เรื่อง ชฎิลเศรษฐี (ผู้มีภูเขาทองผุดขึ้นหลังบ้าน) ตอน1
ย้อนไปในครั้งพุทธกาล ณ.มหานครอันยิ่งใหญ่ นามว่า ตักกสิลา ราชธานีแห่งแคว้นคันธาระ นครแห่งนี้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของมหาชน นับแต่สามัญชนกระทั่งพระราชาแห่งแว่นแคว้นอันเกรียงไกร ต่างดั้นด้นเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ เพื่อมาแสวงหาความรู้แก่ตน
ณ.ดินแดนแห่งนี้ ยังมีเรื่องราวที่น่าอัศจรรย์อีกประการหนึ่ง เป็นที่กล่าวขานและโจษจันกันอย่างไม่รู้หน่าย นั่นคือเรื่องราวของมหาเศรษฐี ผู้เป็นเจ้าของภูเขาทองคำสูงถึง 80 ศอก สมบัติของท่านนั้นน่าอัศจรรย์นัก บังเกิดขึ้นด้วยอำนาจแห่งบุญของท่านเศรษฐี
เรื่องราวชีวประวัติของเศรษฐีท่านนี้ ล้วนน่าอัศจรรย์ แม้ต้องระหกระเหเร่ร่อนตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลก ถูกทิ้งลงแม่น้ำตั้งแต่แรกเกิด ท่านก็รอดพ้นมาได้ด้วยอานุภาพบุญที่ได้สั่งสมไว้ ..
แม้ที่สุด เมื่อสมบัติอัศจรรย์ได้บังเกิดขึ้นกับท่าน ท่านมิได้หวงแหน ไม่อาลัยอาวรณ์ในสมบัตินั้น สามารถสละสมบัติที่ชนทั้งปวงปรารถนา ออกบวชในเพศสมณะ เพื่อมุ่งหวังกระทำพระนิพพานให้แจ้ง ...มหาเศรษฐีผู้มีหัวใจอันยิ่งใหญ่ท่านนี้ คือ ชฎิลเศรษฐี ดังเรื่องราวต่อไปนี้
ณ.กรุงพาราณสี มีธิดาเศรษฐีนางหนึ่ง เป็นผู้มีความงดงามมาก ท่านเศรษฐีผู้เป็นบิดาหวงแหนนางยิ่งนัก จึงรักษานางไว้ โดยให้อาศัยอยู่บนประสาทชั้นที่ 7 พร้อมกับทาสหญิงรับใช้เพียงคนเดียว
วันหนึ่ง ธิดาเศรษฐีได้เปิดหน้าต่างของปราสาท เพื่อรับลมและแสงสว่าง ขณะนั้นเอง มีวิทยาธรตนหนึ่งได้เหาะผ่านมาทางปราสาทนั้น เมื่อได้เห็นธิดาเศรษฐี วิทยาธรก็หลงไหลในความงามของนาง
จึงเข้าไปทางหน้าต่างของปราสาท อยู่ร่วมกับนางฉันสามีภรรยา ในที่สุด ธิดาเศรษฐีจึงตั้งครรภ์
เมื่อตั้งครรภ์แล้ว ธิดาเศรษฐี ก็ปกปิดครรภ์ของตน ไม่บอกให้ใครล่วงรู้ มีเพียงนางทาสที่คอยรับใช้ตนเท่านั้น
กระทั่งกาลล่วงไป 10 เดือน นางจึงให้กำเนิดทารกน้อยเพศชาย แม้ความรักที่มีต่อบุตรจะท่วมท้นเพียงไร แต่เพราะความกลัวต่อบิดามารดา นางจึงจำใจต้องทิ้งบุตรของตน
โดยสั่งให้หญิงรับใช้ นำเด็กใส่ในภาชนะ ปิดภาชนะนั้นให้แน่นหนา วางพวงดอกไม้ไว้เบื้องบน แล้วจึงนำภาชนะนั้นไปลอยเสียที่แม่น้ำคงคา
แม้ใครๆจะถามถึงสิ่งที่อยู่ในภาชนะ หญิงรับใช้ก็บอกไปว่า “เป็นพลีกรรมของนายหญิงของฉัน”
ทารกน้อยแรกเกิด นอนอยู่ในภาชนะ ลอยไปตามกระแสน้ำโดยไม่รู้ชะตากรรม กระทั่งมาถึงท่าน้ำแห่งหนึ่ง ขณะนั้น มีหญิงสองคนกำลังอาบน้ำอยู่ในแม่น้ำคงคา มองเห็นภาชนะถูกกระแสน้ำพัดมา
หญิงคนหนึ่งจึงพูดขึ้นว่า ภาชนะนั้นเป็นของฉัน ส่วนหญิงอีกนางหนึ่ง ได้กล่าวว่า สิ่งที่อยู่ในภาชนะนั้นเป็นของฉัน ดังนี้แล้วจึงแย่งกันไปเอาภาชนะ
เมื่อเปิดออกดู เห็นเป็นทารกน้อยน่ารัก เพียงแรกเห็นเท่านั้นหญิงทั้งสองก็เกิดความรักในทารกน้อย ต่างก็ปรารถนาที่จะเป็นเจ้าของเด็ก ไม่อาจที่จะตกลงกันได้จึงไปสู่ศาลวินิจฉัย
