บุญ เป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความสำเร็จในชีวิต เป็นสิ่งสำคัญที่สนับสนุนให้เราบรรลุวัตถุประสงค์ของการเกิดมาเป็นมนุษย์ โดยเฉพาะหากมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ที่จะนำตนและสรรพสัตว์ให้หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะด้วยแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสั่งสมบุญกันชนิดบุญครอบฟ้า สมบัติครอบจักรวาล และยิ่งถ้าเราหมั่นชำระกาย วาจา ใจ ให้สะอาดบริสุทธิ์อยู่เสมอ ก็จะเป็นเหตุให้เราได้เข้าถึงความเต็มเปี่ยมของชีวิตภายในภพชาตินี้ คือเข้าถึงพระธรรมกายได้อย่างรวดเร็ว
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน นิธิกัณฑสูตร ว่า
“มา ภิกฺขเว ปุญฺญานิ ภายิตฺถ สุขสฺเสตํ อธิวจนํ
ดูก่อนท่านผู้เห็นภัยในวัฏสงสารทั้งหลาย พวกเธอทั้งหลาย
อย่ากลัวบุญเลย คำว่าบุญนี้ เป็นชื่อของความสุข”
ปัจจุบันหากมีการเอ่ยถึงเรื่องการทำบุญกุศล คนส่วนใหญ่มักไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องสั่งสมบุญด้วย บุญเป็นอย่างไร ช่วยเราในยามยากได้จริงหรือ เพราะปัจจุบันเราได้รับการปลูกฝังให้สั่งสมเงิน สะสมทรัพย์สมบัติเอาไว้มากๆ แก่ตัวลงจะได้ไม่ต้องลำบาก จึงให้ความสำคัญกับการสั่งสมบุญน้อยกว่าการสะสมทรัพย์ เพราะเราอยู่ในยุคสมัยของโลกาภิวัฒน์ที่มนุษย์วิ่งตามกระแสวัตถุนิยม เมื่อใจไปยึดติดอยู่กับวัตถุสิ่งของนอกตัวมากเข้า จึงมองไม่เห็นความสำคัญของจิตใจ ไม่เข้าใจถึงการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏว่า ตราบใดที่ยังไม่หมดกิเลส ก็ต้องเวียนตายเวียนเกิดเช่นนี้อยู่รํ่าไป
การสะสมทรัพย์เป็นเพียงปัจจัยเกื้อหนุนให้เรามีความสุขในภพชาตินี้ แต่การสั่งสมบุญจะเป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้เรามีความสุขไปทุกภพทุกชาติ ยิ่งถ้าหากทำบุญถูกเนื้อนาบุญ บุญนั้นก็เป็นมหัคคตกุศล เป็นบุญใหญ่ ได้ผลเกินควรเกินคาด เกิดมากี่ภพกี่ชาติจะเป็นผู้พรั่งพร้อมด้วยสมบัติ ๓ คือ รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และคุณสมบัติ บุญจึงเป็นสิ่งสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จทั้งปวง
* ในสมัยของพระกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้า มีลูกของมหาเศรษฐีท่านหนึ่งชื่อเวเทหะ อาศัยอยู่ในกรุงพาราณสี เป็นเด็กที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด แตกฉานในศิลปศาสตร์ต่างๆ เมื่อเติบโตขึ้น พ่อแม่ได้ไปสู่ขอธิดาเศรษฐีที่มีรูปงามให้มาเป็นคู่ครอง เนื่องจากฝ่ายหญิงเคยทำบาปอกุศลบางอย่างไว้ แม้เป็นหญิงที่สวยงาม แต่ขณะที่ก้าวเท้าผ่านธรณีประตูบ้านของสามี ก็เกิดกลิ่นเหม็นรุนแรงออกจากตัวของนางทันที
