วันสำคัญของพระสงฆ์
วันสำคัญของพระสงฆ์ ได้แก่ วันพระ วันมาฆบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา วันทอดกฐิน เป็นต้น วันสำคัญเหล่านี้มีคำอธิบายพอสังเขปดังนี้
1. วันพระ
วันพระ โดยทั่วไปหมายถึง วันประชุมถือศีลฟังธรรมในพระพุทธศาสนา ในหนึ่งเดือนจะมีวันพระ 4 ครั้งคือ วันขึ้น 8 ค่ำ, วันขึ้น 15 ค่ำ, วันแรม 8 ค่ำ และวันแรม 15 ค่ำ ถ้าเดือนขาดก็เป็นแรม 14 ค่ำ
กิจสำคัญของพระสงฆ์นั้นจะมีในวันพระใหญ่คือ วันขึ้น 15 ค่ำ และวันแรม 15 ค่ำ หรือวันแรม 14 ค่ำ เพราะจะเป็นวันที่พระสงฆ์จะประชุมทบทวนศีล 227สิกขาบท หรือที่เรียกว่า การประชุมฟังสวดพระปาฏิโมกข์ ซึ่งจะมีตัวแทนของพระสงฆ์ วดศีลทั้ง 227สิกขาบทให้พระภิกษุที่เหลือฟังพร้อมกัน เพื่อเป็นการตอกย้ำความจำและพิจารณาว่าตนเองทำผิดศีลข้อไหนบ้าง จะแก้ไขและสำรวมระวังต่อไป
ก่อนวันพระใหญ่หนึ่งวันจะเรียกว่า "วันโกน" ซึ่งเป็นวันที่พระภิกษุปลงผม เพื่อเตรียมตัวเข้าพิธีฟังสวดพระปาฏิโมกข์ในรุ่งขึ้น
ปกติทุกวันพระ พุทธศาสนิกชนจะนิยมมาทำบุญที่วัดและฟังธรรม ที่มาของคำว่า "วันพระ" นั้นสันนิษฐานว่าเป็นวันในพระพุทธศาสนา เป็นวันหยุดทำงานของชาวพุทธเพื่อไปประกอบศาสนกิจในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชน
2. วันมาฆบูชา
มาฆบูชา หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญกลางเดือนมาฆะ ซึ่งเป็นวันสำคัญวันหนึ่งในพระพุทธศาสนาเรียกว่า วันมาฆบูชา
คำว่า วันเพ็ญ แปลว่า วันที่พระจันทร์เต็มดวงส่วนคำว่า มาฆะ แปลว่า เดือน 3
วันมาฆบูชา เป็นวันระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในสมัยพุทธกาล 4 อย่างคือ
1) พระอรหันต์สาวก 1,250 รูปมาประชุมพร้อมกัน ณ วัดเวฬุวัน
2) ท่านเหล่านั้นล้วนเป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทา คือ ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้า
3) ท่านเหล่านั้นมาประชุมพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
4) วันที่ประชุมเป็นวันเพ็ญกลางเดือนมาฆะ หรือ เดือน 3
ด้วยเหตุนี้เอง วันมาฆบูชา จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วันจาตุรงคสันนิบาต แปลว่า วันเป็นที่ประชุมพร้อมกันแห่งองค์ 4
ในวันมาฆบูชานั้นปัจจุบันพุทธศาสนิกชนจะไปทำบุญต่าง ๆ ที่วัด ได้แก่ การจุดโคมประทีปเป็นพุทธบูชาและเพื่อตรึกระลึกถึงพระสงฆ์ผู้มาประชุมพร้อมกันดังกล่าว
3. วันอาสาฬหบูชา
คำว่า อาสาฬหบูชา อ่านว่า อาสานหะบูชา หรือ อาสานละหะบูชา แปลว่า การบูชาในวันเพ็ญกลางเดือนอาสาฬหะ หรือ เดือน 8 ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกวันหนึ่งเรียกว่า วันอาสาฬหบูชา ในวันนี้มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นเมื่อครั้งพุทธกาล 3 อย่างคือ
1) เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมครั้งแรก ชื่อว่า ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
2) เป็นวันที่พระสงฆ์อันเป็นพระรัตนตรัยภายนอกเกิดขึ้นครั้งแรกในโลกคือพระอัญญาโกณทัญญะ เมื่อท่านฟังธัมมจักกัปปวัตตนสูตรแล้วก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน และขอบวชในพระพุทธศาสนา
