หลวงพ่อสอนอะไร (ตอนที่ ๔๐)
การสร้างวัดในต่างแดน
ด้วยความมุ่งหวังและมีจุดมุ่งหมายที่จะเอาพระพุทธศาสนาไปเผยแผ่ในต่างประเทศ วัดต่าง ๆ จึงได้มีการส่งพระธรรมทูตออกไปทำหน้าที่ทั่วทุกมุมโลก
แต่ละวัดก็จะมีวิธีการบริหาร การจัดการที่แตกต่างกันในรายละเอียด แต่อยู่ภายใต้หลักการเดียวกันคือ การไปเผยแผ่ธรรมะของพระผู้มีพระภาคเจ้า
สำหรับวัดพระธรรมกายก็มีความตระหนักและเห็นความสำคัญในภารกิจนี้เช่นกัน จึงได้ส่งพระภิกษุไปสานต่อปณิธานของหลวงปู่วัดปากน้ำซึ่งปัจจุบันได้มีการสร้างวัดไปทั่วทุกทวีป
ก่อนที่อาตมาจะได้ไปทำหน้าที่ที่ต่างประเทศเมื่อหลายปีก่อน ได้เข้าไปกราบลาหลวงพ่อทั้งสอง
หลวงพ่อธัมมชโยได้ให้โอวาทสั้น ๆ แต่ประทับอยู่ในใจจนถึงทุกวันนี้ว่า “ ให้ลูกไปทำหน้าที่เป็นแสงสว่างของชาวโลก เอาธรรมะของพระพุทธเจ้าให้เข้าไปสู่ใจของเขาเหล่านั้น ให้เขาได้เข้าถึงความจริงของชีวิต ”
ส่วนหลวงพ่อทัตตชีโว ก็ได้ให้แนวทางในการทำงานเอาไว้ว่า “ ให้จำไว้ว่า เมื่อเอ็งไปอยู่ที่ไหนก็ตาม ขอให้ยึดหลัก ๒ ข้อ
ประการแรก ให้เอาน้ำใกล้ดับไฟใกล้ คือ เอ็งต้องไปทำให้คนรอบวัดมาวัดให้ได้ เพราะความมั่นคงของพระพุทธศาสนานั้น จะดูได้จากคนบ้านนั้นเมืองนั้นเขามาถวายภัตตาหารหรือมาตักบาตร ให้เราหรือยัง อีกประการคือ คนบ้านนั้นเมืองนั้น เขามาบวชหรือยัง หากยังไม่ได้ ถือว่ายังไม่ได้ไปทำงานเผยแผ่
ประการที่สอง ไปอยู่ที่ไหนให้เอาดินที่นั่นถมที่นั่น คือ อย่าคิดว่าทางวัดใหญ่จะส่งเงินไปให้ เอ็งและทีมงานจะต้องหาวิธีสร้างศรัทธาให้เกิด ให้คนเขามาทำนุบำรุงวัดวา ทางวัดใหญ่จะช่วยในเรื่องการส่งสื่อ ส่งหนังสือธรรมะให้เท่านั้น ”
สำหรับประการที่สองนี้ หลวงพ่อธัมมชโยก็เคยบอกพระลูกชายเสมอว่า “ หลวงพ่อขออนุโมทนาที่พวกเรามีจิตศรัทธาในการไปสร้างวัด แต่ให้ถามตัวเองดูว่า ไปแล้วจะเลี้ยงตัวเองได้ไหม หากเลี้ยงตัวเองได้ก็ให้ไปทำ แต่หากไปแล้วเลี้ยงตัวเองไม่ได้ อย่าไปเพราะที่วัดพระธรรมกายเองก็มีภาระที่จะต้องดูแลหมู่คณะที่นี่อยู่ ”
จากนโยบายของหลวงพ่อทั้งสอง ทำให้การเกิดขึ้นของวัดพระธรรมกายในต่างแดนจะเป็นรูปแบบเดียวกัน คือ มีกลุ่มคนที่มีศรัทธารวมตัวกันประพฤติปฏิบัติธรรม จนกระทั่งเห็นพ้องต้องกันว่าจะร่วมกันสร้างวัด แล้วจึงนิมนต์พระภิกษุไปอยู่ประจำ โดยที่ทางวัดไม่มีนโยบายในการจะนำเงินจากประเทศไทยไปสร้างวัดแต่อย่างใด
ดังนั้นวัดพระธรรมกายในต่างแดน จึงเกิดจากน้ำพักน้ำแรงและความศรัทธาเลื่อมใสในพระรัตนตรัย ญาติโยมทั้งหลายจึงได้ทุ่มเทสร้างวัดแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
ฉะนั้น หากมีหน่วยงานใดของรัฐหรือบุคคลใดก็ตามที่จ้องจับผิด คิดว่ามีการฟอกเงินเอาไปสร้างวัดในต่างประเทศ ขอให้รู้เถิดว่า ท่านกำลังดูถูกน้ำใจของชาวพุทธที่แท้จริง ซึ่งเป็นผู้รักเคารพและเทิดทูนพระพุทธศาสนายิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ที่ตลอดชีวิตของท่านคงจะไม่มีโอกาสได้พบเห็น ขอย้ำอีกครั้งว่า
“ อย่าเอาวินิจฉัยเสีย ๆ ของคนพาล มาตัดสินวินิจฉัยดี ๆ ของบัณฑิต ”
ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก
อาสภกันโต ภิกขุ
๒๙ ส.ค. ๕๙
anacaricamuni.blogspot.ae