพื่อประชาชน

 

DhammaPP165_01.jpg

พระเตมีย์ ผู้ยิ่งด้วยเนกขัมมบารมี ๐๒


                เส้นทางยาวไกลในสังสารวัฏ เป็นเส้นทางที่จะต้องสั่งสมบุญบารมีให้มากๆ เพราะบุญกุศลเป็นพลังชีวิตที่เราจะมองข้ามไม่ได้ หรือมัวประมาทคิดว่า จะสร้างบุญเมื่อไหร่ก็ได้หรือไม่ทำก็ได้ เพราะกว่าที่เราจะไปถึงเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิตคือ การจัดอัสสาวะกิเลสให้หมดสิ้นไปได้อย่างนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะไม่ใช่เรื่องพอดีพอร้าย หากเรายังเป็นผู้ที่ประมาทอยู่ไม่เร่งสั่งสมบุญและทำความเพียรในการทำใจหยุดนิ่งควบคู่กันไป เส้นทางนี้ก็จะยิ่งยาวไกลออกไปอีก ดังนั้นน่ะการสั่งสมบุญควบคู่ไปกับการหมั้นฝึกฝนอบรมใจให้หยุดนิ่ง จึงเป็นภารกิจหลักที่เราต้องหมั่นทำเป็นประจำสม่ำเสมอกันนะจ๊ะ

 


                พระนางจันทราเทวีได้กล่าวคำอธิษฐานเอาไว้ว่า ข้าพเจ้ารักษาศีลด้วยความบริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่มีด่าวพร้อยเลยแม้แต่น้อย ตลอดวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ด้วยสัจจวาจานี้ ขอบุตรจงบังเกิดแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด ตามปกติการที่สามีภรรยา จะให้กำเนิดบุตรหรือธิดาที่จะมาเป็นอภิชาตบุตร เพื่อเชิดชูวงตระกูลให้สูงขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือเกิดขึ้นได้ง่ายๆ นะจ๊ะ

 


                เพราะบุญกรรมระหว่างพ่อแม่และลูกต้องใกล้เคียงกัน บางครั้งพ่อแม่มีบุญมากแต่ผู้มีบุญมากที่สมควรจะได้มาเกิดก็ยังไม่มี พ่อแม่จึงไม่สามารถมีบุตรได้ ตั้งแต่สมัยโบราณเรามักได้ยินหรือได้เห็นสตรีที่อยากมีลูก ไปทำพิธีบวงสวงบ้างอ้อนวอนขอกับเทพเจ้าบ้าง เซ่นไหว้ผีสางเทวดาด้วยวิธีการต่างๆ บ้าง 

 


                แต่สำหรับผู้มีปัญญาทั้งหลาย หากปรารถนาบุตร ท่านจะรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ และอ้อนวอนต่อเทวดาโดยยึดหลักคือ อ้างถึงบุญที่ตน ได้ทำไว้ดีแล้วเช่นได้ให้ทานรักษาศีลและเจริญภาวนา อ้างเอาความบริสุทธ์กายวาจาใจของตน ที่ได้ประพฤติมาด้วยดี ไม่ใช่ว่าไม่เคยทำความดีอะไรเลย อาจจะอ้อนวอนอย่างเดียวอย่างนั้นก็ไม่สำเร็จ แต่ถึงแม้สำเร็จมีลูกมาเกิดก็อาจจะเป็นแบบอวชาตบุตรคือเกิดมาสร้างความเดือดร้อนให้พ่อแม่

 

 

                แต่ถ้าจะให้ได้อภิชาตบุตรก็ต้องรู้หลักวิชา ดังตัวอย่างของพระนางจันทราเทวีผู้เป็นพระอัครมเหสีขอพระเจ้ากาสิกราช ทรงฉลาดในการอธิษฐานเพื่อให้ได้อภิชาตบุตรมาเกิด เรามาติดตามรับฟังเรื่องราวกันเลยนะจ๊ะ ครั้งที่แล้วหลวงพ่อได้เล่าถึงตอนที่พระเจ้ากาสิกราชผู้ครองเมืองพาราณสี ทรงปกครองด้วยทศพิธราชธรรม 

 


                แม้จะมีพระสนมจำนวนมากถึง ๑๖,๐๐๐ นางแต่ก็ยังไม่มีใครเลยจะกำเนิดรัชทายาทแก่พระองค์ แม้แต่พระนางจันทราเทวีผู้เป็นพระอัครมเหสี ก็ยังมิอาจให้การประสูตรพระราชโอรสหรือพระราชธิดาเพื่อพระองค์ได้เลย ทำให้พระองค์ทรงปริวิตกถึงเรื่องนี้ 

