อย่าให้ยายบาป
แม้ว่าคุณยายเป็นครูบาอาจารย์ของหลวงพ่ออีกทั้งเป็นผู้ก่อตั้งและวางรากฐานทุกสิ่งทุกอย่างให้กับวัดพระธรรมกาย ทําให้พระภิกษุและสามเณรรุ่นลูกรุ่นหลานได้มาอาศัยสร้างบุญบารมีโดยสะดวกแต่เวลาที่ท่านสนทนากับพระภิกษุหรือสามเณรนั้นท่านต้องพนมมือก่อนเสมอ แล้วพูดว่า “ท่าน...อย่าให้ยายบาปนะ” คือท่านบอกอย่างนี้ทุกครั้งไปก่อนที่จะถวายความรู้หรือแนะนําพระภิกษุสามเณรด้วยความปรารถนาดีว่าสิ่งใดควรทําหรือไม่ควรทําท่านเกรงว่าการสอนพระนั้นจะเป็นบาปจึงต้องพูดเช่นนี้ก่อน แม้จะพูดกับสามเณรตัวเล็กๆ ท่านก็พนมมือก่อนแล้วพูดว่า “อย่าให้ยายบาปนะ เณร” คุณยายตระหนักดีว่า แม้สามเณรเป็นเด็ก แต่ในเมื่อท่านกําลังพูดกับเด็กมหัศจรรย์ที่สละตนเข้ามาสร้างบุญบารมี ท่านก็ต้องพนมมือขึ้นเพื่อแสดงความเคารพ แล้วจึงกล่าวต่อว่า “เณรทําอย่างนี้สิเณรอย่าทําอย่างนั้นนะ” คุณยายไม่เคยว่าร้ายใคร ท่านสอนหลวงพ่อว่า “เราอย่าไปต่อว่าเขา เดี๋ยวเขาโกรธให้เราสอนและแนะนํา”
ความจริงแล้วคุณยายไม่ได้สร้างเพียงแค่วัดเท่านั้น แต่ท่านได้ถวายความรู้เพื่อสร้างคนด้วยนับตั้งแต่สร้างหลวงพ่อ รวมไปถึงหลวงพ่อทัตตชีโวหลวงพี่ที่เป็นพระเถรานุเถระภายในวัดทุกรูปและหมู่คณะทุกคนที่ได้ใกล้ชิดท่าน ด้วยเหตุนี้เองวัดพระธรรมกายจึงมีระบบระเบียบและแบบแผนอันดีงามทุกประการตามที่คุณยายวางแนวทางไว้ทําให้ศิษยานุศิษย์รุ่นลูกรุ่นหลานได้ดําเนินตามรอยท่าน รากฐานอันแข็งแกร่งของวัดพระธรรมกายจึงเกิดจากข้อแนะนําและคําสอนของคุณยาย ที่ท่านได้ทุ่มเทสร้างและสอนจนกระทั่งเมื่อเห็นว่าพระลูกพระหลานเติบโตพอสมควรแล้ว ท่านจึงถอยออกมาเพื่อทําหน้าที่เป็นหลักในการให้คําปรึกษาต่างๆ เกี่ยวกับการบริหารงานวัดต่อไป