ธรรมชนะอธรรม

วันที่ 15 มค. พ.ศ.2559

ธรรมชนะอธรรม

         สาเหตุที่ตรัสชาดก ภิกษุสนทนากันในโรงธรรมสภาว่า พระเทวทัตเกรี้ยวกราดกับพระตถาคตเจ้าจึงถูกแผ่นดินสูบเสียแล้ว พระทศพลเสด็จมาทรงทราบเรื่องนั้นแล้วตรัสว่า มิใช่แต่บัดนี้เท่านั้น แม้ในกาลก่อน เธอก็เคยให้ประหารในธรรมจักรมาแล้ว จึงได้นำอดีตมาสาธกดังต่อไปนี้..

 

         สมัยหนึ่ง ณ โลกสวรรค์ มีเทพบุตรองค์หนึ่งนามว่า "ธรรม" ทุกจันทร์เพ็ญ ธรรมเทพบุตรจะทรงรถทิพย์ลงไปยังโลกมนุษย์ ชักชวนชาวโลกให้ยึดถือกุศลกรรมบถ 10 งดการฆ่าสัตว์ บำรุงบิดามารดา ประพฤติธรรม เป็นต้น แล้วจะมีสวรรค์เป็นที่ไป ขณะธรรมเทพบุตรแล่นรถเวียนขวาไปทั่วชมพูทวีปเพื่อป่าวประกาศธรรมอยู่ กาลนั้นยังมีเทพบุตรอีกตนชื่อว่า "อธรรม" แล่นรถเวียนซ้ายทั่วชมพูทวีปป่าวประกาศอธรรม ชวนคนทำชั่ว ให้ฆ่าสัตว์ เป็นต้น แล้วจะไปสวรรค์ ได้มาบรรจบกับธรรมเทพบุตรกลางอากาศ เมื่อสองฝ่ายทราบปฏิปทากันแล้ว ต่างนิ่ง ไม่มีฝ่ายใดขยับหลบหลีกให้อีกฝ่ายเป็นเด็ดขาด ข้อปฏิบัติสวนกัน ทางย่อมสวนกัน อากาศวิถีแม้กว้างขวางแต่สถานการณ์เช่นนี้มิอาจหลีกให้กันได้ ฝ่ายใดเปิดทาง นั่นหมายถึงการยอมรับนับถือปฏิปทาของอีกฝ่าย ธรรมเทพบุตรมิอาจหลีก แม้ต้องตายก็ไม่อาจหลีก

 

         "สหายเอ๋ย เธอเป็นฝ่ายอธรรม ฉันเป็นฝ่ายธรรม หนทางนี้สมควรแก่ฉันแล้ว ฉันเป็นผู้แกล้วกล้า ทรงยศ เป็นผู้สร้างบุญ หมู่สมณะและพราหมณ์พากันสรรเสริญอยู่ทุกเมื่อ ทั้งเทวาและมนุษย์ก็พากันบูชา เธอจงขับรถหลีกไป แล้วให้หนทางนี้แก่ฉันเถิด" ธรรมเทพบุตรกล่าวขึ้นก่อน


"ธรรมเทพบุตร! เราคือ อธรรม ไม่เคยเกรงกลัวผู้ใด เรามีพละกำลังเข้มแข็ง ธรรมเอ๋ย! ฉะนี้แล้ว เราจะหลีกทางที่ไม่เคยหลีกให้ใครแก่ท่านในวันนี้ เพราะเหตุอะไรฤ" อธรรมเทพบุตรกล่าวตอบ


"ธรรมปรากฏก่อน อธรรมเกิดขึ้นภายหลัง เราเป็นผู้เจริญกว่า ประเสริฐกว่า และเก่าแก่กว่าท่านจงให้ทางแก่เราเถิด น้องเอ๋ย!" ธรรมเทพบุตรกล่าว

 

