คนมีบุญมาเกิด

วันที่ 20 พค. พ.ศ.2560

คนมีบุญมาเกิด
 

หลักการสร้างความสุขในครอบครัว , Pre-Degree , วัดพระธรรมกาย , DOU , ธรรมกาย , ปริญญาตรี , พรีดีกรี , พระพุทธศาสนา , พุทธศาสตร์ , พระไตรปิฎก , คนมีบุญมาเกิด

    หลาย ๆ ครอบครัวรู้สึกดีใจที่มีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นในบ้าน บางบ้านเห่อลูกมากถึงกับนิมนต์พระมาทำบุญถวายสังฆทานที่บ้านถึงเจ็ดวันก็มี แต่บางบ้านจัดงานฉลองเมาเจ็ดวันเจ็ดคืนก็มี เมื่อพูดถึงเรื่องการได้เกิดเป็นมนุษย์แล้ว ก็อดตั้งข้อสังเกตไม่ได้ว่า แม้จะได้เกิดเป็นมนุษย์เหมือนกัน เป็นพี่น้องท้องเดียวกัน แต่เหตุใดคนเรานั้นจึงแตกต่างกัน อะไรเป็นสิ่งกำหนดความแตกต่างของคนเรา

       คำถามเหล่านี้ ถ้าหากไม่พบพระพุทธศาสนาย่อมไม่มีทางรู้ความจริงได้เลย

     คำสอนในพระพุทธศาสนาได้ส่องทางให้เรามองเห็นว่า ความแตกต่างของชีวิตนั้นเป็นเรื่องน่าฉงน มนุษย์เกิดในโลกใบเดียวกัน แต่ไม่รู้ความเป็นมาของตนเองเหมือนกัน ไม่รู้ว่าโลกใบนี้อยู่ที่ใดของจักรวาลเหมือนกัน ไม่รู้ว่าตายจากโลกนี้ไปไหนเหมือนกัน ทุกที่ในโลกนี้มีปริศนาให้ค้นหาคำตอบเต็มไปหมด

ยกตัวอย่างเช่น
      บางคนเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา แต่บางคนกลับมีชีวิตได้ออกมาดูโลกภายนอก

      บางคนเกิดมาแข็งแรง แต่บางคนพิการแต่กำเนิด หูหนวก ตาบอด

      บางคนเกิดมาก็รวยเลย แต่บางคนเกิดมา แม้แต่น้ำนมจากมารดาก็ไม่มีจะกิน

      บางคนเกิดมาในชาติตระกูลสูง แต่บางคนเกิดมาเป็นลูกชาวบ้าน

    บางคนโตมาจากพ่อแม่เดียวกัน ทำงานเดียวกัน คิดเหมือนกัน วิธีการเดียวกันผลปรากฏว่า อีกคนหนึ่งเจ๊งแต่อีกคนกลับรวย

     และที่ฉงนมากขึ้นอีกก็คือ ในขณะที่เราเกิดเป็นคน แต่อีกหนึ่งชีวิตกลับมาเกิดเป็นสุนัขในบ้าน ยิ่งเป็นความแตกต่างที่ชัดเจน

    ความแตกต่างเหล่านี้ มีให้เราเห็นอยู่เป็นปกติ ถ้าเราไม่เก็บมาคิด ก็จะไม่ใส่ใจอะไรแต่ถ้าเราตั้งเป็นข้อสังเกต เราจะพบว่าเรื่องนี้ มีที่มาที่ไปของมันอย่างแน่นอน แต่ไม่รู้จะเอาคำตอบจากที่ใด

      การที่เราได้พบพระพุทธศาสนา ทำให้เราพบคำตอบว่า กฎประจำโลกนี้ คือกฎแห่งกรรม

      ความแตกต่างของชีวิตขึ้นอยู่กับกรรมประจำตัวบุคคล

     ดังนั้นการที่คนเราเกิดมาเป็นคนเหมือนกัน  แต่ได้รับความสุขทุกข์ไม่เท่ากันก็ยืนยันได้ว่า  ผลกรรมมีจริง และส่งผลข้ามชาติได้จริง

