นิทานเเสนสุข
ตอน เต่าหน่ายกระดอง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเต่าสามตัวพ่อแม่ลูก อาศัยอยู่ริมหนองน้ำที่อุดมสมบูรณ์ด้วยอาหารการกินของสัตว์น้อยใหญ่ วันหนึ่งลูกเต่าเอ่ยถามพ่อแม่ว่า
"พ่อจ๋า แม่จ๋า ทำไมเราต้องทนแบกเจ้ากระดองหนักๆ นี้ไว้บนหลังด้วยล่ะ ทั้งๆที่จริงแล้วมันก็ถอดได้นี่นา"
เมื่อพ่อแม่เต่าได้ฟังก็ทำสีหน้าตกใจและรีบตอบคำถามลูกในทันที
"อย่านะลูก อย่าเด็ดขาด อย่าถอดกระดองออกจากหลังของเจ้า เพราะกระดองที่หุ้มห่อตัวเจ้าอยู่นั้นเปรียบเสมือนเสื้อผ้าอาภรณ์ที่ปกปิดร่างกายอันมีค่าที่สุดของชีวิตเรา"
พ่อแม่เต่าช่วยกันชี้แนะด้วยความห่วงใย ลูกเต่าได้ฟังกลับทำสีหน้าไม่พอใจ และย้อนถามกลับไปอีกว่า
"สำคัญอะไรกันนักหนาหรือแม่ หนูว่ามันน่ารำคาญน่าเบื่อมากกว่า ความจริงถ้าเราถอดออกจะไปไหนมาไหนก็คล่องตัวสะดวกสบาย ใครๆก็จะได้เห็นรูปร่างที่แท้จริง ของเราเสียที "
ลูกเต่าโต้แย้งพร้อมกับทำอาการหงุดหงิด เมื่อพ่อแม่ได้ฟังดังนั้นต่างกันพากันถอนใจหมดกำลังใจที่จะอธิบายต่อ จึงปล่อยให้ลูกได้รับอิสระในความคิด ได้ทำในสิ่งที่ต้องการ
วันหนึ่งลูกเต่าจึงลองถอดกระดองออกและพบว่า ตัวเองดูดีขึ้นมากจึงเที่ยวเดินอวดไปมาอยู่แถวหนองน้ำด้วยความเพลิดเพลินใจ สัตว์น้อยใหญ่ได้เห็นเต่าไม่มีกระดองต่างพากันซุบซิบนินทาว่าน่าเกลียด แต่ลูกเต่าเข้าใจว่าสัตว์เหล่านั้นกำลังชื่นชมในรูปร่างของตน
ในที่สุด วันที่โชคร้ายของลูกเต่าก็มาถึง ในขณะที่ลูกเต่ากำลังเดินอวดรูปโฉมอยู่นั้น จระเข้ใหญ่ได้ขึ้นจากหนองน้ำตรงเข้าขย้ำลูกเต่าอย่างไม่ทันตั้งตัว ลูกเต่าพยายามร้องขอความช่วยเหลือเพราะเจ็บปวดมาก
"เจ้าอย่าร้องไปเลยเจ้าลูกเต่าน้อย วันนี้เจ้าไม่มีกระดองห่อหุ้มเนื้อหนังของเจ้าแล้ว ขอให้เราได้ลิ้มรสเนื้อนิ่มๆ ของเจ้าสักที"
จระเข้กล่าวจบก็จัดการกับอาหารมื้อเด็ดในทันที