ทวนกระแสโลก

วันที่ 26 กค. พ.ศ.2560

   ทวนกระแสโลก,วาไรตี้,บทความประจำวัน

 

    ทวนกระแสโลก

     วันนี้เราได้มาประชุมพร้อมกัน เพื่อมาประพฤติปฏิบัติธรรม มาทำกิจที่สำคัญที่สุดของตัวเราเอง และของมวลมนุษยชาติ กิจในเบื้องต้นนี้เราจะต้องชำระกายวาจาใจของเราให้สะอาดบริสุทธิ์ผ่องใส จะได้เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองร้บบุญกุศลที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ โดยเฉพาะตอนภาคเช้าจะมีพิธีบูชาข้าวพระและถวายปัจจัย ๔ บูชาธรรมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    เพราะฉะนั้น ให้ทุกท่านเอาใจหยุดนิ่ง ๆ ตรงภายในกลางกาย ตรงกลางความใสบริสุทธิ์ ตรงนั้นจะเป็นทางไหลผ่านแห่งมหากุศลอันยิ่งใหญ่ แล้วก็เป็นทางไปสู่อายตนนิพพาน ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเรียกว่า เอกายนมรรคทางเอกสายเดียวที่จะนำไปสู่อายตนนิพพาน มีอยู่ในกลางกายของเรา พระองค์ทรงแสดงเอาไว้ในบทธัมมจักกัปปวตนสูตร ซึ่งเป็นวิธีปฏิบติที่จะให้เข้าถึง พระธรรมกาย ให้เข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว จะได้หลุดพ้นจากความทุกข์ จากกิเลสอาสวะทั้งหลาย ไปสู่อายตนนิพพาน

   พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเอาไว้ว่า ที่สุด ๒ อย่าง คือการประกอบตนให้พัวพันด้วยกามทั้งหลาย และการประกอบตนให้ได้รับความลำบาก ทั้ง ๒ อย่างนี้  ไม่ทำให้พ้นจากข้าศึกคือกิเลสไปได้ ส่วนข้อปฏิบัติอันเป็นทางสายกลางที่พระตถาคตเจ้าได้ตรัสรู้แล้ว ด้วยปัญญาอันยิ่ง ทำความเห็นให้เป็นปกติ ย่อมเป็นไปเพื่อความสงบระงับ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความรู้พร้อม และเป็นไปเพื่อพระนิพพานที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสสอนอย่างนี้ เนื่องจากว่าชีวิตของมนุษย์ทุกๆคนที่เกิดมาในโลกนี้ ต่างก็มีความทุกข์ด้วยก้นทั้งนั้น แล้วก็มีความปรารถนาที่จะแสวงหาหนทางพ้นทุกข์ให้เข้าถึงความสุขที่แท้จริง ซึ่งในสมัยก่อนที่พระองค์จะมาตรัสรู้ ก็มีวิธีการแสวงหาความดับทุกข์อยู่ ๒ วิธีคือ พวกหนึ่งก็ตึงเกินไป อีกพวกหนึ่งก็หย่อนเกินไป  
 
    พวกที่ตึงเกินไปก็มีความเห็นว่าต้องทรมานตัวเอง ทรมานร่างกายเพื่อให้ผู้มีอำนาจสูงสุดซึ่งสมมติเรียกกันว่าพระผู้เป็นเจ้า ให้ท่านเห็นใจสงสารจะได้ช่วยให้พ้นทุกข์ ก็ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะเข้าใจว่าการทำอย่างนี้จะดับกิเลสได้ ซึ่งเป็นวิธีการที่ผิดจากทางมรรคผลนิพพาน ทำให้ร่างกายทรุดโทรม นอกจากทำลายสุขภาพแล้ว ยังบั่นทอนกำลังของตัวเองและกำลังสติปัญญา

    อีกพวกหนื่งก็ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามกระแสกิเลส เข้าใจผิดคิดว่าถ้าจะพ้นทุกข์ได้ ด้องแสวงหาความสนุกสนานเพลิดเพลินในทางโลก เอาตัวไปพัวพ้นหมกมุ่นอยู่ในเรื่องกาม ยินดีในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสที่ชอบใจ ซึ่งในที่สุดก็มีความทุกข์ ความคับแค้นใจเป็นผล แล้วก็ยังไม่พ้นจากทุกข์อีกเช่นกัน 
     
