ห้องน้ำ
ห้องพัฒนานิสัย "พิจารณาสังขาร"
1. ดูดีๆ ร่างกายนี้มีแต่...
"ในตัวเราล้วนมี...ขี้ตา ขี้หู ขี้มูก ขี้ฟัน ขี้เล็บ ขี้ไคล และ ขี้ (อุจจาระ)
แทบจะเรียกได้ว่าร่างกายแต่ละส่วนมีสิ่งปฏิกูลอยู่เต็มไปหมด"
เราเคยคิดอิจฉาใครบ้างไหม ว่าทำไมคนนั้นหล่อ/สวยกว่าเราหรือเคยหลงเสน่ห์คนที่มีหน้าตาเป็นที่นิยมชมชอบของใครหลายๆคนบ้างไหม หากเราเป็นหนึ่งในนั้นขอเชิญฟังทางนี้ก่อน
เรามาลองสังเกตกันดีกว่า ในร่างกายของเราแต่ละส่วนของเรามีสิ่งสกปรกอะไรที่ออกมาตลอดเวลา.. ใช่แล้ว ในตัวเรามีขี้ตา ขี้หู ขี้มูก ขี้ฟัน ขี้เล็บ ขี้ไคล และขี้ (อุจจาระ) แทบจะเรียกได้ว่าร่างกายแต่ละส่วนมีสิ่งปฏิกูลอยู่เต็มไปหมดอีกทั้งภายในตัวเราก็มีแต่สิ่งไม่น่าดูทั้งก้อนเนื้อ น้ำเลือด กระดูก ฯลฯ เราจึงควรพิจารณาตามความเป็นจริงเสมอว่าร่างกายของเราและของคนอื่นเป็นสิ่งไม่งาม ไม่น่าดู ไม่น่าชม เป็นเพียงสิ่งปฏิกูลที่มีถุงหนังบางๆ หุ้มไว้เท่านั้น หากเราลองไม่อาบน้ำสัก 3 วัน เราไปใกล้ใครก็คงมีคนยี้ใส่เราแน่นอน ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องดูแลทำความสะอาดร่างกายของเราตลอดเวลา...
หากเราเห็นตามความเป็นจริงดังกล่าวข้างต้นได้ ใจจะไม่คิดอิจฉาหรือหลงเสน่ห์ใครให้เสียเวลา (โดยเฉพาะในวัยเรียนที่ยังไม่ถึงเวลาของเรื่องแบบนี้) ทั้งยังไม่หมกมุ่นในโทษของสิ่งลามกอนาจารไม่หลงตัวเองไม่ยึดติดในรูป และไม่เคียดแค้นชิงชังใคร เพราะพิจารณาเห็นถึงความไม่งามของร่างกายนี้
2. มารักษาความสะอาดร่างกายกันเถอะ
เทคนิคการอาบน้ำโดยใช้ผ้าถูตัวลองทำดูแล้วจะพบกับความสบาย อย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน ทั้งนี้ยังช่วยให้กระแสเลือดไหลเวียนได้ดี ผิวหนังสะอาดหมดจดไร้คราบไคล แถมยังนุ่มลื่นอีกด้วย ซึ่งมีวิธีง่ายๆดังนี้
ตอนอาบน้ำอย่างเดียวก็ผิวสวยได้ด้วยผ้าถูตัว
1. ใช้ผ้าถูตัวชุบน้ำให้โชก พับพอดีมือเช็ดหน้าเบาๆ
2. ชุบน้ำอีกครั้งแล้วเช็ดทั้งตัว แล้วถูสบู่กับผ้าถูตัว
3. ใช้ผ้าถูทั่วร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณใต้คาง ซอกหู ลำคอ รักแร้ ง่ามมือ ง่ามเท้า ซอกขา ข้อพับ
4. ซักผ้าในถังอาบน้ำให้สะอาด แล้วใช้ถูสบู่ออกจากตัว
5. ล้างคราบสบู่ออกอีกครั้งด้วยฝักบัว(หรือตักราดเบาๆ ให้น้ำรดทั่วตัว)
6. ซักผ้าให้สะอาด บิดพอหมาด ซับหยดน้ำที่เกาะตามตัว
ลองทำดูจะพบว่า เรารู้สึกสดชื่นหลังการอาบน้ำ มากยิ่งขึ้นแถมผิวของเรานุ่มลื่นขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งโลชั่นทาผิวเลย
สระผมอย่างไรไม่ทำร้ายเส้นผมและหนังศีรษะ
หลายคนคงเคยทั้งสระผมเองและไปที่ร้านเสริมสวยเพื่อสระผม แต่วิธีการที่เราใช้กันอยู่เป็นประจำนั้น อาจยิ่งเป็นการทำร้ายเส้นผมและหนังศีรษะโดยไม่รู้ตัวก็ได้ งั้นเรามาลองดูวิธีการที่ถูกต้องกันดีกว่า