 


                ขณะเดียวกันก็ได้มีกลุ่มชาวเมืองมาชุมนุมอยู่ที่พระลานหลวงทรงสงสัยว่าชาวเมืองมีเรื่องทุกข์ร้อนอะไร ถึงได้พากันมาชุมนุม นับว่าเป็นราชประเพณีการปกครองที่อบอุ่น ซึ่งเมื่อชาวประชาเกิดความทุกข์ร้อนอันใด ก็จะมาชุมนุมกันร้องเรียนต่อพระราชาโดยตรง

 


                วันนั้นพระราชาได้เสด็จออกไปตรัสถามถึงสาเหตุที่มาชุมนุมกันชาวเมืองพากันกราบทูลว่า ข้าแต่มหาราชเจ้า ข้าพระองค์ทั้งหลายต่างมีความทุกข์ร้อน ที่เห็นพระองค์ยังไม่ทรงมีพระราชโอรสเลยพระเจ้าข้าพระราชาถามว่าเพราะเหตุอันใดพวกเจ้าถึงต้องทุกข์ร้อนแทนเราด้วยเล่า

 


                ขอเดชะพวกข้าพระองค์เกรงว่า ต่อไปภายภาคหน้าหากไม่มีองค์รัชทายาทมาเสวยราชสมบัติสืบต่อไปแล้ว บ้านเมืองก็จะระส่ำระสายเพราะปราศจากพระเจ้าแผ่นดินผู้เป็นมิ่งขวัญเช่นเดียวกันกับพระองค์เพราะฉะนั้นพวกข้าพระองค์จึงมาประชุมกัน เพื่อขอให้พระองค์จงทรงพระกรุณาตั้งจิตอธิษฐานปรารถนาพระราชโอรสด้วยเถิดพระเจ้าข้า

 


                ครั้นพระราชาทรงสดับคำกราบทูลของชาวเมือง ด้วยความปรารถนาดีแล้ว ท้าวเธอทรงนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แววพระเนตรอ่อนลงได้ทรงเป็นปมด้อยอยู่ในใจว่า แม้ครองราชมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่มีโอรสหรือธิดาแม้เพียงพระองค์เดียวทรงนึกถึงความจริงในข้อนตี้แล้ว พระพักตร์ก็หมองเศร้าลงทันที จึงรับสั่งด้วยพระสุรเสียงแผ่วเบาว่า เรื่องนั้นขอให้เป็นหน้าที่ของเรา ท่านทั้งหลายอย่าได้เป็นห่วงเลย จงพากันกลับไปทำมาหากินตามปกติเถิดอีกไม่นานท่านก็จะได้ฟังข่าวดี 

 


                เมื่อตรัสดังนี้แล้วพระองค์ก็รีบเสด็จกลับคืนสู่เขตพระราชฐาน ในช่วงสายของวันนั้น พระราชาทรงรับสั่งให้เรียกหาพระสนมนารีทั้งหมดให้มาพร้อมกันที่พระตำหนัก รับสั่งว่าบัดนี้ถึงเวลาที่พวกเจ้าจะมีพระโอรสได้แล้ว พวกเจ้าจงตั้งความปรารถนา ให้กำเนิดพระโอรสให้แก่เราด้วยเถิด และมีพระบัญชารับสั่งให้พราหมณาจารย์ทั้งหลายเข้าเฝ้า รับสั่งให้จัดพิธีบวงสวงเทพยาดาฟ้าดิน เพื่อขอพระราชโอรสผู้สืบสันตติวงศ์ พระสนมนารีและพราหมณ์เหล่านั้นเมื่อรับพระราชโองการแล้ว ต่างก็รีบไปทำพิธีบวงสรวงอ้อนวอนต่อเทวดาที่ตนนับถือ บ้างก็ทำพิธีบนบานต่อพระจันทร์และพระอาทิตย์เพื่อขอพระโอรส แต่แม้จะล่วงไปหลายเดือนแล้ว พระสนมเหล่านั้นก็ยังไม่อาจทำความปรารถนาให้สำเร็จได้ 

 