      หลวงพ่อรูปหนึ่ง ท่านเคยเล่าให้ฟังถึงเรื่อง "กรรม" ไว้ว่า

      "คำว่า 'กรรม' เป็นคำกลาง ๆ ไม่ได้หมายถึง ดีหรือชั่ว เพราะกรรม แปลว่า การกระทำ

    แต่พอขึ้นชื่อว่าการกระทำแล้ว ย่อมมีผลเสมอ เหมือนกับเราอิ่มเพราะอะไร เพราะกิน ถ้าไม่กินก็หิว ถ้าไม่นอนก็ง่วง ถ้านอนก็หายง่วง

     กรรมในที่นี้ จึงเป็นคำกลาง ๆ ซึ่งแปลว่า การกระทำ ยังไม่ได้แยกออกว่าทำดีหรือทำชั่ว แต่ถ้าขึ้นชื่อว่า ทำแล้ว เป็นต้องมีผลเสมอ

    ทางวิชาฟิสิกส์บอกชัดเลยว่า แรงที่ส่งออกไปมีผลเท่ากับแรงที่สะท้อนกลับ เซอร์ไอแซก นิวตัน ได้ค้นพบทฤษฎีแรงว่า Action เท่ากับ Reaction ซึ่งก็แปลความหมายแบบธรรมะได้ว่า "ทำอย่างไร ได้อย่างนั้น"

    นักวิทยาศาสตร์เพิ่งค้นพบและทั่วโลกเพิ่งยอมรับเมื่อ 300 กว่าปีมานี้เองแต่พระพุทธองค์ได้ค้นพบกฎแห่งการกระทำ และได้สั่งสอนชาวโลกมาตั้งแต่เมื่อสองพันกว่าปีที่แล้ว และเป็นการค้นพบที่ลึกซึ้งอีกด้วย

    ยกตัวอย่างเช่น เด็กที่ถูกทำแท้ง ถ้ามองกันผิวเผิน ก็จะมองว่า ตัวเด็กเองก็ไม่รู้เรื่องผิดที่พ่อแม่ไม่ตั้งใจจะให้เกิด ก็เลยไปทำแท้ง เด็กเลยอายุสั้น แต่ว่าพระองค์ไม่ทรงสอนให้มองผิวเผินเช่นนั้น ทรง อนให้มองให้ลึก และตั้งเป็นข้อสังเกตว่า ในเมื่อในโลกนี้มีพ่อแม่ตั้งเยอะแยะแต่ทำไมเด็กคนนี้ไม่ไปเกิด ทำไมจะต้องเจาะจงมาเกิดในพ่อแม่ที่จะทำแท้งด้วย

    สาเหตุก็เพราะว่า เด็กมีกรรมฆ่าสัตว์ตัดชีวิตติดตัวมามากแต่ชาติก่อน เมื่อมาเกิดเป็นคน ด้วยเวรที่เคยชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ก็ชักนำให้มาเกิดในท้องของแม่ที่ชอบฆ่าสัตว์อีกเหมือนกัน แม่กับลูก เวรต้องพอกัน จึงจะไปอยู่ด้วยกันได้ ไปเข้าท้องเขาได้ ไม่อย่างนั้นเข้าไม่ได้

    พอเข้าไปแล้ว แม่ก็แพ้ท้องอยากฆ่าสัตว์ บางพวกนี่ แม่แพ้ท้องแล้ว อยากจะกินเลือดสด ๆ ถ้าไม่ได้กินเลือดสด ๆ ไม่หายแพ้ท้อง

    บางพวกหนักข้อเข้าไปอีก พอแพ้ท้อง แม่อยากจะทำอย่างไร แม่อยากจะรีดลูกออกทำแท้งทิ้งเสียเลย นี่กรรมหนักเข้าไปอีก ดูภาพความจริงให้ชัด ผลกรรมมันส่งผลมาลึกและซับซ้อนกว่าที่เราเห็น

     แล้วบางช่วงเวรยิ่งส่งผลชัด คือเมื่อคนมีบาปจากเวรปาณาติบาต มาเกิดมากขึ้นบ้านเมืองในช่วงนั้นก็เกิดการผลักดันให้เกิดกฎหมายทำแท้งเสรีขึ้นมา