1. ราดน้ำบนศีรษะ พร้อมทั้งนวดผมเบาๆ ด้วยปลายนิ้ว
2. ใช้แชมพูชโลมผม นวดให้ทั่วศีรษะ ใช้ปลายนิ้วกดไม่ใช้เล็บเกาเพราะเป็นสาเหตุให้หนังศีรษะอักเสบและเกิดรังแคได้
3. ล้างแชมพูออกด้วยน้ำ ให้สะอาดหมดจด
4. ใช้ผ้าซับน้ำออกให้แห้ง อย่าขยี้เส้นผมจะทำให้ผมหัก และหวีเบาๆ ให้เรียบร้อยปล่อยให้แห้งเอง
การล้างมือให้ถูกวิธี
มี 7 ขั้นตอนและทุกขั้นตอนทำ 5 ครั้ง สลับหันทั้ง 2 ข้าง
วิธีล้างมือที่ดี 7 ขั้นตอน
3. ระเบิดเวลาในตัวเรา
หลายคนคงเคยดูหนังสงคราม หรือดูข่าวแล้วเห็นการวางระเบิดเวลา ซึ่งเราไม่อาจรู้เลยว่าจะโดนเมื่อไร แล้วใครเป็นคนวาง แต่เราจะรู้หรือไม่ว่าเราต่างก็มีระเบิดเวลาฝังอยู่ในตัวทุกคนเช่นกันอวัยวะทั้ง 32 อย่าง ที่ประกอบขึ้นเป็นร่างกายนี้ ล้วนเป็นโรคหรือเป็นรังของโรคได้ทั้งสิ้น โรคเป็นสภาวะปกติของร่างกายหรือจิตใจของสิ่งมีชีวิต ซึ่งทำให้การทำงานของร่างกายเสียไป หรืออาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ตราบใดที่กายยังอยู่ คำว่าปราศจากโรคนั้นย่อมไม่มี เพราะกายนี้เป็นรังของโรค มีความเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นธรรมดา เช่นอยู่ๆก็เกิดผื่นคันขึ้นทั่วตัว อยู่ๆก็เกิดโรคมะเร็งกับอวัยวะของเรา เป็นต้น เรียกได้ว่าตั้งแต่หัวจรดเท้าล้วนเกิดโรคได้ทั้งสิ้น
ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่ควรประมาทในชีวิตว่ายังแข็งแรงอยู่ควรถือโอกาสตอนที่เรายังแข็งแรงอยู่เร่งทำความดี เช่น ช่วยเหลืองานคุณพ่อคุณแม่ ทำบุญ นั่งสมาธิ ฯลฯ เพราะเรามั่นใจหรือว่าจะมีชีวิตอยู่ถึงพรุ่งนี้
เกร็ดน่ารู้
โรคมะเร็งเกิดจากเซลล์ดีกลายเป็นเซลล์ร้ายซึ่งอยู่ๆก็เกิดขึ้น แม้นักวิจัยเป็นจำนวนมากทั่วโลก ก็ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่แน่นอนได้
4. ตรวจโรคง่ายๆ จากในส้วมนี่เอง
ตรวจสุขภาพจากปัสสาวะ
หลังจากเราทำภารกิจในห้องน้ำ ลองสละเวลาไม่นานมาสำรวจสุขภาพพื้นฐานของเรากันดีกว่า ลักษณะปัสสาวะที่ดีคือ มีสีเหลืองใสๆ ไม่ขุ่น ไม่มีตะกอน หรือลิ่มเลือด ควรหมั่นตรวจดูปัสสาวะของเราหลังเสร็จธุระ เพื่อให้มั่นใจว่ามันยังใส หรือมีสีเหลืองอ่อนอยู่เสมอ เพราะสีและความใสนั้นเหมือนเป็นดัชนีวัดว่าร่งกายของเราได้รับน้ำอย่างเพียงพอ แต่เมื่อไรก็ตามที่ปัสสาวะของเรามีสีเหลืองเข้ม นั่นหมายความว่าร่างกายของเราอยู่ในภาวะกำลังขาดน้ำ
สีปัสสาวะเราเป็นอย่างไร
- สีปัสสาวะใส อยู่ในภาวะมีน้ำเพียงพอ
- สีปัสสาวะเหลืองอ่อน อยู่ในภาวะเริ่มขาดน้ำเล็กน้อย
- สีปัสสาวะเหลืองเข้ม อยู่ในภาวะเริ่มขาดน้ำปานกลาง