ลูกชายเศรษฐีได้กลิ่นเหม็นรุนแรงทนไม่ไหว จึงไต่ถามว่า “กลิ่นนี้มาจากไหน” เมื่อรู้ว่าเป็นกลิ่นตัวของเจ้าสาว ก็รีบสั่งให้ขับไล่นางออกจากบ้าน และทันทีที่เจ้าสาวกลับบ้านของนาง กลิ่นเหม็นรุนแรงนั้นก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ครั้นเจ้าสาวกลับมาบ้านท่านเศรษฐี กลิ่นเหม็นเน่าก็ฟุ้งตลบอบอวลไปทั่วทั้งบ้านอีก ทุกคนได้กลิ่นแล้วแทบจะอาเจียน ลูกชายเศรษฐีจึงรีบสั่งให้ขับไล่นางออกจากบ้านโดยด่วน กลิ่นเหม็นเน่าจึงจางหายไป ครั้นเหตุการณ์ผ่านไป ลูกชายเศรษฐีได้ทำพิธีขอนางมาเป็นคู่ครองอีก แต่กลิ่นเหม็นเน่านี้ก็เกิดขึ้นทุกครั้ง การสู่ขอต้องเป็นอันล้มเหลวอยู่อย่างนี้ถึง ๗ ครั้ง
ในสมัยนั้น หลังจากที่พระกัสสปทศพลเสด็จปรินิพพานแล้ว พุทธศาสนิกชนได้ช่วยกันก่อสร้างพระเจดีย์ทองสูง ๑ โยชน์ ด้วยการเอาอิฐทองคำทั้งหนาทั้งใหญ่ มีราคาก้อนละหนึ่งแสนมาก่อเป็นมหาเจดีย์ คนสมัยก่อนเขามีความศรัทธาเลื่อมใสในพระรัตนตรัยกันมาก ถ้าทำบุญเพื่อพระพุทธเจ้าแล้วละก็ ทุกคนจะไม่ลังเล ไม่มีความตระหนี่หลงเหลืออยู่ในใจเลย ต่างหวังจะได้บุญใหญ่กันทั้งนั้น
ในขณะที่มหาชนกำลังสร้างพระเจดีย์อยู่นั้น ธิดาของเศรษฐีก็คิดว่า ที่เราต้องถูกส่งกลับถึง ๗ ครั้งนี้ คงเป็นเพราะกรรมในอดีตที่เราเคยทำผิดพลาดไว้ ทำให้การแต่งงานของเราต้องล้มเหลวทุกครั้ง นางจึงคิดว่า เมื่อเป็นเช่นนี้เราจะต้องสั่งสมบุญให้ยิ่งๆ ขึ้นไป เกิดภพชาติต่อไป จะได้ไม่ผิดหวังในชีวิตอีก คิดเช่นนั้นแล้ว นางจึงตัดสินใจขายเครื่องประดับทั้งหมด แล้วทำบุญชนิดทุ่มสุดตัว ทุ่มสุดหัวใจ ด้วยความปลื้มปีติเบิกบาน พร้อมที่จะสั่งสมความดีให้มันยิ่งๆ ขึ้นไป นางได้นำเงินทั้งหมดที่ขายเครื่องประดับได้ไปซื้อทองคำแท่ง เพื่อเอาทองไปร่วมสร้างเจดีย์กับมหาชน สมัยนั้นเขาเอาทองทั้งแท่งมาทำเป็นอิฐกันเลยทีเดียว อิฐทองยาว ๑ ศอก กว้าง ๑ คืบ สูง ๔ นิ้ว เรียงต่อกันขึ้นไปเรื่อยๆ ให้สูง ๑ โยชน์ พลังศรัทธาเขามีกันขนาดนั้น นอกจากนี้ก็ใช้ก้อนหรดาล ซึ่งมีสีแดงอมเหลือง เขียนลวดลายให้สวยสดงดงาม และใช้มโนศิลาซึ่งเป็นศิลาอ่อนๆ เป็นหินลายสีออกสีแดงเรื่อๆ บดละเอียดฉาบทาพระเจดีย์ให้แลดูเปล่งปลั่งมากยิ่งขึ้น
หลังจากได้ร่วมสร้างพระเจดีย์แล้ว นางได้นำดอกบัว ๘ กำไปบูชาพระสุวรรณเจดีย์ และเดินเวียนประทักษิณ ๓ รอบ พร้อมกับตั้งความปรารถนาว่า “เกิดกี่ภพกี่ชาติ ไม่ว่าข้าพเจ้าจะไปเกิด ณ แห่งหนตำบลใดก็ตาม ขอให้กลิ่นจันทน์จงฟุ้งออกจากตัว ขอให้กลิ่นอุบลจงฟุ้งออกจากปาก ชื่อว่ากลิ่นเหม็นที่เกิดขึ้นเหมือนในชาตินี้อย่าได้เกิดมีอีกต่อไปเลย” แล้วนางก็เดินทางกลับบ้านด้วยจิตที่เลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง
วันนั้นเอง ลูกชายเศรษฐีเกิดคิดถึงนาง จึงให้บิดาไปสู่ขอนาง แต่เนื่องจากนางได้ขายเครื่องอาภรณ์บูชาพระเจดีย์จนหมดแล้ว จึงบอกว่า ไม่สามารถที่จะหาอาภรณ์ที่สวยงามมาใส่เพื่อเข้าพิธีแต่งงานได้ ลูกชายเศรษฐี จึงนำเสื้อผ้าอาภรณ์อย่างดีส่งไปให้นาง ขณะที่เจ้าสาวก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน กลิ่นจันทน์และกลิ่นอุบลได้ฟุ้งไปทั่วทั้งบ้าน ทำให้ลูกชายเศรษฐีอัศจรรย์ใจมาก จากที่เคยได้กลิ่นเหม็นๆ ก็กลายเป็นกลิ่นหอม จึงถามนางว่า ไปทำบุญอะไรไว้ จึงมีกลิ่นหอมเช่นนี้