"เราไม่ให้ทางแก่ท่านหรอก แม้ว่าท่านจะขอร้องหรือเป็นผู้สมควรจะได้ก็ตาม วันนี้เราทั้งสองมารบกัน แล้วหนทางจะเป็นของผู้ชนะ ตกลงไหม"อธรรมเทพบุตรเสนอ

 

    "เราชื่อว่าธรรม เป็นผู้ลือชาปรากฏทั่วทุกทิศ มีกำลังมาก และยศก็ไม่มีประมาณ ไร้ผู้เสมอเหมือน ประกอบด้วยคุณทั้งปวง อธรรมเอ๋ย ท่านจะชนะเราได้อย่างไร" ธรรมเทพบุตรกล่าว


"เขาเอาค้อนเหล็กตีทอง หาเอาทองมาตีเหล็กไม่ หากเราผู้อธรรมฆ่าท่านในวันนี้ได้ เหล็กคงจะน่าดูชมเหมือนทองเลยทีเดียว" อธรรมเทพบุตรกล่าว


"อธรรมเทพบุตร ถ้าท่านมีกำลังในการรบไซร้ ผู้หลักผู้ใหญ่และครูของท่านมิได้มีเลย เราจะยอมให้หนทางด้วยอาการอันน่ารังเกียจของท่าน ทั้งจะขออดทนถ้อยคำชั่วของท่านเสียดีกว่า"

 

         ธรรมเทพบุตรต่อสู้ด้วยธรรมาวุธคือขันติ มิได้ทิ้งธรรมให้เสียทีอธรรม เมื่อกล่าวถ้อยคำจบอธรรมเทพบุตรก็หกคะเมนตกจากรถลงสู่พื้นโลก ปฐพีเปิดช่องให้ไปสู่อเวจีมหานรกทันที มีเสียงรำพันเพ้อแว่วขึ้นมาว่า..

"เราอยากจะรบก็ไม่ได้รบ เราถูกตัดรอนเสียแล้ว ด้วยเหตุเพียงเท่านี้เอง"ธรรมเทพบุตรผู้มีขันติเป็นกำลัง มีจิตเที่ยงตรง ทรงกำลังมาก บากบั่นต่อสู้ ชำนะการรบได้อธรรมเทพบุตรถูกฝังเสียแล้วในแผ่นดิน ธรรมเทพบุตรขึ้นสู่รถ ดำเนินไปตามทางของตนต่อไป..

 

ประชุมชาดก
          พระทศพลทรงประชุมชาดกว่า อธรรมเทพบุตรในกาลนั้นมาเป็นพระเทวทัต ธรรมเทพบุตรมาเป็นตถาคตแล

         จากชาดกเรื่องนี้ ธรรมเทวบุตร หากหลบหลีกเทวาพาล มิต้องเจรจาหาความย่อมทำได้แต่เพื่อเชิดชูเทิดทูนธรรม ไม่อาจนอบน้อมต่ออธรรม จึงต้องยืนหยัดสู้ เป็นผู้ประพฤติชอบธรรมซึ่งบัณฑิตทั้งหลายจักไม่อาจติเตียนได้ แต่เมื่อพาลอธรรมยืนยันจะให้สู้ด้วยวิธีพาล ฝ่ายธรรมจึงไม่รับสู้ด้วยพาลวิธี แต่สู้ด้วยอำนาจขันติโดยหลีกทางให้โดยชอบธรรม


"นิสัยไม่ทำลายธรรม, ไม่ให้ธรรมเสื่อม, รักการสู้ด้วยขันติ, มีขันติเป็นกำลัง และไม่สู้ด้วยวิธีอธรรม" ทั้งหมดนี้จึงนับเป็นนิสัยในวิถีนักสร้างบารมีที่นับเนื่องเข้าในขันติบารมี

-----------------------------------------------

SB 405 ชาดก วิถีนักสร้างบารมี

กลุ่มวิชาพุทธวิธีในการพัฒนานิสัย

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.013908596833547 Mins