    ทำไมเป็นอย่างนั้น ถ้าไม่เจอพระพุทธศาสนา เรื่องนี้เราจะมองไม่ออก คำตอบก็คือเพราะว่าคนประเภทที่มีกรรมฆ่าสัตว์มีเยอะ คนปาณาติบาตมาเกิดมากเข้า เข้าไปในท้องพ่อท้องแม่ส่งผลให้มีการพยายามจะเขียนกฎหมายฆ่า เพื่อจะทำแท้งออกมาให้ได้

      ขณะที่คนมีบุญมาเกิดแล้ว แม่เป็นอย่างไร 

     พระพุทธศาสนาบอกไว้ชัดเจนว่า เมื่อคนมีบุญจะมาเกิด ผลบุญก็จะพาความเจริญก้าวหน้ามาสู่ครอบครัวนั้นด้วย แน่นอนว่า แม่จะตั้งตารอวันรอคืน เมื่อไรหนอ เราจะมีลูกกับเขาบ้าง ทำบุญทำทาน ก็จุดธูปเทียนอธิษฐาน ขอให้ได้ลูกดี ๆ มาเกิดเถอะ พอใครเขาจุติจากสวรรค์ เมื่อถึงคราวจะต้องมาเกิด เขาก็เลือกแม่ได้อย่างดีเยี่ยมเลย เลือกแม่ใจบุญ พอเข้ามาอยู่ในท้องเท่านั้น ดีทั้งแม่ทั้งลูก

    กำลังบุญของคนนั้นเป็นเรื่องแปลก พอเข้ามาอยู่ในท้องแม่ เวลาแม่แพ้ท้องทำอย่างไร ก็ไม่หาย ยกเว้นว่าถ้าได้ตักบาตรเมื่อไร แม่ก็จะหายแพ้ท้องทันที ตรงนี้ ก็ฟ้องว่าเด็กที่มาเกิดนี่ ภพที่แล้วเขาก็เป็นนักทำทาน พอเข้ามาเกิดในท้องแม่ พอแม่แพ้ท้อง ก็บังคับกับแม่ว่าถ้าได้ตักบาตรเมื่อไร ก็จะหาย หรือได้กินขนมนมเนยแล้วก็หาย ไม่นึกอยากกินเลือดสดอย่างกับบางคน

  พวกที่สวดมนต์ภาวนามาข้ามชาติ พอเข้าท้องแม่ปับละก็ แม่แพ้ท้องแล้วรู้สึกอย่างไรก็ถ้าได้สวดมนต์นั่งสมาธิแล้วจะหาย แม่สวดมนต์ไป นั่งสมาธิไป ลูกที่อยู่ในท้องก็ชุ่มหัวอกหัวใจตามเข้าไปด้วยทั้งแม่ทั้งลูก

     เพราะฉะนั้น ความแตกต่างของคนในโลกนี้ ก็มีผลมาจากผลกรรมในอดีต และผลกรรมในปัจจุบันทั้งสิ้นส่วนหนึ่งเราแก้ไขไม่ได้เพราะติดตัวเรามาจากอดีต อีกส่วนหนึ่งเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นใหม่

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงย้ำนักย้ำหนาว่า เราอย่าได้ก่อเวรเพิ่ม มิเช่นนั้น บาปที่เราก่อในวันนี้ จะตามไปส่งผลเราอย่างแน่นอนในวันหน้า ขึ้นชื่อว่ากรรมชั่ว แม้เพียงเล็กน้อยไม่ทำเสียดีกว่า

     เพราะฉะนั้น หัวใจของพระพุทธศาสนาจึงมีว่า ละเว้นความชั่ว ทำความดีกลั่นจิตใจให้ผ่องใสทั้ง 3 ประการนี้ คือการทำความดี เมื่อเราทำความดี ผลกรรมที่ดีจะส่งผลให้เราพบความสุขทันทีที่เราได้ทำ และจะตามส่งผลให้เราสุขยิ่งขึ้น ดียิ่งขึ้นในภพชาติเบื้องหน้า

    กรรมเป็นตัวกำหนดให้เราเห็นความแปลก และความแตกต่างกันของคนในโลกนี้อย่างชัดเจน ใครทำความดีในอดีตมามาก ชาตินี้ก็เกิดมาเพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติและสติปัญญาที่เฉียบแหลม ถ้าเข้าใจตรงนี้ เราจะเชื่อมั่นว่า กรรมทุกอย่างทำแล้วมีผลทั้งนั้น