- สีปัสสาวะเหลืองเข้มจัด หรือสีน้ำตาลอ่อน อยู่ในภาวะขาดน้ำมาก
ตรวจสุขภาพจากอุจจาระ
พอจะกล่าวถึงเจ้าเรื่องที่เกี่ยวกับอุจจาระหลายๆคน มีสีหน้าแตกต่างกันออกไป เพราะแน่นอนว่าด้วยลักษณะเด่นของมันคือเป็นของเสีย กลิ่นตุๆ แบบนั้นเมื่อร่างกายขับออกมาก็อยากให้จบๆกันไป แต่รู้ไหมว่าเรื่องอุจจาระนี้ เราจะชะล่าใจไม่ได้เลย เพราะอุจจาระสามารถบอกถึงความผิดปกติของร่างกายได้ อย่าได้อายสายตาตัวเองเลยเพียงแค่เราต้องหมั่นสังเกต สิ่งต่าง ๆ ดังนี้
อุจจาระจมหรือลอย
อุจจาระควรลอยหรือกึ่งลอยกึ่งจม ดีกว่าจมหากจมน้ำ บ่งบอกว่า เจ้าของเน้นกินเนื้อสัตว์มากเกินและละเลยผักผลไม้ จึงขอแนะนำให้กินผักผลไม้เพื่อเพิ่มกากใยเข้าไปมากๆ ระบบขับถ่ายจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งคนที่กินผักและผลไม้มากๆ ยังลดโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งทางเดินอาหารอีกด้วย
ดูซิว่าอุจจาระมีสีอะไร
สีที่เหมาะที่ควรนั้นจะเป็นสีออกเหลือง แต่ถ้าเป็นสีอื่นก็พอจะบอกที่มาได้ เช่นสีเหลืองเขียวขี้ม้า เนื่องจากทานผักมาก สีแดง-ส้ม แสดงว่าเน้นกินมะละกอ-แครอท สีน้ำตาลคล้ำแสดงว่ากินเนื้อสัตว์มากซึ่งยังไม่จัดว่าอันตรายมาก หรือน้ำตาลไหม้แดง แถมมีกลิ่นเหม็นคาวมากจึงถือว่าเป็นสัญญาณอันตราย เตือนว่า คุณอาจมีเลือดออกที่ทางเดินอาหารส่วนต้น ควรไปพบแพทย์ขณะที่อุจจาระที่มีเลือดปนเป็นสีแดงสด อาจเป็นไปได้ว่ามีเลือดออกที่ลำไส้ใหญ่ใกล้รูทวาร ทราบอย่างนี้แล้ว อย่าอายที่จะสังเกตสีและลักษณะของอุจจาระกันเลยนะ เพราะมันเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงสุขภาพของเรา
เกร็ดน่ารู้
05:00-07:00 เป็นช่วงเวลาของลำไส้ใหญ่ ถ้าไม่ถ่ายช่วงนี้อุจจาระก็จะถูกดูดกลับเข้าไปในร่างกายใหม่ทำให้เกิดผลเสียต่างๆตามมา เราจึงควรถ่ายให้เป็นนิสัยทุกเช้า แต่ถ้าไม่ถ่ายจริงๆ ก็ให้ดื่มน้ำหลังตื่นนอน หลายๆแก้ว และกินอาหารที่มีกากใยมากๆ หรือดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาว โดยใช้น้ำ1แก้ว + น้ำผึ้น 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำมะนาว 4-5ลูก ลองทำดูเผื่อช่วยได้
5. หรือไม่ร่างกายเสื่อมอยู่ตลอดเวลา
เข้าห้องน้ำส่องกระจก นอกจากจะมองเห็นเงาตัวเราแล้ว สังเกตเห็นอย่างอื่นบ้างหรือไม่ความเสื่อมของร่างกายเกิดขึ้นได้ในทุกๆวัน แม้กระทั่งเด็กๆก็สามารถเกิดความเสื่อมของร่างกายได้เช่นกัน แต่เป็นการเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย ไม่แสดงออกมาให้เห็นภายนอกอย่างชัดเจนเหมือนกับผู้ใหญ่ ที่เมื่ออายุมากขึ้นความเสื่อมของร่างกายก็เกิดมากขึ้นตามด้วย ถึงแม้ร่างกายจะสามารถสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาซ่อมแซมตามกลไกธรรมชาติของร่างกาย แต่โรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย เช่นโรคเบาหวาน หัวใจ ความดันโลหิต มะเร็ง นั้นเริ่มเกิดขึ้นได้ในเด็กมากขึ้น สาเหตุทั้งจากพันธุกรรม สิ่งแวดล้อม การรับประทานอาหาร ที่เป็นตัวเร่งความเสื่อมของร่างกายให้เกิดเร็วขึ้นหรือเกิดก่อนวัยอันควร