3) หลังจากท่านอัญญาโกณทัญญบวชแล้ว จึงทำให้วันนี้เป็นวันที่พระรัตนตรัยภายนอกครบบริบูรณ์เป็นครั้งแรกคือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
4. วันเข้าพรรษา
คำว่า พรรษา แปลว่า ฤดูฝน เข้าพรรษา หมายถึง การอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือนในฤดูฝนของพระสงฆ์ซึ่งเป็นธรรมเนียมทางพระวินัย พระภิกษุจะไม่เข้าพรรษาไม่ได้ ท่านปรับเป็นอาบัติ และการเข้าพรรษาต้องกล่าวคำอธิษฐาน เรียกว่า อธิษฐานพรรษา
ระยะเวลาเข้าพรรษามี 2 ครั้ง คือ เข้าวันแรม 1 ค่ำเดือน 8 ออกวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 เรียกว่าปุริมพรรษาหรือพรรษาต้น หากเข้าระยะนี้ไม่ทันก็ให้เข้าในวันแรม 1 ค่ำเดือน 9 และไปออกในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เรียกว่า เข้าปัจฉิมพรรษาหรือพรรษาหลัง
พระสงฆ์ส่วนใหญ่นิยมเข้าปุริมพรรษา
วันเข้าพรรษาจึงมี 2 วัน คือ วันแรม 1 ค่ำเดือน 8 อันเป็นปุริมพรรษา และ วันแรม 1 ค่ำเดือน 9 อันเป็นปัจฉิมพรรษา
5. วันออกพรรษา
ออกพรรษา หมายถึง การพ้นกำหนดระยะเวลาการเข้าพรรษา คือ ครบ 3 เดือนแล้ว ออกพรรษาไม่ต้องกล่าวคำอธิษฐานเหมือนเข้าพรรษา เมื่อครบกำหนด 3 เดือนแล้วก็เป็นอันออกพรรษา
ออกพรรษามีระยะกาลออก 2 ครั้ง เหมือนเข้าพรรษา คือ ถ้าเข้าปุริมพรรษาวันแรม 1 ค่ำเดือน 8 ออกพรรษาก็เป็นวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ถ้าเข้าปัจฉิมพรรษา ออกพรรษาก็เป็นวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 ซึ่งตรงกับวันลอยกระทง
ในวันออกพรรษาพระวินัยกำหนดให้พระสงฆ์ผู้อยู่จำพรรษาทำปวารณาก่อนที่จะแยกย้ายกันไปอันเป็นพิธีเกี่ยวกับการยอมให้ว่ากล่าวตักเตือนซึ่งกันและกัน วันออกพรรษาจึงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าวันปวารณา
6. วันทอดกฐิน
กฐิน เป็นภาษาพระวินัย เป็นชื่อเรียกผ้าพิเศษที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ภิกษุผู้อยู่จำพรรษาครบ 3 เดือนแล้วรับมานุ่งห่มได้
กฐิน แปลตามศัพท์ว่า ไม้สะดึง คือ กรอบไม้หรือไม้แบบสำหรับขึงผ้าที่จะเย็บเป็นจีวร ผ้าที่เย็บสำเร็จจากกฐินหรือไม้สะดึงแบบนี้เรียกว่า ผ้ากฐิน การเย็บจีวรด้วยไม้สะดึงนี้เป็นธรรมเนียมของพระสงฆ์ในสมัยพุทธกาล ซึ่งภิกษุหลายรูปจะต้องช่วยกันเย็บจีวรของกันและกัน
ทอดกฐิน คือ การทำพิธีถวายผ้ากฐินแก่สงฆ์ผู้จำพรรษาครบ 3 เดือน ณ วัดใดวัดหนึ่ง
กฐินมีกำหนดระยะเวลาถวาย จะถวายตลอดไปเหมือนผ้าชนิดอื่นไม่ได้ ระยะเวลานั้นมีเพียง 1 เดือน คือ ตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 ระยะเวลานี้เรียกว่า กฐินกาล คือ ระยะเวลาทอดกฐินหรือเทศกาลทอดกฐิน
ส่วนวัดไหนจะกำหนดให้มีพิธีทอดกฐินวันไหนก็ได้ แต่ต้องอยู่ภายในระยะเวลาดังกล่าววันสำคัญของพระสงฆ์ที่กล่าวมานี้อ้างอิงข้อมูลจากหนังสือ "คำวัด พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์" เรียบเรียงโดยพระธรรมกิตติวงศ์ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 1 พุทธศักราช 2548
หนังสือ GB 101 ความรู้พื้นฐานทางพระพุทธศาสนา
กลุ่มวิชาความรู้ทั่วไปทางพระพุทธศาสนา