    จนกระทั่งพระพุทธเจ้าของเราบังเกิดขึ้นในโลก พระองค์ได้ทรงทดลองทั้ง ๒ วิธีการนั้นแล้ว เห็นว่ามันไม่เกิดประโยชน์ ไม่ทำให้บรรลุมรรคผลนิพพาน การทรมานตนก็เป็นการลำบากเปล่าหรีอความสนุกสนานเพลิดเพลินในทางโลก มันก็แค่กลบทุกข์เท่านั้น ไม่ใช่เป็นการแก้ทุกข์ เมื่อแก้ทุกข์ไม่ได้ก็ไม่พ้นทุกข์ ดังนั้นพระองค์จึงทรงเลิกทั้ง ๒ วิธีการนั้น แล้วในที่สุดก็ทรงพบหนทางสายกลางที่เรียกว่า มัชฌิมาปฏิปทา ซึ่งเป็นทางเสด็จไปของพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลาย

    หนทางสายกลางที่พระองค์ทรงค้นพบนี้ มีอยู่ทางเดียวเท่านี้เรียกว่า เอกายนมรรค ทางเอกสายเดียวที่อยู่ในกลางกาย เมื่อเรามาเกิดเป็นมนุษย์ ใจเราก็อยู่ที่ศูนย์กลางกาย เมื่อเวลาเราจะหล้บ ใจเราก็ด้องไปหยุดตรงกลางนั้น ถ้าผิดกลางก็หลับไม่ได้ จะเกิด ดับ หลับ ตื่น ก็ต้องอยู่ตรงกลางกายนี้เท่านี้น คือที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ตรงนี้แหละ เรียกว่า มัชฌิมาปฏิปทาหรือเอกายนมรรค

    ถ้าเราปฏิบัติตามที่พระองค์สอนในหนทางสายกลางแล้ว จะเกิดสิ่งหนึ่งขึ้นมาคือ จ้กขุกรณี ธรรมจักขุ จะเกิดการเห็นเป็นปกติ เห็นตรงไปตามความเป็นจริงของสิ่งที่มีอยู่จริงๆ ก็จะเกิด ญาณกรณี ญาณเป็นเครื่องรู้ก็จะเกิดอุปสมายะ เกิดความรู้ ความเห็นที่เป็นไปเพื่อความสงบระงับลังขารทั้งหลาย อภิญญายะ จะเกิดอภิญญาความรู้ยิ่งในทางพระพุทธศาสนา เช่น มีหูทิพย์ตาทิพย์ระลึกชาติได้ รู้วาระจิต มีฤทธิ์ทางใจจนถึงขั้นทำอาสวะให้สิ้นไปได้ สัมโพธายะ รู้ได้รอบตัว รู้พร้อมหมดเลย นิพพานายะความรู้นั้นเป็นไปเพื่อพระนิพพาน นี่ถ้าปฏิบ้ติถูกกลางก็จะได้จ้กขุกรณี ญาณกรณี อุปสมายะ อภิญญายะ สัมโพธายะ นิพพานายะ ครบถ้วนหมด บริบูรณ์หมด

   เพราะฉะนั้น ถ้าเราปรารถนาจะพ้นทุกข์ เข้าถึงความสุขอันเป็นอมตะ ก็ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องในหนทางสายกลาง ดำเนินตามปฏิปทาของพระอริยเจ้าทั้งหลาย คือต้องทำใจให้อยู่เหนือโลก ทวนกระแสของชาวโลก เช่น เขาตรึกเรื่องกาม เราก็เว้นออกจากกาม เขาตรึกเรื่องพยาบาท เราก็เว้นออกจากความพยาบาท เขาตรึกเรื่องการเบียดเบียนก้น เราก็เว้นออกจากการเบียดเบียนเสีย แล้วก็ทำกาย วาจา ใจ ให้บริสุทธิ์ เมื่อบริสุทธิ์เต็มที่ใจก็จะแล่นเข้าไปสู่หนทางแห่งความบริสุทธิ์ภายใน ทางแห่งวิสุทธิมรรค ก็จะมีอายตนนิพพานเป็นเป้าหมาย.

 

 

 

จากหนังสือ แม่บท เดินทางข้ามวัฏสงสาร

วันอาทิตย์ที่ ๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๓


 

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0020523985226949 Mins