แม้ศาลก็ไม่อาจวินิจฉัยตัดสินยกทารกให้ใครได้ ในที่สุดจึงทูลเรื่องราวทั้งปวงให้พระราชาทรงตัดสิน
ในที่สุดหญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นอุปัฏฐากของพระมหากัจจายนะเถระ เป็นฝ่ายได้เด็กไป นางได้ตั้งชื่อให้ทารกน้อยว่า ชฎิล เพราะเหตุที่ว่า ในวันแรกเกิด ผมของเด็กนั้นรุงรังยุ่งเหยิง เนื่องจากมลทินแห่งครรภ์ที่ล้างออกไม่หมด
นางเลี้ยงทารกน้อยด้วยความรัก และตั้งใจว่า นางจะถวายเด็กน้อยแด่พระมหากัจจายนะ เพื่อให้เด็กนี้ได้บวชในสำนักของท่าน
ต่อมา เมื่อทารกน้อยชฎิลเติบโตขึ้น เริ่มรู้เดียงสา พระมหากัจจายนะเถระได้เที่ยวจาริกไปในสถานที่ต่างๆ กระทั่งลุถึงนครพาราณสี เช้าวันหนึ่ง ท่านได้ไปบิณฑบาตรที่เรือนของหญิงผู้นี้ นางจึงถวายเด็กน้อยชฎิลแด่พระเถระ
เมื่อพระเถระรับแล้วได้ตรวจดูบุญกรรมของเด็กด้วยญาณทัศนะ ก็เห็นว่า เขาเป็นผู้สั่งสมบุญไว้ในกาลก่อน จะต้องเสวยสมบัติใหญ่ในเพศคฤหัสเสียก่อน อีกทั้งเด็กนี้ยังเล็กนัก แม้ญาณของเขาก็ยังไม่แก่รอบ
ดังนั้น พระเถระจึงได้พาเด็กน้อย ไปฝากไว้ที่เรือนของอุบาสกผู้เป็นอุปัฏฐากคนหนึ่งในนครตักกสิลา ฝ่ายอุบาสกได้รับเด็กน้อยไว้ แล้วบำรุงเลี้ยงเสมือนดั่งบุตรชายของตน
ในเรือนของอุบาสกนี้ มีสินค้าที่เหลือคั่งค้างเป็นเวลานานถึง 12 ปี สินค้านั้นมีจำนวนมากด้วยกัน เขาได้นำสินค้าทั้งหมดไปขายในตลาด แล้วมอบหมายให้เด็กชายชฎิลดูแลสินค้าแทนตน
ด้วยมหาทานบารมีที่เด็กน้อยสั่งสมมาในกาลก่อน เทวดาผู้รักษาพระนคร จึงดลบันดาลให้มหาชนทั้งปวง มุ่งหน้าไปซื้อของกับเด็กชายเพียงผู้เดียวเท่านั้น จนกระทั่ง สินค้าที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ได้หมดสิ้นลงภายในวันเดียว
เมื่อกุฎุมพีกลับมาไม่เห็นสิ้นค้าใดๆ ก็ตกใจ คิดว่า เด็กชายคงทำสินค้าทั้งหมดให้ฉิบหายเป็นแน่แท้ แต่ครั้นพอทราบว่า บัดนี้ สินค้าได้ถูกขายไปจนหมด เขาก็บังเกิดความอัศจรรย์ใจ คิดว่า เด็กคนนี้เป็นผู้มีบุญ
ต่อมาเมื่อชฎิลเจริญวัยเป็นชายหนุ่ม อุบาสกจึงยกบุตรสาวของตนให้แก่เขา แล้วสร้างเรือนให้แก่คนทั้งสอง
ในวันที่ชายหนุ่มชฎิลพร้อมภรรยา ได้เข้าอาศัยอยู่ในเรือนที่บิดาบุญธรรมสร้างให้ เพียงชายหนุ่มก้าวข้ามธรณีประตู เหยียบลงที่พื้นเรือนด้วยขาเพียงข้างเดียวเท่านั้น ภูเขาทองคำเหลืองอร่ามงามตา ก็ชำแรกแผ่นดิน ผุดขึ้นในพื้นที่หลังเรือนของเขาทันที
ภูเขาทองคำมีความสูงถึง 80 ศอก อลังการยิ่งใหญ่ สร้างความโกลาหลให้เกิดขึ้นแก่มหาชนทั้งหลาย
เมื่อพระราชา สดับว่า บัดนี้ภูเขาทองคำได้บังเกิดขึ้นแล้วที่เรือนของชฎิล พระราชาจึงทรงแต่งตั้งเขาให้ดำรงตำแหน่งเศรษฐี พร้อมทั้งพระราชทานฉัตรประจำตำแหน่งให้ นับแต่นั้นมา ชายหนุ่มชฎิล ได้กลายเป็นมหาเศรษฐีผู้มีสมบัติอันมหาศาล ยิ่งกว่าใครในแคว้น.. มหาชนจึงพากันเรียกขานเขาว่า ชฎิลเศรษฐี ติดตาม ตอน 2 ในวันต่อไป
เล่ม 43 หน้า 538 ธัมมปทัฏฐกถา อรรถกถาขุททกนิกาย คาถาธรรมบท