  สำหรับตัวเรา เมื่อเราเกิดมาชาตินี้ จะเป็นอย่างไร ก็อดทนไปเถิด ในเมื่อเราเกิดมาแล้ว แต่ขอให้ตั้งใจทำความดีให้มากเข้าไว้ อย่ายอมแพ้จิตใจที่ใฝ่ชั่ว อดทนให้มาก ๆ และวิธีทำให้ใจเข้มแข็งไม่มีอะไรเกินการฝึกสมาธิ ยิ่งฝึกสมาธิมากเท่าไร กำลังใจในการทำความดีจะสูงส่งขึ้นตามไปทีเดียว

    เมื่อเรามองทั้งโลกด้วยการเอากฎแห่งกรรมเป็นเกณฑ์เช่นนี้ แล้วเราจะกำหนดเส้นทางชีวิตได้ตามความเป็นจริง ไม่ผิดทาง เราอยากให้เราเป็นอย่างไร เราก็จงทำสิ่งนั้นเถิดผลกรรมมีจริง และให้ผลแน่นอน ทำดีต้องได้ดี ทำชั่วต้องได้ชั่ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ไม่ผิดหรอก คำสอนนี้ก็ผ่านการพิสูจน์มาเป็นพันปีแล้ว นอกจากนี้เรายังเห็นความแตกต่างที่มนุษย์ในโลกนี้ แต่ละคนมีติดตัวกันมาตั้งแต่เกิดได้ชัดเจนอีกด้วย ทั้งหมดนี้ก็เป็นหลักฐานยืนยันที่สอดคล้องกันว่า ผลกรรมมีจริง อย่าได้สงสัย หรือไขว้เขวเป็นอื่นไปเลย ตั้งใจทำความดีเข้าไว้เถิด

   เมื่อนึกถึงคำสอนของหลวงพ่อท่านแล้ว ก็ใคร่ครวญในใจว่า เรื่องของกฎแห่งการกระทำนี้ นักวิทยาศาสตร์เพิ่งเริ่มต้นศึกษามาได้นิดเดียวเอง แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราทรงค้นพบบทสรุปสุดท้ายของกฎแห่งการกระทำนี้แล้วว่า ตายแล้วไม่สูญ ถ้าทำดีก็ไปสวรรค์ทำชั่วต้องตกนรก หมดกิเลสก็ไปนิพพาน

    เพราะฉะนั้น ในเมื่อชีวิตของเรา ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดต่อไป ก็ต้องตั้งใจละเว้นความชั่ว ทำความดี กลั่นใจให้ผ่องใสในชาตินี้ให้มาก ๆ บุญที่เกิดจากการทำความดีจะได้ชักนำเราไปเกิดในภพชาติเบื้องหน้า เราจะได้มีความถึงพร้อมด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติและสติปัญญาที่เฉียบแหลมติดตัวไป รวมทั้งได้ไปเกิดในครอบครัวที่อบรมปลูกฝังศีลธรรมให้เราได้ด้วย ซึ่งก็จะเป็นโอกาสให้เราประสบความสำเร็จในชีวิตที่ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปในทุกภพทุกชาติที่จะต้องไปเกิดอีกต่อไปข้างหน้า จนกว่าจะหมดกิเลสในชาติใดชาติหนึ่งนั่นเอง

    ในทำนองเดียวกัน ถ้าพ่อแม่ต้องการได้คนมีบุญมาเกิดเป็นลูก ก็ต้องตั้งใจทำแต่ความดี ละเว้นอบายมุข และหมั่นสวดมนต์ ทำภาวนาให้ใจผ่องใสเสมอ เพื่อเป็นหลักประกันว่าบุญในตัวพ่อแม่กับบุญในตัวลูกที่มาเกิดมีมากพอใกล้เคียงกัน และนั่นก็จะทำให้พ่อแม่ได้คนมีบุญมาเกิดเป็น มาชิกของครอบครัว เป็นมิ่งขวัญกำลังใจของครอบครัวสืบไปนั่นเอง

 

*----------------------------------------------------------------------------------------------------------*
หนังสือ PD 001 หลักการสร้างความสุขในครอบครัว
หนังสือเรียน หลักสูตร Pre-Degree

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.020017449061076 Mins