"โดยเฉลี่ยคนเราจะเริ่มรู้สึกหรือมีอาการร่างกายเสื่อมเมื่ออายุประมาณ 30 ปี ซึ่งสังเกตได้จากอาการอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว นอนไม่หลับ ป่วยง่าย เป็นต้น แต่ในปัจจุบันการเกิดความเสื่อมในร่างกายมีแนวโน้มจะเกิดกับคนที่มีอายุน้อยลงเรื่อยๆ ด้วยสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป มีผลทำให้ร่างกายต้องเผชิญกับตัวเร่งความเสื่อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในแต่ละช่วงอายุจึงมีโอกาสเกิดความเสื่อมของอวัยวะในร่างกายได้ตามวัย ซึ่งจะสัมพันธ์กับการเกิดโรค "
จากบทความข้างต้นจะเห็นได้ว่า ร่างกายของเราทุกคนเสื่อมไปอยู่ตลอดเวลาทุกวันและทุกช่วงวัยไม่เว้นว่าจะเป็นเด็กหรือเป็นผู้ใหญ่ ดังนั้นเราจึงไม่ควรประมาทในวัยว่าเรายังเด็กอยู่ยังไม่แก่ยังมีชีวิตอีกยาวไกล ฯลฯ สิ่งที่เราควรทำคือ พิจารณาความเสื่อมโทรมไปของร่างกายอยู่เป็นนิจถ้าพิจารณาได้ เราจะไม่ประมาทในวัย ใจไม่คิดเบียดเบียนรังแกใคร เพราะได้พิจารณาเห็นความไม่แน่นอนของชีวิต และเป็นเพื่อนร่วมทุกข์จากการเกิด เจ็บ ตาย ของคนทั้งโลก
เกร็ดน่ารู้
ผิวหนังของคนเรามีการเสื่อมสภาพตายไปและสร้างขึ้นใหม่อยู่ตลอดเวลาในทุก 3 สัปดาห์ การผลัดเซลล์ผิวทำให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ ส่งผลให้หน้าสดใสกระจ่างขาวและเนียนนุ่ม แต่เมื่ออายุเกิน 20 ปี การผลัดเซลล์จะค่อยๆลดลงตามอายุที่เพิ่มมากขึ้นหลังจากอายุ20ปี เราจะผลิตคอลลาเจนในผิวหนังลดลง 1% ทุกปี ซึ่งทำให้ผิวหนาและอ่อนแอ มากขึ้นตามอายุการทำงานของต่อมเหงื่อและต่อมน้ำมันใต้ผิวก็จะลดลงการ สร้างอิลาสตินลดลง และปริมาณ GAGs ก็ลดลง ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น แม้จะเป็นสิ่งที่ค่อยๆ เกิดขึ้น แต่เราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย
6. หลักง่ายๆเพื่อความสะอาดของห้องน้ำ
ห้องน้ำที่เราใช้เองเป็นประจำทุกวัน เราก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบในการช่วยกันดูแลรักษาความสะอาดกันนะ
หลักในการล้างห้องน้ำ
1. ทำความสะอาดจากบนลงล่างและด้านในออกด้านนอก
2. ทำความสะอาดบริเวณที่ยากก่อน เช่น ซอกมุม
3. เช็ด ถู ไปในทิศทางเดียวกัน
4. ใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสมกับวัสดุและพื้นผิวที่จะทำ
