อารมณ์
นี่ตั้งแต่กายธรรม-กายธรรมละเอียด กายโสดา-โสดาละเอียด กายธรรมสกทาคา-สกทาคาละเอียด กายธรรมอรหัต-อรหัตละเอียด ๑๐ กายนี่ไปนิพพานได้ทั้งนั้น แต่ว่าไม่มีนิพพานเป็นอารมณ์เหมือนพระอรหัต พระอรหัต พระอนาคามีมีนิพพานเป็นอารมณ์ ไม่มีอารมณ์อื่นละ
สัตว์โลกในโลกนี้มีกามคุณเป็นอารมณ์ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส เป็นที่ชอบใจเป็นอารมณ์หมดทั้งสากลโลก ผู้หญิงก็แบบนั้นแหละ ผู้ชายก็แบบนั้นมีอารมณ์เพราะมีกามภพ จะไม่ให้คิดเรื่องอื่น รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส เท่านั้นเป็นอารมณ์ของมันเชียว ไม่คิดเรื่องอื่นๆ นั่นเป็นเรื่องสำคัญ
ไม่ใช่เท่านั้น เมื่อกามภพมีอารมณ์ เช่นนี้ มนุษย์ชั้นหนึ่ง สวรรค์ ๖ ชั้นมีอารมณ์เดียวกัน
เมื่อถึงกายรูปพรหม อีก ๑๖ ชั้น พวกรูปพรหม ๑๖ ฉันนั้นมี ปฐมฌานเป็นอารมณ์ ทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌาน เป็นอารมณ์ ใจจดใจจ่ออยู่ฌานนั่นแหละ ไม่ไป จ่อจดที่อื่นละ
สวรรค์ ๖ ชั้น มนุษย์ชั้นหนึ่ง ไม่จดจ่อที่อื่น จดจ่ออยู่ที่กามทั้งนั้น รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา ใจจดอยู่นั่น ถอดไม่ออกติดแน่นเชียว
ส่วนรูปพรหมนั่นติดอยู่ที่ปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌาน ติดแบบเดียวกันติดยิ่งกว่าติดในกามอีกแน่นหนาทีเดียว
ส่วนกายอรูปพรหม ๔ ชั้นเล่า ใจจ่ออยู่ที่เอารูปฌาน อากาสานัญจายตนะ วิญญานัญจายตนะ อากิญจัญญายตนะ เนวสัญญานาสัญญายตนฌาน ติดอยู่นั่นถอนไม่ออก นี่สุดภพทั้งหมด
จากพระธรรมเทศนาเรื่อง "รัตนสูตร"