ความจริงของชีวิต

วันที่ 22 มิย. พ.ศ.2560

ความจริงของชีวิต


คู่มือพุทธมามกะ , Pre-Degree , วัดพระธรรมกาย , DOU , ธรรมกาย , ปริญญาตรี , พรีดีกรี , พระพุทธศาสนา , พุทธศาสตร์ , พระไตรปิฎก , สร้างบารมี , หลวงพ่อธัมมชโย , พุทธมามกะ , พระสัมมาสัมพุทธเจ้า , ความจริงของชีวิต

 

     นับตั้งแต่วินาทีแรกที่มนุษย์คลอดออกจากครรภ์มารดา ต่างคนต่างก็นำปัญหาประจำชีวิตหลายอย่างติดตัวมาด้วย ปัญหามากมายเหล่านี้ เช่น ความหิว ความร้อน ความหนาว ความแก่ ความเจ็บ ความตาย เป็นต้น ต่างฝังแน่นอยู่ในตัวเรามาตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาโดยไม่ทราบสาเหตุ เราไม่รู้ความจริงเลยว่า ปัญหาเหล่านี้ถูกบรรจุอยู่ในตัวเราได้อย่างไร และอะไรเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้นมา

     เรารู้แต่เพียงว่า ทุกปัญหาล้วนกำลังถาโถมจู่โจมทำร้ายทำลายชีวิตของเราอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก ความเหี้ยมโหดทารุณอย่างไร้เหตุผลและไร้ความปรานีนี้ ได้ทำให้ผู้คนทั้งโลกต่างต้องหลั่งน้ำตาแห่งความสูญเสียมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ปริมาณน้ำตาแห่งความเศร้าโศกเสียใจจึงมากมายยิ่งกว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำและน้ำในมหาสมุทรทั้งโลกรวมกัน หากมีใครสามารถเก็บน้ำตาของคนทุกยุคทุกสมัยมารวมกันไว้ โลกคงจะต้องจมอยู่ในทะเลน้ำตาอย่างแน่นอน

    นี่คือสภาพความจริงของชีวิตมนุษย์ที่ถูกบีบคั้นด้วยสารพัดปัญหาโดยไม่ทราบสาเหตุไม่ว่าใครจะยอมรับหรือปฏิเสธเรื่องนี้ก็ตาม ทุกคนก็ยังต้องเผชิญกับปัญหาประจำชีวิตเช่นนี้อยู่เรื่อยไป ไม่เฉพาะมนุษย์เท่านั้น แม้เทวดาก็ล้วนต้องเผชิญปัญหาประจำชีวิตของตนทั้งสิ้น

     ปัญหาประจำชีวิตมนุษย์นั้น ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเฉพาะในยุคของเราเป็นยุคแรก แต่ได้เกิดขึ้นกับมนุษย์ทุกยุคทุกสมัย มานานแสนนานแล้ว นานจนเกินกว่าจะนับเวลาได้ ชาวโลกในยุคก่อนต่างรู้ซึ้งถึงความรุนแรงร้ายกาจของแต่ละปัญหาอย่างไม่มีวันลืมเลือน แม้จะพยายามหาทางแก้แต่ละปัญหาอย่างสุดชีวิตแล้วก็ตาม ปัญหาทั้งหลายก็ยังไม่หมดไปสักที ทำได้แค่บรรเทาปัญหา หรือชะลอปัญหาเท่านั้น แต่ความจริงคือยังหาทางแก้กันไม่ตก ได้แต่ทำใจให้ปลงตก แล้วจำใจใช้ชีวิตในสภาพถูกมัดมือชกข้างเดียวกันต่อไป เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร

     ใครที่อดทนไม่ไหว ก็คร่ำครวญหวนไห้ไปตลอดชีวิต ใครที่อดทนไหว ก็ไม่ปริปากบ่นก้มหน้าก้มตา กัดฟันดิ้นรน หาทางแก้ไขกันต่อไป ใครได้ความรู้คืบหน้ามาเท่าไร ก็รีบแจกจ่ายความรู้นั้นให้ทั่วถึงทันที เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้ผ่อนหนักเป็นเบาลงบ้าง แต่เมื่ออายุสังขารหมดเวลาลง ก็จำต้องหลับตาลาโลกนี้ไปด้วยความไม่เต็มใจนัก หลงเหลือแต่ความรู้และประสบการณ์จากการสู้ชีวิต ทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาและหาทางกำจัดปัญหาประจำชีวิตต่าง ๆ กันต่อไป อย่างน้อยที่สุด ก็ทำให้มีความรู้สึกว่า การเกิดมาในชาตินี้ของตนไม่สูญเปล่าเพราะอย่างน้อย ก็ได้ทิ้งความคืบหน้าในการลองผิดลองถูกไว้บ้างแล้ว แม้จะยังไม่สมบูรณ์ก็ตาม

     มรดกชิ้นหนึ่งที่ชาวโลกรุ่นก่อนทิ้งไว้ให้คนรุ่นนี้ ก็คือ การบัญญัติศัพท์คำหนึ่ง ซึ่งรวมเอาบท รุปของทุกปัญหาประจำชีวิตไว้ทั้งหมด คำ ๆ นี้บอกเตือนลูกหลานให้รู้ซึ้งถึง ถานการณ์ที่แท้จริงของชีวิต คำ ๆ นี้ทำให้ต้องตระหนักถึงความอยู่รอดของตนเองและเพื่อนมนุษย์ คำ ๆ นี้เป็นเหมือนลูกศรอาบยาพิษที่ปักหัวใจของมนุษย์โดยไม่รู้ว่าใครเป็นคนยิง คำ ๆ นี้ คือ คำว่า "ทุกข์"