หมั่นเช็ดล้างห้องน้ำให้สะอาดและแห้งทั้งเครื่องสุขภัณฑ์ ผนัง พื้น ดูแลการระบายน้ำ อย่าให้อุดตัน โดยขัดล้างให้สะอาดสักวันละครั้ง นอกจากล้างออกง่ายสะอาด ปราศจากสิ่งตกค้างแล้วยังรักษาสุขภัณฑ์ให้มีอายุยืนยาวและดูใหม่เสมออีกด้วย
หลังใช้ห้องน้ำทุกครั้งควรตรวจสอบความสะอาดโดยเก็บเศษผมขยะให้หมดใช้ผ้าเช็ดโถส้วม ผนัง และพื้นให้แห้ง สะอาดอยู่เสมอ คือเราทำอะไรเลอะเทอะไว้ก็ต้องรับผิดชอบทำความสะอาดทันทีเพื่อฝึกให้เราเป็นคนไม่มักง่ายหรือเกี่ยงงานทั้งยังได้ฝึกความเป็นคนช่างสังเกตและเห็นใจผู้อื่น จากการตรวจสอบความสะอาดก่อนออก เพื่อให้คนถัดไปรู้สึกดีที่ได้ใช้ห้องน้ำสะอาดเหมือนเป็นคนแรกที่ได้ใช้ห้องน้ำ
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับห้องน้ำ
ทำอย่างไรห้องน้ำ เป็นห้องแห่งการสร้างบุญ
คำนิยามที่แท้จริงของห้องน้ำคือ ห้องพัฒนานิสัยพิจารณาสังขารร่างกายตามความเป็นจริง คือ พัฒนานิสัยเราให้เป็นคนไม่ประมาท ไม่หลงในวัย จากการที่เราได้พิจารณาความไม่งามความเป็นรังของโรคและความไม่เที่ยงของร่างกายทุกวัน
หลักธรรมประจำห้องน้ำคือ สัมมาสังกัปปะ หมายถึง ความดำริชอบ คิดพิจารณาสิ่งต่างๆถูกต้องตามความเป็นจริงห้องน้ำจึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ห้องมหาพิจารณา"
หน้าที่หลักของห้องน้ำ
1. พิจารณาว่าร่างกายเป็นของไม่งามเพราะร่างกายเต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูล
2. พิจารณาว่าร่างกายเป็นรังของโรค เปรียบดั่งระเบิดเวลาที่พร้อมจะระเบิด เพียงแต่ไม่รู้ว่าเมื่อไร จึงต้องไม่ประมาทในการทำความดี
3. พิจารณาว่าร่างกายเสื่อมโทรมอย่างตลอดต่อเนื่อง
ทั้ง 3 ข้อนี้ เป็นพื้นฐานของการคิดถูก คือ ไม่คิดหมกมุ่นในกาม ไม่คิดอาฆาตเคียดแค้น ไม่คิดเบียดเบียนรังแกใครอันเป็นต้นทุนสำคัญของพลังความคิดสร้างสรรค์
ประโยชน์จากการใช้ห้องน้ำอย่างถูกต้อง
ทางใจ
1. ใจไม่หมกมุ่นในโทษของสิ่งลามกอนาจารเพราะได้พิจารณาความจริงอันไม่งามของร่างกายตามความเป็นจริง
2. ใจไม่คิดอาฆาตเคียดแค้นเพราะได้พิจารณาเห็นถึงความเป็นรังแห่งโรคของร่างกายและความไม่จีรังยั่งยืนของชีวิต
3. ใจไม่คิดเบียดเบียนรังแกใคร เพราะได้พิจารณาเห็นถึงความเป็นเพื่อนร่วมทุกข์จากการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ของคนทั้งโลก
ทางกาย
1. รู้เท่าทันสุขภาพร่างกายในแต่ละวันและแต่ละวัยของตนเอง เพื่อจะได้หาความรู้และดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
2. ดูแลรักษาความสะอาดร่างกายให้ถูกสุขอนามัยจะได้ไม่เกิดโรค
3. พิจารณาสีและลักษณะของอุจจาระและปัสสาวะที่ขับถ่ายออกจากร่างกายในแต่ละวัน จะได้รู้ว่าสุขภาพภายในเป็นปกติหรือผิดปกติ