หลานยาย...อย่าดื้อ อย่าซนนะ
โดย กัลฯ ว่าที่ร้อยตรีหญิงกัลยาณี โพธิสาร
"คุณยายเป็นต้นแบบในการสร้างความดี
ไม่ใช่กับดิฉันเพียงคนเดียวเท่านั้น
แต่เป็นให้กับชาวโลกทุกๆ คนด้วย"
กัลฯว่าที่ร้อยตรีหญิง กัลยาณี โพธิสาร
เข้าวัด เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๓๗
การศึกษาทางโลก รัฐศาสตรบัณฑิต
มหาวิทยาลัยรามคำแหง
การศึกษาทางธรรม ธรรมศึกษาเอก จูฬอาภิธรรมิกตรี
งานพระศาสนา เจ้าหน้าที่ฝึกอบรมบุคลากร
ครั้งแรกที่ได้เจอคุณยาย...ที่อาคารยามา ซึ่งมีสาธุชนมานั่งรอกราบท่าน เพื่อที่จะถวายปัจจัย หรือมาขอให้ท่านช่วยในเรื่องส่วนตัว รู้สึกตื่นเต้นจังเลยที่จะได้เห็นคุณยาย เพราะเคยแต่ได้ยินคนพูดถึงคุณยายให้ฟังทำให้อยากรู้จักตัวจริงของท่านมาก
ดิฉันมาอยู่วัดทั้งๆ ที่ไม่ทราบเลยว่าใครเป็นคนสร้างวัดหรือใครเป็นเจ้าอาวาสทราบแต่เพียงว่า วัดแถวบ้าน (ที่ต่างจังหวัด) ก็มีแต่พระเป็นผู้สร้างวัด พอมาอยู่ที่นี่รู้ว่าผู้หญิงเป็นคนสร้างวัด จึงรู้สึกทึ่งว่า ผู้หญิงคนนี้เก่งจังทำได้อย่างไรและอยากพบท่านมาก
เมื่อมาอยู่วัดได้ราว ๓๔ เดือน วันหนึ่งทราบว่าคุณยายจะมาที่อาคารยามา ดิฉันรีบไปดักรอดูด้วยใจจดจ่อว่าอยากจะเห็นท่านสักพักคุณยายก็มาพร้อมกับพี่อารีพันธุ์ท่านยังไม่ทันได้นั่งเลย ก็ยกมือไหว้พวกเราทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องนั้นก่อน และพูดว่า
"ให้ได้บุญกับยายเยอะๆ กันทุกๆ คนนะ"
ดีใจจังที่ได้เห็นหน้าคุณยาย คุณยายยิ้มให้ เป็นยิ้มที่น่ารักที่สุดในโลก มีแต่ความจริงใจ บริสุทธิ์ ดูแล้วเย็นเข้าไปถึงใจข้างในเลย...นี่เป็นครั้งแรกที่ดิฉันได้เห็นคุณยาย และตั้งความหวังไว้ในใจว่าอยากจะได้พบคุณยายทุกๆ วัน
แล้ววันนั้นก็มาถึง วันที่ใฝ่ฝันว่าจะมีโอกาสพบคุณยายใกล้ๆ ตอนนั้นดิฉันทำงานอยู่ที่โรงเรียนพระปริยัติธรรมพี่คนหนึ่งบอกว่า "คุณยายมาแล้ว คุณยายมาแล้ว" ดิฉันดีใจมาก
คุณยายกับพี่อารีพันธุ์มานั่งที่โรงเรียน พวกพี่ๆ ที่โรงเรียนก็เข้าไปกราบ รวมทั้งดิฉันด้วย โอ้! ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่ได้เห็นคุณยายใกล้ๆ กระเถิบไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว
คุณยายเมตตาเล่าเรื่องราวในสมัยที่ทำวิชชาอยู่กับหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เนื้อความเป็นอย่างไร จำไม่ได้ เพราะมัวแต่จ้องดูคุณยาย ด้วยความเคารพและศรัทธา ดิฉันนั่งดูคุณยายไปก็ยิ้มไป พี่ๆ ต่างก็เข้าไปกราบที่ตักคุณยายดิฉันนั่งอยู่แถวหลังไม่กล้าเข้าไป เพียงแต่ยกมือจรดหน้าผากไหว้คุณยายเท่านั้น
ทันใดนั้นคุณยายก็หันมาที่ดิฉัน แล้วก็กวักมือเรียกเข้าไปใกล้ๆ ดิฉันรีบคลานเข้าไปกราบที่ตัก คุณยายเอามือลูบศีรษะ แล้วพูดว่า "นี่หลานยายนะ อย่าดื้อ อย่าซนนะ"
อารามที่ดีใจมาก ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่นึกในใจว่า "หนูดื้ออย่างไรหนอทำไมคุณยายถึงพูดกับหนูอย่างนี้นะ"
จากนั้นดิฉันก็คลานถอยหลังออกไปนิดหนึ่ง เพื่อให้คนอื่นมีโอกาสเข้าไปหาใกล้ๆ บ้าง แต่คุณยายก็เมตตากวักมือเรียกดิฉันเข้าไปอีก แล้วพูดอย่างเดิมว่า "หลานยาย อย่าดื้อ อย่าซนนะ"
ดิฉันก็ยิ้มๆ ยกมือไหว้คุณยาย คิดในใจว่า เวลาคนอื่นเข้าไปกราบ ไม่เห็นคุณยายพูดเหมือนกับที่พูดกับดิฉันเลยดิฉันจึงจำคำที่คุณยายพูดไว้ตลอดเวลา และคิดเอาเองว่า คุณยายคงเห็นกระมังว่า ต่อไปข้างหน้าดิฉันอาจจะไปดื้อกับใครเขาเข้า จึงเตือนไว้ก่อน ดิฉันจะได้ระลึกถึงคำสอนของท่านได้...ดิฉันจะไม่ดื้อกับใครหรอกค่ะ คุณยาย แล้ววันนั้นดิฉันได้ถ่ายรูปกับคุณยายด้วย
ณ วันนี้ แม้ว่าคุณยายจะละสังขารไปแล้ว แต่ดิฉันก็ยังมีความรู้สึกว่า คุณยายยังอยู่กับดิฉันตลอดเวลา คุณยายไม่ได้ไปไหน คุณยายเป็นต้นแบบในการสร้างความดีไม่ใช่กับดิฉันเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่เป็นให้กับชาวโลกทุกๆ คนด้วย
คุณธรรมและคุณความดีของคุณยายยังอยู่ในใจลูกหลานทุกคน ที่จะจดจำต้นแบบนี้ไว้ในศูนย์กลางกายตลอดไปเพื่อให้คุณยายได้บุญทุกอย่างกับลูกหลานที่ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมสร้างบารมี เพื่อที่จะติดตามคุณยายไปทุกภพทุกชาติ
ด้วยความเคารพรักและบูชาอย่างสูงสุด
จาก...หลานคุณยาย