เมื่อรู้ว่าเป็นผลบุญที่เกิดจากการสร้างเจดีย์ทอง ลูกชายเศรษฐีปรารถนาจะได้บุญใหญ่บ้าง แม้ตัวเองจะไม่ทันมีส่วนได้ร่วมสร้างเจดีย์ทอง แต่ก็ได้นำผ้ากัมพลที่มีราคาแพงที่สุดในสมัยนั้นไปหุ้มพระเจดีย์ให้แลดูสวยงามอลังการมากยิ่งขึ้น แล้วให้ช่างเอาทองไปบุเป็นดอกปทุมทองขนาดเท่าล้อรถประดับที่พระเจดีย์ ทำดอกปทุมทองแขวนห้อยไว้ มีขนาดถึง ๑๒ ศอก ทำให้พระเจดีย์งดงามสว่างไสวเรืองรองไปด้วยทองคำ บุญใหญ่ที่ทั้งสองท่านได้ทำในครั้งนั้น ทำให้ได้ไปเสวยทิพย์สมบัติในสุคติโลกสวรรค์ ไม่เคยพลัดตกไปในอบายภูมิ ครั้นมาในภพชาตินี้ ก็ได้เป็นลูกมหาเศรษฐีอีก และในที่สุดก็ได้บรรลุธรรมไปตามลำดับ
จะเห็นได้ว่า บุญที่เราทำถูกเนื้อนาบุญ สร้างมหาเจดีย์ถวายเป็นพุทธบูชา เป็นมหากุศลที่ยิ่งใหญ่หาทำได้ยากในโลก จะทำให้สมบัติใหญ่ทั้งสามเกิดขึ้น คือ มนุษย์สมบัติ ทิพย์สมบัติ และนิพพานสมบัติ เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ ก็ได้มนุษย์สมบัติอันเลิศ เต็มเปี่ยมไปด้วยสติและปัญญา มีปัญญาสามารถเอาตัวเองให้รอดพ้นจากความชั่วร้ายทั้งหลาย และคุ้มครองตัวเองให้ตั้งอยู่ในสิ่งที่ดีงามได้ ปัญญานี้จะติดตัวไปทุกภพทุกชาติ จะสอนตัวเองได้ว่า มีทรัพย์แล้วให้ใช้ทรัพย์เป็น ใช้ทรัพย์เพื่อการสร้างบารมีไปสู่อายตนนิพพาน ไม่ใช่ใช้ทรัพย์ไปในทางที่ไม่เกิดประโยชน์ ปัญญาจะเกิดขึ้นอย่างนี้ นอกจากนี้ยังได้สิ่งที่ตามมาอีก คือได้ประโยชน์ทั้งสาม คือ ประโยชน์ในปัจจุบัน จะทำให้มีความสุขพรั่งพร้อมด้วยสมบัติต่างๆ ทั้งลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ประโยชน์ในอนาคต ก็มีสวรรค์เป็นที่ไป ซึ่งเป็นที่พักกลางทางระหว่างที่ยังสร้างบารมีอยู่ และประโยชน์อย่างยิ่ง คือ เข้าถึงความสุขอันเป็นอมตะ เป็นความสุขที่เกิดจากการเข้าถึงกายธรรมอรหัต สุขจากพระนิพพาน
ดังนั้น ให้ทุกๆ ท่านหมั่นสั่งสมบุญไว้มากๆ อย่าได้กลัวที่จะทำบุญกันเลย แต่ให้กลัวว่าจะไม่ได้สั่งสมบุญ หลวงพ่อนี่กลัวจริงๆ นะ กลัวว่าพวกเราจะได้บุญน้อย เกิดมาแล้วมีโอกาสสร้างบุญได้ไม่เต็มที่ จึงได้เชิญชวนให้ทุกท่านหมั่นสั่งสมกายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริตไว้ให้มากที่สุด ด้วยการหมั่นทำบุญ ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ทำให้สมํ่าเสมอ อีกทั้งหมั่นฝึกฝนอบรมใจให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ ให้หยุดนิ่งกันทุกๆ วัน แล้วเราจะสมปรารถนาได้เข้าถึงพระธรรมกายภายในกันทุกคน
พระธรรมเทศนาโดย : พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย)
* มก. เล่ม ๓๒ หน้า ๒๘๕