      ทุกข์ คำเดียวสั้น ๆ ที่รวมทุกปัญหาชีวิตไว้ทั้งหมด

      ทุกข์ คำเดียวสั้น ๆ ที่กำหนดชะตาชีวิตของคนทั้งโลกไว้ร่วมกัน

      ทุกข์ คำเดียวสั้น ๆ ที่หยุดชีวิตมนุษย์ทุกชนชั้นไว้ที่ลมหายใจสุดท้าย

     ทุกข์ คำเดียวสั้น ๆ ที่ประกาศให้คนทั้งโลกต้องยอมรับความจริงว่า ชีวิตเป็นทุกข์ทุกคนในโลกนี้ต่างต้องเผชิญทุกข์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    ทุกข์ คำเดียวสั้น ๆ ที่เตือนให้เราตระหนักว่า หากเรากำจัดทุกข์ไม่ได้ เราย่อมถูกจองจำอยู่ในห้วงทุกข์อย่างไม่มีวันจบสิ้น แม้ตายไปแล้วเกิดมาใหม่ ก็ยังหนีทุกข์ไม่พ้น

      ทุกข์ คำเดียวสั้น ๆ ที่บอกชะตากรรมให้เรารู้ว่า ทุกชีวิตต่างต้องดิ้นรนหาทางหลุดพ้นกันด้วยตนเอง ใครจะทำแทนใครไม่ได้ และไม่ว่าใครจะยอมรับหรือปฏิเสธก็ตาม ล้วนไม่มีผลทั้งสิ้น เพราะนี่คือชะตากรรมของตัวเราและคนทั้งโลกที่ต่างจะต้องแก้ไขด้วยตนเอง

    ทุกข์ คำเดียวสั้น ๆ ที่ทำให้เราต้องดิ้นรนต่อสู้โดยไม่รู้ความจริงกันตลอดชีวิต และถ้าแก้ไขทุกข์ผิดทาง ย่อมมีแต่เพิ่มทุกข์ให้มากขึ้นอีกร้อยเท่าพันทวี

      ทุกข์ คำเดียวสั้น ๆ ที่ทำให้เรารู้ว่า ยิ่งอ่อนแอมากเท่าไร ยิ่งทุกข์มากเท่านั้น แต่ยิ่งเข้มแข็งมากเท่าไรยิ่งสู้กับทุกข์ได้มากเท่านั้น

      ทุกข์ คำเดียวสั้น ๆ ที่ทำให้เรารู้ว่า เกิดมาต้องสู้ เพราะสู้ก็ตาย ไม่สู้ก็ต้องตายสู้เท่านั้นจึงจะชนะ

      ทุกข์ คำเดียวสั้น ๆ ที่บอกให้เรารู้ความจริงว่า มนุษย์ทุกคนมีหน้าที่หลักประจำชีวิตเหมือนกันหมด นั่นคือ

1) เราเกิดมาเพื่อฝึกอบรมตนให้พร้อมที่จะเผชิญทุกข์
2) เราเกิดมาเพื่อหาทางกำจัดทุกข์ให้หมดสิ้นไป
3) เราเกิดมาเพื่อช่วยกันสร้างสันติสุขให้แก่โลก

      หน้าที่ทั้ง 3 ประการนี้ คือ ความอยู่รอดของตัวเราและเพื่อนมนุษย์ทั้งโลก

      สิ่งเดียวที่ชาวโลกรุ่นก่อนเชื่อว่าสิ่งที่จะช่วยให้เราสามารถทำหน้าที่ทั้ง 3 ประการนี้ได้สมบูรณ์ ก็คือ ธรรมะ

       ธรรมะ คือ ความจริง ความบริสุทธิ์ ความถูกต้อง ความดีงามที่ใช้ในการกำจัดทุกข์ให้หมดสิ้นไป

     หากเราค้นพบธรรมะที่ใช้กำจัดทุกข์ได้สำเร็จ ย่อมไม่ใช่เพียงแต่ตัวเราเท่านั้นที่พ้นทุกข์แต่ยังจะช่วยให้คนทั้งโลกพ้นทุกข์ไปกับเราด้วย

    แต่ปัญหาก็คือ ในโลกนี้มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่า ธรรมะที่ใช้กำจัดทุกข์นั้นคืออะไรอยู่ที่ไหน ลักษณะเป็นอย่างไร และจะค้นพบธรรมะได้อย่างไร นี่คือปัญหาที่มีอยู่ในทุกยุคทุกสมัย และทำให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่หลักประจำชีวิตของมนุษย์ได้สมบูรณ์ ทุกข์จึงไม่หมดไปจากชีวิต คนในโลกจึงยังจะต้องเสียน้ำตาเพราะความทุกข์กันต่อไป

 

 

*----------------------------------------------------------------------------------------------------------*
หนังสือ PD 004 คู่มือพุทธมามกะ
หนังสือเรียน หลักสูตร Pre-Degree

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.021659580866496 Mins