นิทานสอนใจวัยอนุบาล
ตอน ใบไม้แห่งความดี
มีหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในหมู่บ้านนั้นมีบ้านไม้เก่าๆ หนึ่งหลัง มียายและหลานอยู่ด้วยกัน 2 คน ยายชื่อยายพวง มีหลานชื่อเด็กหญิงพลอย ซึ่งเป็นเด็กกำพร้าพ่อและแม่ตั้งแต่เล็กๆ ยายพวงเป็นคนที่มีจิตใจโอบอ้อมอารีต่อเพื่อนบ้าน ขยันทำมาหากินเต่มีฐานะยากจน มีอาชีพเก็บผัก ขวด และถุงพลาสติกขาย ตลอดจนรับจ้างทั่วๆไป เพื่อเลี้ยงหลานกำพร้า และพยายามเก็บหอมรอมริบไว้ให้หลานเพื่อเป็นทุนการศึกษาต่อไปในอนาคต ยายพวงไม่เคยปริปากบ่นถึงความลำบากในการทำงานให้หลานได้รับรู้ แต่อย่างไร เฝ้าทะนุถนอมและเลี้ยงเด็กหญิงพลอย จนกระทั่งเด็กหญิงพลอยมีอายุได้ 7 ขวบ ถึงเกณฑ์จะต้องเข้าเรียนหนังสือ ยายพวงจึงพาเด็กหญิงพลอยไปสมัครเข้าเรียน เมื่อเพื่อนบ้านทราบข่าวก็พากันสงสาร จึงรวบรวมเสื้อผ้าของลูกตนเองที่ไม่ได้ใช้แล้วมาให้เด็กหญิงพลอย ยายพวงพอได้รับสิ่งของดังกล่าวก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง จึงพาเด็กหญิงพลอยไปขอบคุณเพื่อนบ้านทุกคนที่มีเมตตาต่อตนเองและหลาน พร้อมบอกกับเด็กหญิงพลอยอยู่เสมอว่าอย่ารังเกียจถึงแม้ว่าเป็นเสื้อผ้าหรือสิ่งของต่างๆ ที่เขาใช้แล้วเพราะของทุกสิ่งยังอยู่ในสภาพที่ดี ทำให้เราประหยัดเพื่อที่หลานจะได้มีเงินเก็บไว้เรียนหนังสือ ทุกๆวันยายพวงจะพร่ำสอนเด็กหญิงพลอยอยู่เสมอว่าให้เป็นเด็กดี ขยันเรียนหนังสือ เพื่อต่อไปในอนาคตจะได้ประสบความสำเร็จในชีวิต รู้จักกตัญญูต่อบิดา มารดา ครูบาอาจารย์และผู้มีพระคุณ ตลอดจนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์ต่างๆ และจะต้องเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น จงเป็นคนที่ขยัน อดทน มีระเบียบวินัย และตรงต่อเวลา ห้ามพูดจาโกหก ไม่ต้องอายว่าเราเป็นคนจน มีเพียงบ้านเล็กๆ ไม่ใหญ่โตเหมือนบ้านคนอื่นแต่เราก็มีความสุขได้ เด็กหญิงพลอยก็เชื่อฟังคำสั่งสอนและปฏิบัติตามคำพูดของยายพวงทุกอย่าง ทุกๆวัน เมื่อกลับจากเรียนหนังสือ เด็กหญิงพลอยจะรีบกลับบ้าน และช่วยทำงานบ้าน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของยายพวงที่แก่ขึ้นทุกๆวัน
อยู่มาวันหนึ่ง เด็กหญิงพลอยไปโรงเรียนและเก็บกระเป๋าสตางค์ได้ในกระเป๋าสตางค์นั้นมีเงินจำนวนมาก เด็กหญิงพลอยจึงนำกระเป๋าสตางค์ไปส่งคืนคุณครูเพื่อนำส่งคืนเจ้าของ คุณครูใหญ่จึงประกาศหาเจ้าของกระเป๋าสตางค์
พร้อมทั้งประกาศทั่วโรงเรียนให้ทราบถึงความซื่อสัตย์สุจริตของเด็กหญิงพลอย และให้เป็นนักเรียนตัวอย่างของโรงเรียน เย็นวันนั้น เด็กหญิงพลอยจึงกลับมาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ยายพวงทราบ ยายพวงเมื่อรู้เรื่องก็ดีใจมากและได้บอกกับเด็กหญิงพลอยว่า “เห็นไหมลูก การทำความดีผลตอบแทนก็คือจะทำให้เรามีความสุขและทำให้คนอื่นไม่มีความทุกข์ด้วย เพราะถ้าเราไม่คืนเงินให้เขา เขาจะต้องลำบากมาก”
หลังจากนั้นยายพวงก็เดินไปที่ใต้ต้นไม้หลังบ้านแล้วเด็ดใบไม้มาหนึ่งใบ แล้วยื่นให้เด็กหญิงพลอย เด็กหญิงพลอยก็ถามยายว่า “ยายจ๋า ยายเอาใบไม้มาทำอะไร ” ยายพวงก็ตอบกลับไปว่า “นี่ไงรางวัลของยาย ยายไม่มีเงินไม่มีทองไม่มีอะไรที่จะให้เป็นรางวัล มีเพียงใบไม้แห่งความดีที่จะมอบให้ หลานจงเก็บไว้แล้ววันหนึ่งเมื่อเวลาผ่านไปหลานจงนำใบไม้แห่งความดีมาดู แล้วหลานก็จะภูมิใจในสิ่งที่หลานได้รับมา” เด็กหญิงพลอยจึงรับใบไม้แห่งความดีของยาย และรู้ถึงคุณค่าของใบไม้ แล้วจึงได้รู้ว่าสิ่งตอบแทนที่ได้รับมานั้นไม่จำเป็นต้องเป็นแก้วแหวนเงินทอง เพียงแค่ใบไม้หนึ่งใบแต่มีคุณค่าทางจิตใจที่ยิ่งใหญ่ เด็กหญิงพลอยภูมิใจเป็นอย่างมากที่มียายคอยอบรมสั่งสอนให้เป็นคนดี มีจิตใจโอบอ้อมอารี นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต และไม่ต้องการอะไรมากมายไปกว่าการมีชีวิตที่เป็นสุขเมื่อได้อยู่กับยาย 2 คนในกระท่อมเล็กๆหลังนี้