                ฝ่ายพระนางจันทราเทวีอัครมเหสีของพระเจ้ากาสิกราช ทรงเป็นสตรีผู้เพียบพร้อมด้วยศีลและงดงามด้วยกิริยามารยาท เมื่อทราบถึงพระราชประสงค์จึงเกิดอุสาหอย่างแรงกล้า ในการที่จะทำให้พระองค์สมพระราชหฤทัย จึงดำริว่า เว้นบุญเสียแล้วสิ่งอื่นที่จะเป็นที่พึ่งในยามนี้ไม่มีเลย ครั้นถึงวันอุโบสถขึ้น ๑๕ ค่ำ พระนางจึงสงสนานพระกายแต่เช้าทรงนุ่งห่มผ้าขาวบริสุทธิ์ สมาทานอุโบสถศีลตลอดทั้งวัน เมื่อถึงเวลาค่ำจึงบรรทมบนพระแท่นระลึกถึงศีลของพระองค์ตลอดทั้งคืน จวบจนรุ่งสางของวันใหม่ เมื่อทรงระลึกถึงศีลของพระองค์ด้วยความปีติดสมนัสก็ทรงตั้งสัจจะอธิษฐานว่า ข้าพเจ้ารักษาศีลด้วยความบริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่มีด่างพร้อยเลยแม้แต่น้อย ตลอดวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ด้วยสัจจะวาจานี้ ขอบุตรจงบังเกิดแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด 

 


                ด้วยอานุภาพแห่งศีลบารมีที่พระนางจันทราเทวีทรงบำเพ็ญดีแล้ว กอปกับแรงสัจจะอธิษฐาน ทำให้ปัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ของเท้าสักกเทวราช ผู้ปกครองภพดาวดึง เกิดอาการแข็งกระด้าง เป็นเหตุให้ท้าวเธอร้อนรุ่มพระหฤทัย จนไม่อาจทนนิ่งเสวยทิพยสมบัติเป็นปกติสุขได้ จึงทรงสอดส่องทพยเนตรตรวจดูมนุษยโลก ก็ทรงเห็นเหตุชัดเจนว่าพระนางจันทราเทวีทรงปรารถนาพระโอรส จึงทรงกำหนดในพระหฤทัยว่า เราจะให้พระโอรสแก่พระนาง ทรงพิจารณาดูว่า เทพบุตรองค์ไหนหนอจะมีบุญญาธิการมากพอที่จะเป็นพระโอรสของพระนางได้ ก็ทรงเห็นว่า มีเทพบุตรอยู่องค์หนึ่ง ได้เสวยทิพยสมบัติอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงได้ไม่นาน ซึ่งบัดนี้ใกล้ที่จะจุติขึ้นไปเกิดในสวรรค์ชั้นที่สูงขึ้นไป

 


                ท้าวสักกเทวราชทรงไคร่ควรดูแล้ว ก็ตกลงพระทัยที่จะเชื้อเชิญเทพบุตรผู้มากด้วยบุญญาธิการ มาถือปฏิสนธิในครรถ์ของพระนางจันทราเทวี จึงเสด็จออกจากเวชยันตปราสาท ด้วยราชรถอันตระการตาไม่ช้าก็รุดถึงทิพยวิมานของเทพบุตรองค์นั้น ซึ่งมีรัศมีกายสว่างเรืองรองต่างจากเทพบุตรองค์อื่น ขณะเทพบุตรนั้นกำลังเสวยทิพยสมบัติอันโอฬาร อย่างสุขสำราญภายในวิมาน 

 


                ท้าวสักกะเสด็จเข้าไปประทับยืนใกล้เทพบุตรองค์นั้น แล้วก็ตรัสเชื้อเชิญว่า ข้าแต่ท่านผู้เปี่ยมด้วยบุญญาธิการ ขอท่านจงไปบังเกิดในกครรถ์ของพระนางจันทราเทวีอัครมเหสีของพระเจ้ากาสิกราชในเมืองพาราณสีเถิด เพราะบัดนี้เป็นโอกาสอันดีที่ท่านจะได้บำเพ็ญบารมีให้บริบูรณ์ เพื่อประโยชน์สุขแก่ชาวโลกสืบไป เทพบุตรโพธิสัตว์ได้สดับคำเชื้อเชิญของท้าวสักกเทวราชแล้ว ก็เกิดความปีติยินดี เพราะเทพบุตรโพธิสัตว์เอง ก็มีความปรารถนา อยากจะสร้างบารมีให้เต็มเปี่ยมในเร็ววันอยู่แล้ว จึงทูลตอบตกลงทันที

 


                ส่วนว่าการลงมาสร้างบารมีในโลกมนุษย์ของท่าน จะเป็นอย่างไรนั้น ก็ให้มาติดตามรับฟังกันต่อในวันพรุ่งนี้นะจ๊ะ สำหรับวันนี้ให้ลูกทุกคนหมั่นสั่งสมบุญบารมีและหาโอกาสประพฤติปฏิบัติธรรมกันให้เต็มที่นะจ๊ะ

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล