อย่าเสี่ยงดีกว่า
“...ถ้าเราคอยระวังรักษาไว้ให้ดีบำเพ็ญสมาธิให้ดวงขาวใสปรากฏอยู่ในศูนย์กลางกายเสมอ
เราจะทำอะไรก็เป็นไปในทางดี...”
หากเปรียบเทียบอัตราเสี่ยงระหว่างการคมนาคมในรูปแบบต่าง ๆ แล้ว การเดินทางทางอากาศนับว่าปลอดภัยและเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่าการคมนาคมประเภทอื่น... คือ ทุก ๆ ๑ล้านเที่ยวบินจะเกิดอุบัติเหตุเฉลี่ยไม่ถึง ๑ ครั้ง (รวมตั้งแต่อุบัติเหตุเล็กน้อยจนไปถึงขั้นร้ายแรง) ซึ่งนับว่ามีอัตราเสี่ยงที่น้อยมาก ต่างจากการจราจรทางบกที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน
มนุษย์เราต้องเผชิญกับความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา ทั้งความเสี่ยงในปัจจุบันชาติ และในสังสารวัฏที่ตลอดการเดินทางเต็มไปด้วยความเสี่ยงมหาศาล ซึ่งอาจวัดคร่าว ๆ ได้ในอัตราเท่ากับ เขาโค : ขนโค ดังที่กล่าวไว้ในพระไตรปิฎกว่าผู้ที่จะไปสู่สุคติภูมิมีปริมาณเปรียบได้กับเขาโค ส่วนผู้ที่จะไปสู่ทุคติภูมิมีปริมาณเปรียบได้กับขนโค
พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านห่วงใยสรรพสัตว์ทั้งหลาย เพราะท่านทั้งรู้ทั้งเห็นภัยในวัฏสงสาร ท่านจึงอยากให้มนุษย์ทุกคนเข้าถึงพระธรรมกาย จะได้มีชีวิตที่ปลอดภัยทั้งในปัจจุบันชาติและในภพชาติเบื้องหน้า ท่านจึงเมตตาเตือนให้มีความเพียรในการปฏิบัติธรรมอยู่เสมอ ๆ ว่า
“...อุตส่าห์พยายามทำกันไปอย่าได้ดูแคลนหนา อย่าได้เห็นแก่เหน็ด แก่เหนื่อย แก่ยากแก่ลำบากแต่เล็ก ๆ น้อย ๆ เมื่อมาประสบพบพุทธศาสนา พบของจริงละ เข้าถึงของจริงให้ได้เอาของจริงใส่ไว้กับตัวไว้ให้ได้ ติดกับตัวไว้ให้ได้อย่าดูถูกดูหมิ่นหนา...”
“...อย่าเล่นเอาอย่างเด็ก ถ้าเมื่อเล่นอย่างเด็กแล้วก็ เล่นหม้อข้าวหม้อแกง เล่นฝุ่นเล่นทรายอยู่ละก็ ชีวิตจะไม่พอใช้...”
“...เข้าถึงธรรมกายให้ได้..ก็จะรู้ตัวทีเดียวว่าอ้อ! เราเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา ได้รู้จักของจริง เห็นของจริงอย่างนี้ ไม่เสียทีที่พ่อแม่อาบน้ำป้อนข้าวมา อุ้มท้องมาไม่หนักเปล่า...”
ถ้าเราปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงดวงปฐมมรรคเข้าถึงกายต่าง ๆ ไปจนกระทั่งเข้าถึงพระธรรมกายและตั้งใจปฏิบัติเรื่อยไปไม่ละทิ้งความเพียร ก็จะมีชีวิตที่ปลอดภัย ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายในสังสารวัฏ
“...ถ้าเราคอยระวังรักษาไว้ให้ดี บำเพ็ญสมาธิให้ดวงขาวใสปรากฏอยู่ในศูนย์กลางกายเสมอเราจะทำอะไรก็เป็นไปในทางดี พูดอะไรก็พูดไปทางดีคิดอะไรก็คิดไปทางดี เพราะฉะนั้น จึงควรบำเพ็ญตนให้เป็นฝ่ายขาวเสมอ เวลาจะตายถ้าปล่อยให้ตกอยู่ในฝ่ายดำเรียกว่าหลงตายจะไปสู่ทุคติ ถ้าอยู่ในฝ่ายขาวเรียกว่าไม่หลงตายจะไปสู่สุคติแน่แท้ จึงเป็นการจำเป็นยิ่งที่จะระวังให้อยู่ฝ่ายขาว...”
“...เมื่อเข้าถึงธรรมกายได้ละก็ นั่นแหละได้รัตนะอันประเสริฐแล้ว ...ถ้าว่าใครอยู่กับรัตนะเช่นนี้ละก็ มีความสวัสดีเรื่อย ปลอดภัยเรื่อยทีเดียวอยู่ในธรรมรัตนะ สังฆรัตนะให้ใส อยู่กับรัตนะนั่นแหละปลอดภัยทีเดียว ไม่ต้องมีภัยอีกต่อไปทีเดียว ได้รับความสุขทีเดียว...ถ้าได้เข้าถึงพุทธรัตนะแล้วอย่าปล่อยเด็ดขาด ใจขาด ขาดไป ตาย ตายไป ใจติดอยู่กับพุทธรัตนะนั่นแหละเอาตัวรอดได้...”
ประโยชน์อื่น ๆ ของการทำสมาธิภาวนานอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้วยังมีอยู่อีกมาก แต่การจะเข้าถึงประโยชน์ต่าง ๆเหล่านั้นได้ ต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่องจึงจะเห็นผล
“...ในการบำเพ็ญภาวนา ความเพียรเป็นข้อสำคัญยิ่ง ต้องทำเสมอ ทำเนือง ๆ ในทุกอิริยาบถ ไม่ว่านั่ง นอน เดิน ยืน และทำเรื่อยไปอย่าหยุด อย่าละ อย่าทอดทิ้ง อย่าท้อแท้ มุ่งรุดหน้าเรื่อยไป ผลจะเกิดวันหนึ่ง ไม่ต้องสงสัย ผลเกิดอย่างไรท่านรู้ได้ด้วยตัวของท่านเอง...”
นี้คือตัวอย่างของผลอันวิเศษจากการทำสมาธิภาวนาที่พระเดชพระคุณหลวงปู่กล่าวไว้
สมาธิกับความสุข : “...สุขในฌานอะไรจะไปสู้ ในภพนี่ไม่มีสุขเท่าถึงดอก สุขในฌานนะ สุขลืมสมบัตินั่นแหละ สมบัติกษัตริย์ก็ไม่อยากได้ สุขในฌานนะ สุขนักหนา...”
สมาธิกับความฉลาด : “...ถ้าว่าทำธรรมกายเป็นละก็ มันฉลาดกว่ามนุษย์หลายสิบเท่าเชียวนะ นี่พอเข้าถึงกายมนุษย์ละเอียด ก็ฉลาดกว่าเท่าหนึ่งแล้ว สูงกว่าเท่าหนึ่งแล้ว เข้าถึงกายทิพย์ก็สองเท่าแล้ว กายทิพย์ละเอียดก็สามเท่าแล้ว กายรูปพรหมสี่เท่า กายรูปพรหมละเอียดห้าเท่า กายอรูปพรหมหกเท่า กายอรูปพรหมละเอียดเจ็ดเท่าเข้าถึงกายธรรมและกายธรรมละเอียด ๘-๙ เท่าเข้าไปแล้ว มันมีความฉลาดกว่ากันอย่างนี้นะ...”
ความเสี่ยงของการเดินทางในสังสารวัฏมีอัตราเท่ากับเขาโค : ขนโค ก็ไม่ทราบว่าโค ๑ ตัวมีขนมากเท่าไร ทราบแต่ว่า ศีรษะมนุษย์ที่มีเนื้อที่เพียงเล็กน้อยนี้มีผมประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ เส้น อัตราเสี่ยงของการเดินทางในวัฏสงสารจึงเป็นอัตราเสี่ยงที่สูงที่สุด น่ากลัวที่สุด
นี่ถ้าพระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านไม่ชี้ทางรอดให้ว่า “หยุดเป็นตัวสำเร็จ” ด้วยการนำใจไปหยุดนิ่งไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ โอกาสที่แต่ละคนจะได้อยู่ในประเภทเขาโคจะมีสักกี่เปอร์เซ็นต์?
จากหนังสือ คำสอนหลวงปู่ สู่โลกปัจจุบัน